‘ค่ายแดง’ ตรึงสภาฯ ยื้ออำนาจ ยิงสกัด ‘น้ำเงิน’ ล้มรัฐบาล

ประเมินเสียงของ 2 ขั้วใน สภาผู้แทนราษฎร เห็นได้ชัดว่า ขั้วรัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ ถ้ามี สส.คนใดในพรรคร่วมฯ ลา ป่วย หรือไม่เข้าร่วมประชุม องค์ประชุมสภาฯ ย่อมถูกตรวจสอบจากกลเกมฝ่ายค้านได้ทุกเมื่อ

เช็คเสียงสส.ของ“พรรคร่วมรัฐบาล” มีทั้งหมด 11 พรรค253 เสียง คือ พรรคเพื่อไทย 140 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคกล้าธรรม 25 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียสง พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง พรรคไทยก้าวหน้า 1 เสียง

แน่นอนว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่มีเสียงของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ อยู่ในสมการพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้เหลือเสียง 252 เสียง แต่ยังมีเสียงจากปีกฝ่ายค้านที่มีใจให้กับพรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคไทยสร้างไทย 3 เสียง พรรคประชาชน จาก กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ คือ กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ

เบ็ดเสร็จ พรรคร่วมรัฐบาลจะมีเสียงในสภาฯ ไม่ต่ำ 257 เสียง ขณะที่องค์ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะต้องมากกว่า 246 เสียง เพราะปัจจุบัน (ก.ค. 2568) สส.ทั้งหมดที่ปฏิบัติหน้าที่ได้มีอยู่ 492 คน (รอประกาศ เลื่อนลำดับ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รอการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต5 )

ส่วนพรรคฝ่ายค้าน มีเสียงทั้งหมด 239 เสียง หักลบกับเสียงของ สส.ที่อยู่ค่ายรัฐบาลไม่ต่ำ 5 เสียง เท่ากับว่า ฝ่ายค้านจะมีเสียงอยู่เพียง 230 กว่าๆ

เปิดสมัยประชุมรัฐสภาล่าสุด คอการเมืองได้เห็นท่าที ฝ่ายค้านเต็มตัวของ “พรรคภูมิใจไทย” หัวขบวนสีน้ำเงิน เดิมเกมเต็มสูบ กับการตรวจสอบรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ผู้นำจิตวิญญาณ “เพื่อไทย” อ่านเกมไว้อยูู่แล้ว หากดีด 69 เสียงพรรคภูมิใจไทย ออกจากสมการรัฐบาลแล้ว พรรครัฐบาลจะต้องเผชิญกับเกมที่ฝ่ายค้านจะตั้งธงล้มรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ต่างฝ่ายต่างรู้ว่า ต้องทำอย่างไร เพราะหากพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายค้านก็ต้องใช้วิธีทำลายความชอบธรรมของพรรคร่วมรัฐบาลผ่านวิธีการแสดงตนนับองค์ประชุม รวมถึงกลไกตรวจสอบรัฐบาล ทั้งอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตั้งกระทู้ถามสด และการโหวตหักดิบผ่านกฎหมายสำคัญ

ต่างฝ่ายต่างรู้ว่า ต้องทำอย่างไร เพราะหากพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายค้านก็ต้องใช้วิธีทำลายความชอบธรรมของพรรคร่วมรัฐบาลผ่านวิธีการแสดงตนนับองค์ประชุม รวมถึงกลไกตรวจสอบรัฐบาล ทั้งอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตั้งกระทู้ถามสด และการโหวตหักดิบผ่านกฎหมายสำคัญ

เกมนับองค์ประชุมสภาฯ จึงเป็นทางอ้อม และแทคติกที่“ฝ่ายค้าน” จะหยิบมาใช้เสมอ เมื่อรัฐบาลอยู่ในสภาวะเสียงปริ่มน้ำ

“น้ำเงินต้องทำอย่างไรก็ได้ ให้แดงพังเร็วที่สุด คือการล้มรัฐบาล เพื่อให้เข้าสู่การเลือกตั้งโดยเร็ว ส่วนแดงก็ต้องทำอย่างไรก็ได้ ให้ตัวเองอยู่ในอำนาจนานที่สุด” แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ประเมินถึงฉากรบประลองกำลังผ่านรัฐสภาของ “แดง” กับ “น้ำเงิน”

จุดชี้เป็นชี้ตายของ “ภูมิใจไทย”อยู่ที่ คดีเขากระโดง และคดีฮั้ว สว.

ต้องไม่ลืมว่า “น้ำเงิน” กวาด สส.มาได้ด้วยปัจจัยของ “กระสุน” ฉะนั้น หากปล่อยให้ “รัฐบาลเพื่อไทย” ครองอำนาจต่อเนื่อง หรือยื้ออำนาจออกไปเรื่อยๆ จะมีผลกระทบต่อ “สรรพกำลัง” ของ “ค่ายน้ำเงิน”อย่างแน่นอน

คนการเมืองในปีกพรรคร่วมรัฐบาล อ่านเกมว่า“ถ้ารัฐบาลอยู่นาน น้ำเงินอาจตาย ด้วยคดีเขากระโดง”

ทำให้ท่าทีของ “ภูมิใจไทย” จึงเดินเกมแรงในบทบาทฝ่ายค้านเต็มตัว ยิ่งเลือกตั้งช้าเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้ค่าใช้จ่ายทางการเมืองมากขึ้นเท่านั้น การคัดค้านร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เมนเมนต์คอมเพล็กซ์ จึงเห็นท่าทีชัดจากค่ายน้ำเงิน ผ่านการลงมติไม่เห็นด้วยกับการให้ถอนร่างกฎหมายดังกล่าว 66 เสียง และได้เสียงจากพรรคไทยสร้างไทย อีก 2 เสียงร่วมคัดค้าน

แม้เกมนิติบัญญัติของ “เพื่อไทย” จะอ่อนกำลังลง ด้วยสภาวะที่จะต้องตรึงองค์ประชุมสภาฯ อยู่ตลอดเวลา แต่การจัดทัพรับมือฝ่ายค้านในสภาฯนั้น เพื่อไทยยังให้น้ำหนักกับ สส.รุ่นเก๋าในสภาฯ ช่วยประคอง สส.มือใหม่

“วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล จึงต้องงัดยาแรง ถ้าไม่จำเป็น ห้าม สส.ลา ขาดประชุมเด็ดขาด ภาพรวมการตรึงองค์ประชุมและรักษาเสียงในสภาฯ จึงมีการจัดทัพให้เข้มงวดกว่าเมื่อครั้งที่มีเสียงเกินกว่า 300 เสียง

แน่นอนว่า การลงมติในวาระพื้น ๆ ขุนพลคีย์แมนค่ายแดง กำหนดเส้นปลอดภัยว่า จะต้องมีเสียงเห็นชอบจากซีกรัฐบาลไม่ต่ำกว่า 253 เสียง ส่วนการโหวตเรื่องสำคัญ ทั้งกฎหมายงบประมาณ หรือการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ สส.พรรคเพื่อไทยจะต้องเข้าร่วมประชุมเต็มพิกัด

ท่ามกลางสภาวการณ์รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ที่ต้องเดินเกมเพื่อรักษาองค์ประชุมสภาฯ ประคับประคองรัฐบาล ขณะที่นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ถูกหยุดพักงาน ทำให้ผู้นำสูงสุดของค่ายแดง จำเป็นต้องทิ้งไพ่ใบสุดท้าย คือการเลือกตั้งภายใน 1 ปีนับจากนี้

หากประคองอำนาจรัฐบาลเพื่อไทยไปได้สักระยะ ก็จะเป็นการเผาเวลาไม่ให้ “ภูมิใจไทย” มีสรรพกำลังอาวุธหนักเพื่อต่อกร ศึกเลือกตั้งในอนาคตได้

กลเกมฉากรบนิติบัญญัติเวลานี้ จึงทำให้เห็นภาพงัดกันระหว่าง “แดง” และ “น้ำเงิน” อย่างดุเดือด มากกว่า ที่ “ก๊กส้ม” จะเปิดฉากรบกับ “ค่ายแดง”

จับตาสถานการณ์งูเห่าฝ่ายค้านให้ดีนับจากนี้ไป เมื่อ “พรรคเพื่อไทย” ได้เสียงงูเห่าจาก “ภูมิใจไทย” เพิ่มอีก 3 เสียงที่มาโหวตเห็นชอบด้วยกับรัฐบาลเพื่อถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์

ว่ากันว่า 3 สส.พรรคภูมิใจไทย ชูกัน กุลวงษา สส.นครพนม ประภา เฮงไพบูลย์ สส.กาฬสินธุ์ และ อรอุมา บุญศิริ สส.บึงกาฬ ที่โหวตให้รัฐบาล เป็นผลจากการเดินเกมยิงของคีย์แมนฝ่ายบริหารคนข้างกายนายใหญ่

3 สส.แหกคอกค่ายน้ำเงิน ทำให้คนของภูมิใจไทยออกอาการฉุนหนักมากที่ “เพื่อไทย”เจาะทะลวง สส.ปีกน้ำเงินให้มาอยู่ซีกเพื่อไทย

ฉากรบในสภาฯ “เพื่อไทย” วางเกมตรึงกำลัง สส.ในสภาฯ ขณะที่อีกขาหนึ่งจะต้องจับตาการเดินเกมโดย“คีย์แมน”กระเป๋าหนักระดับบิ๊กรัฐบาลกับรัฐมนตรีป้ายแดง ซึ่งมีสรรพกำลังที่สามารถใช้อาวุธหนักทะลวงดูด สส.ค่ายศัตรูมาแก้ปัญหาสภาวะเสียงปริ่มน้ำได้

เมื่อ“น้ำเงิน”พยายามหนีตายจากคดีเขากระโดงและ คดีฮั้ว สว. เกมของ “เพื่อไทย” ก็ต้องดิ้นรนรักษาอำนาจ ตักตวง “สรรพกำลัง” ให้ได้มากที่สุด ก่อนถึงเวลายุบสภาฯ เมื่อคู่แข่งคู่แค้นอยู่ในสภาวะอ่อนกำลังสุดๆ เพื่อกลับสู่อำนาจรัฐบาลอีกครั้ง