ADVANC อัพแพ็กเกจ หนุนกำไร Q2 หมื่นล.

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นักวิเคราะห์ฯ คาด ADVANC กำไรไตรมาส 2/2568 เติบโต YoY โดยมาจากรายได้ธุรกิจ FBB ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการปรับราคาแพ็กเกจขึ้น หลังควบรวม 3BB และการขยายตลาดไปในต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย รวมถึงรายได้ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง จากการใช้งาน DATA ที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าเดิม พร้อมคาดครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก จากการประหยัดต้นทุนจากการประมูลคลื่นความถี่ ซึ่งน่าจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นไป และตามความต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น จากการร่วมถ่ายทอดสด EPL และยังมีจุดเด่นจ่ายปันผลสม่ำเสมอ รวมไปถึงต่อยอดธุรกิจ สู่ Virtual Bank

นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จํากัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ทีมข่าวหุ้นวิชั่น” ว่า คาดการณ์กำไรไตรมาส 2/2568 ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) ไวที่ 10,200 ล้านบาท เติบโต 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และลดลง 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยการเติบโตเป็นไปตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น หลักๆ ยังมาจากรายได้ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (FBB) ที่คาดจะเติบโตราว 10% เนื่องด้วยหลังจากการควบรวม 3BB เข้ามา ก็ได้มีการปรับราคาแพ็กเกจเน็ตบ้านขึ้น และยังได้ลูกค้าจากต่างจังหวัดเพิ่มมาด้วย อีกทั้งรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ (มือถือ) คาดเติบโต 3% จากลูกค้าเดิมใช้งาน DATA เพิ่ม รวมถึงการจำหน่ายแพ็กเกจคอนเทนต์ที่มากขึ้น สนับสนุนรายได้รวมคาดเติบโตราว 5% YoY และต้นทุนคาดเพิ่มขึ้นน้อยกว่ารายได้ หนุนกำไรโต

ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 ลดลง 4% เป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล ที่โดยปกติไตรมาส 2/2568 จะชะลอตัวลง ตามจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง และเข้าสู่ฤดูฝน

ส่วนภาพครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก จากต้นทุนที่ลดลง หลังการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่ โดยเฉพาะจากการประมูลคลื่น 2100MHz ที่ราคาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น ประกอบกับจะสามารถรับรู้รายได้จากการจำหน่ายแพ็กเกจดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเข้ามาหนุน โดยเบื้องต้นประมินว่า จะมีลูกค้าซื้อแพ็กเกจราว 1 ล้านราย โดยหลักเป็นลูกค้ารายเดิมที่อัปเกรดขึ้น

คาดการณ์กำไรทั้งปี 2568 ไว้ที่ 4 หมื่นล้านบาท และปี 2569 คาดเติบโตแตะ 4.5 หมื่นล้านบาท ส่วนเงินปันผลปีนี้คาดไว้ที่ 12.20 บาท และปีหน้าที่ 13.50 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ย 4%

แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 322 บาท โดยมองไปใน 12 เดือนข้างหน้า ธุรกิจยังมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง และไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีมากนัก

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด คาดว่า ADVANC จะรายงานกําไรปกติไตรมาส 2/2568 ที่ 1.09 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.8% YoY และ 3.3% QoQ เป็นไปตามรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ (60% ของรายได้รวม) คาดอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% YoY และ 1% QoQ ปัจจัยขับเคลื่อนหลักน่าจะมาจากระบบเติมเงินซึ่งเป็นผลจากการปรับราคาแพ็กเกจ (ตั้งแต่เดือนก.พ. 2568) เต็มไตรมาส ADVANC ได้ปรับลดปริมาณดาต้าที่สามารถใช้ได้สําหรับแพ็กเกจเริ่มต้น (150 บาท/เดือน) ลงจาก 15GB เป็น 10GB และลดความเร็วลงจาก 4Mbps เป็น 2Mbps เพื่อจูงใจให้ผู้ใช้บริการเปลี่ยนไปใช้แพ็กเกจที่สูงขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยหนุนให้ ARPU ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ระบบรายเดือนน่าจะค่อนข้างทรงตัว

รายได้จากธุรกิจ FBB (15% ของรายได้รวม) คาดว่าจะอยู่ที่ 8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% YoY และ 2.2% QoQ สําหรับยอดขายเครื่องโทรศัพท์มือถือ (15% ของรายได้รวม) น่าจะอยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% YoY แต่ลดลง 27.7% QoQ การปรับตัวลดลง QoQ น่าจะเกิดจากปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้เมื่ออิงกับตัวเลขกําไรปกติไตรมาส 2/2568 ที่ประเมินได้กําไรปกติ 1H68 จะคิดเป็น 53% ของประมาณการทั้งปี

คาดว่า ADVANC จะประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 1H68 ที่ 6.5 บาท/หุ้น (อัตราการจ่ายเงินปันผล 90%) บริษัทจะประกาศผลประกอบการในวันที่ 6 ส.ค.68

ต้นทุนการดําเนินงานที่สําคัญลดลง YoY

คาดว่าต้นทุนการให้บริการรวมค่าเสื่อมราคาจะอยู่ที่2.42 หมื่นล้านบาท ลดลง 2.8% YoY และ 0.1% QoQ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการตัดค่าเสื่อมราคาเต็มจํานวนของสินทรัพย์โครงข่าย 3G ขณะที่คาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะอยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท ลดลง 2% YoY และ 1.7% QoQ หลักๆ เกิดจากค่าใช้จ่ายการตลาดที่ลดลง

กําไรน่าจะเร่งตัวขึ้นใน 2H68

คาดว่ากําไรจะเติบโตเร่งตัวขึ้นใน 2H68 โดยได้แรงหนุนจากการประหยัดต้นทุนจากการประมูลคลื่นความถี่ซึ่งน่าจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังคาดว่า ARPU จะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะระบบเติมเงินเนื่องจากจะได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากการปรับราคาแพ็กเกจ

เห็น upside ต่อประมาณการ

ในปี 2568 ADVANC ตั้งเป้ารายได้จากการให้บริการหลักเติบโต 3-5% และ EBITDA เติบโต 3-5% โดยในไตรมาส 1/2568 บริษัทรายงานรายได้จากการให้บริการหลักเติบโต6.3% และ EBITDA เติบโต 7.4% เมื่ออิงกับตัวเลขที่ประเมินได้ใน ไตรมาส 2/2568 รายได้จากการให้บริการหลักในครึ่งปีแรกน่าจะเติบโต 5.9% และ EBITDA น่าจะเติบโต 8.5% ดังนั้นคาดว่าผลการดําเนินงานของ ADVANC จะออกมาสูงกว่าเป้าที่บริษัทมองไว้ซึ่งบ่งชี้ถึง upside ต่อประมาณการ ทั้งนี้ใช้สมมติฐานรายได้จากการให้บริการหลักเติบโต 3.5% และ EBITDA เติบโต 4% จะทบทวนสมมติฐานอีกครั้งหลังประกาศผลประกอบการ ไตรมาส 2/2568

คงคำแนะนำ OUTPERFORM ราคาเป้าหมายที่ 332 บาท

บริษัท หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน คาดกำไรไตรมาส 2/2568 เท่ากับ 9,699 ล้านบาท หดตัว 8.4% QoQ แต่เติบโต 13.1% YoY หนุนจากรายได้หลักโตต่อเนื่อง จาก 1) รายได้จากธุรกิจมือถือ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY ตามการปรับราคาแพ็กเกจในระบบเติมเงิน และการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการระบบเติมเงินและรายเดือน ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ หรือ APRU เร่งตัวขึ้น 2) รายได้ธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (FBB) คาดโมเมนตัมดีต่อเนื่อง จากจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 3) รายได้จากยอดขายโทรศัพท์มือถือเดือนเม.ย-พ.ค.68 เร่งตัวขึ้น YoY จาก Demand เพิ่มขึ้นหลังจากทรัมป์ประกาศ Reciprocal Tariff

อย่างไรก็ตามยอดขายเดือน เม.ย-พ.ค.68 ลดลง QoQ เหตุจากไม่ได้มีการเปิดตัวโทรศัพท์ใหม่ ซึ่งเป็นไปตาม seasonal ปกติ สำหรับต้นทุนขายคาดทรงตัว YoY จากการพยายามทำ cost optimization ส่วนค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหาร คาดลดลง y-y ตามการลดลงของค่าใช้จ่ายทางการตลาด

คาดกำไรปี 68 โต YoY

คาดกำไรสุทธิปี 68 เท่ากับ 41,978 ล้านบาท โต19.68% YoY โดยหลักมาจากรายได้ธุรกิจมือถือและธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (FBB) ตามความต้องใช้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งหนุนจากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นจากการร่วมถ่ายทอดสด EPL

สำหรับการลงทุนในระยะยาวคงมุมมองเชิงบวกต่อ ADVANC จากจุดเด่นการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ และ Sentiment เชิงบวกจาก 1) รับผลประโยชน์จากการควบรวมของ GULF และ INTUCH , 2) การขยายสู่ธุรกิจ Data Center ผ่านการร่วมทุนกับ GULF และ Singtel โดยเฟส 1 ขนาด 25 MW ที่ล่าสุดวันที่ 16 มิ.ย.2568 เริ่มทยอยเปิดดำเนินการแล้ว 6.4 MW และจะทยอยเปิดให้ครบภายในปีนี้ โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายเฟสต่อๆ ไปอีก 100-200 MW ภายใน 3 ปีข้างหน้า และ 3) ติด 1 ใน 3 รายชื่อผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจากรมว.ให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) โดยADVANC จับมือกับ บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) และ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) โดยจะต้องดำเนินการจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัด และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด รวมถึงผ่านการประเมินความพร้อมจาก ธปท. ก่อนยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Virtual Bank และต้องเปิดดำเนินการภายใน 1 ปี

ทางฝ่ายมองว่าการดำเนินธุรกิจ Virtual Bank เป็นการสร้าง Ecosystem ใหม่ของ ADVANC ที่ต่อยอดจากธุรกิจโทรคมนาคม ด้วยการนำศักยภาพทางเทคโนโลยีมาพัฒนาบริการดิจิทัลรูปแบบใหม่ ช่วยให้คนไทยเข้าถึงโอกาสทางการเงินและดิจิทัลได้อย่างทั่วถึง พร้อมร่วมผลักดันประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (DigitalEconomy) อย่างยั่งยืนในอนาคต

มองว่าADVANC เป็นหุ้นในกลุ่มที่ปลอดภัยจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังมีความไม่แน่นอน จากจุดแข็งด้านการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยคาดว่าปันผลประจำปี 2568 จะอยู่ที่ 12.53 บาทต่อหุ้น และคาดว่าอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ปี 2568 จะอยู่ที่ 4.41%

ราคาพื้นฐานปี 2568 ประเมินไว้ที่ 344.00 บาทต่อหุ้น โดยอิงจากวิธีการประเมินมูลค่าด้วยส่วนลดกระแสเงินสด (DCF)

คาดว่ากำไรสุทธิปี 2568 จะอยู่ที่ 41,978 ล้านบาท เติบโต 19.68% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) โดยหลักมาจากรายได้ของธุรกิจมือถือและธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เติบโตตามความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นจากการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (EPL)

ประเมินราคาหุ้นโดยใช้ประมาณการ DCF และแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาพื้นฐานปี 2568 เท่ากับ 344.00 บาท