ลุ่มน้ำโขงยังเสี่ยงน้ำหลาก สั่งเฝ้าระวังฝนทั่วประเทศ
สถานการณ์น้ำทั่วประเทศยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แม้ในภาพรวมประเทศไทยตอนบนจะมีปริมาณฝนลดลง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมเริ่มอ่อนกำลัง อย่างไรก็ตาม หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมเวียดนามและอ่าวตังเกี๋ย ยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ได้รับอิทธิพลจากฝน โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 5–8 สิงหาคมนี้ คาดว่าภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจเกิดฝนตกหนัก
ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีปริมาณฝนสะสมสูงสุดที่ 95 มิลลิเมตร รองลงมาคือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 82 มิลลิเมตร ส่วนในภาคอื่น ๆ พบปริมาณฝนสะสมระดับสูงในกาฬสินธุ์ ตาก และตราด
ด้านสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ ขณะนี้มีปริมาณน้ำรวมคิดเป็นร้อยละ 65 ของความจุเก็บกัก หรือราว 52,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ในจำนวนนี้สามารถใช้การได้เพียงร้อยละ 48 หรือประมาณ 28,000 ล้านลูกบาศก์เมตร สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. จึงขอให้ทุกหน่วยงานเร่งบูรณาการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับฝนในช่วงที่เหลือของฤดูฝน และลดความเสี่ยงจากอุทกภัย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย และเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีเลขาธิการ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อเร่งติดตามสถานการณ์น้ำ และขับเคลื่อนมาตรการรองรับอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยง
จากรายงานพบว่า จังหวัดริมแม่น้ำโขง เช่น หนองคาย บึงกาฬ และนครพนม ยังคงเผชิญความเสี่ยงจากน้ำหลากและดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะในพื้นที่เกษตรลุ่มต่ำ แม้บางพื้นที่น้ำเริ่มลดลง เช่น หนองคายและบึงกาฬ แต่ในนครพนมและมุกดาหารระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น
รัฐมนตรีช่วย ฯ ได้เน้นย้ำ 5 ข้อสั่งการหลัก ได้แก่ การบูรณาการข้อมูลผ่านศูนย์ส่วนหน้าฯ ควบคู่กับ สปป.ลาว การเฝ้าระวังแนวกั้นน้ำชั่วคราว การเตรียมพร้อมทรัพยากรและศูนย์พักพิง การจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และการแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast และช่องทางอื่น ๆ รวมถึงการวางแผนแก้ปัญหาระยะยาว เช่น การสร้างประตูระบายน้ำและแนวคันป้องกันน้ำท่วมถาวร
นอกจากนี้ ยังมีรายงานพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน สุโขทัย และพิษณุโลก รวม 10 อำเภอ โดยหน่วยงานท้องถิ่นและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง