BEM จะฟื้นไหม? จากต้นปีรูดแล้ว 24% โบรกฯ ประสานเสียงเชียร์ “ซื้อ” มองผลงานทั้งปีทุบสถิติ “ออลไทม์ไฮ”
ราคาหุ้น บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยวันที่ 1 ส.ค.68 ราคาหุ้นปิดตลาดที่ระดับ 5.40บาท ลดลง 2.70% จากวันก่อนหน้า ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 204.14ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากนับจากต้นปีถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปแล้ว 23.94%จากระดับ 7.10 บาท ณ วันที่ 2 ม.ค. 68 โดยคาดว่าปัจจัยที่กดดันราคาหุ้น มาจากมาจาก ความล่าช้าในการต่ออายุสัมปทานทางด่วน การควบคุมค่าโดยสารรถไฟฟ้า ต้นทุนดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น และผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาสที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นตัวนี้ โดยแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BEMเนื่องจากคาดว่าคาดกำไรในไตรมาส 2/68 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่แนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 3/68คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/68 จากธุรกิจระบบรางที่โดยปกติในไตรมาสนี้จะเป็น High Season นอกจากนี้ มองว่าโครงการค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายที่จะเริ่มในเดือนตุลาคมนี้ จะช่วยเพิ่มปริมาณการเดินทางกลับมา โดยเฉพาะในส่วนของรถไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของกำไรทั้งปีนี้ให้อยู่ที่ระดับ 3.9 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นการทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” BEM ด้วยราคาเป้าหมายที่ 9.10 บาท โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 999 ล้านบาท (-0.4% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน แต่ +14.7% จากไตรมาสก่อน)ซึ่งจะทำให้กำไรทั้งปีคิดเป็น 48% ของประมาณการทั้งปี โดย บล.กรุงศรี ยังคงประมาณการกำไร เนื่องจากเห็นผลบวกจากการดำเนินการโครงการค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ซึ่งจะเริ่มในเดือนตุลาคมนี้
ดังนั้น จึงยังคงการเติบโตของกำไรไว้ที่ 3.8% จากปีก่อนหน้า สำหรับปี 2568 ซึ่งถือเป็นกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.9 พันล้านบาท โดยมีแรงหนุนหลักจากธุรกิจรถไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังทำการวิเคราะห์ความอ่อนไหวของผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการเดินทางต่อกำไรของ BEM การวิเคราะห์ความอ่อนไหวชี้ให้เห็นว่าทุก ๆ การเพิ่มขึ้นของปริมาณการเดินทาง 10% จะเพิ่มกำไรของ BEM ประมาณ 6%
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” BEM ด้วยราคาเป้าหมายที่ 9.50 บาท โดยหากกำไรปกติไตรมาส 2/68ออกมาตามคาด กำไรครึ่งแรกปี 2568 จะคิดเป็น 46% ของประมาณการกำไรปกติปี 2568ที่ 4.1 พันลบ. (+8.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน)
ทั้งนี้ การเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนของทั้งยอดผู้ใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและทางด่วนที่ต่ำกว่าคาด อาจทำให้ประมาณการของ บล.หยวนต้า มี Downsideราว 5-7%
อย่างไรก็ดี คาดแนวโน้มการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งหลังปี 2568มีโอกาสฟื้นตัว โดยแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 3/68คาดเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า จากธุรกิจระบบรางที่โดยปกติในไตรมาส 3/68 จะเป็น High Season และยังมี Catalyst สำคัญจากนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในไตรมาส 4/68ทำให้คงประมาณการ สำหรับเชิงกลยุทธ์แนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง