“ทนายอนันต์ชัย” ชี้กฎหมายคุมเงินวัด มีอยู่แล้วแต่ต้องเข้มงวด
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 16 กรกฎาคม 2568 เวลา 3.19 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท15 ก.ค. – “ทนายอนันต์ชัย” ชี้ กฎหมายควบคุมเงินวัด มีอยู่แล้วแต่ต้องบังคับใช้ให้เข้มงวดขึ้น มองร่างกฎหมายใหม่ เพิ่มโทษพระเสพเมถุน จำคุก 1-7 ปี อาจรุนแรงไป
นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ให้ข้อมูลด้านกฎหมาย เกี่ยวกับการดูแลจัดการเงินของวัดว่า วัดถือเป็นนิติบุคคล จะต้องทำบัญชีงบดุลส่งให้สำนักพระพุทธศาสนาตรวจสอบ โดยมี พ.ร.บ.สงฆ์ ฉบับแก้ไข พ.ศ. 2564 ที่ระบุไว้ว่า การเก็บรักษาเงินวัดมากกว่า 1 แสนบาท จะต้องนำเข้าบัญชีธนาคารของวัด หรือตามที่มหาเถรสมาคมกำหนด และเจ้าอาวาสจะต้องตั้งไวยาวัจกรและกรรมการวัดให้เป็นผู้ดูแลจัดทำงบดุลรายรับรายจ่าย โดยเจ้าอาวาสต้องเป็นผู้ดูแลตรวจสอบเท่านั้น ดังนั้นพระต้องไม่มีสิทธิได้จับเงินวัดเลย
แต่ที่ผ่านมา บางวัดมีเงินไม่มาก หรือไม่มีไวยาวัจกรวัด ก็ไม่ได้ทำงบดุล ทำให้มีช่องโหว่ทางพฤตินัย แต่หลังจากนี้ควรต้องบังคับเข้มงวดมากขึ้น โดยไม่มีข้อยกเว้น ทุกวัดต้องทำตามมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าจะมีเงินมากหรือน้อยก็ตาม
ในส่วนของกระแสสังคมที่มีคำถามว่าการทำผิดของพระสงฆ์ แค่สึกหรือปาราชิกแล้วจบหรือไม่ ในทางพุทธ การปาราชิก เกิดจากความผิด 4 อย่างคือ 1 เสพเมถุน 2 ลักทรัพย์ 3 ฆ่ามนุษย์ และ 4 อวดอุตริ จะเห็นว่าข้อ 2 และ 3 มีความผิดทางอาญาชัดเจนอยู่แล้ว สึกแล้วไม่จบแน่นอน โดยเฉพาะพระที่อยู่ในระดับรองเจ้าอาวาสขึ้นไป ถือเป็นพระสังฆาธิราช หรือเรียกให้เข้าใจง่าย คือเป็นเจ้าพนักงาน เพราะฉะนั้น หากยักยอกเงินวัด ก็จะเข้าข่ายความผิดทางอาญา ทั้งมาตรา 147 ยักยอกทรัพย์ และมาตรา 157 เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และผู้ที่รับเงินนั้นไป จะมีความผิดรับของโจร และหากพบความผิดอื่นก็จะพ่วงข้อหาเพิ่มอีก
แต่ในส่วนของความผิดจากการเสพเมถุน ที่ยังไม่มีโทษอาญา แต่ทราบว่าทางสำนักพุทธเสนอร่างเข้าสู่สภานั้น ตนก็มองว่า โทษจำคุก 1-7 ปี ปรับ 240,000 บาท ถือเป็นโทษสูง อาจต้องเพิ่มรายละเอียดในเรื่องของเจตนาเข้าไปด้วย เพราะเข้าใจได้ว่า พระบางรูป บวชเรียนแต่เด็กจนโต ความรู้ทางธรรมมีมาก แต่ความรู้ทางโลกน้อย การตั้งโทษสูงเกินไปก็อาจไม่มีโอกาสให้รอลงอาญา หรือมีระยะเวลาให้ได้พิสูจน์เจตนาน้อย
สำหรับกฎหมายเกี่ยวกับความผิดของสงฆ์ ใน 3 ประเด็น คือ การบิดเบือนพระไตรปิฎก การยักยอกเงินวัด และการเสพเมถุน ตนมองว่ามีรายละเอียดยิบย่อย ถ้าจะร่างกฎหมายใหม่ น่าจะทำได้ยาก ต้องผ่านหลายด่าน ต้องทำประชามติ แต่ถ้าใช้วิธีเสนอแก้ไขกฎหมาย ก็จะง่ายกว่า เพราะสามารถทำได้เลย.-สำนักข่าวไทย