ตลาดรถมือสองครึ่งปี 2568 ร่วง 10% จี้ผู้ประกอบการ-ไฟแนนซ์ ปรับตัวรับ EV
นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยว่า จำนวนรถยนต์ใช้แล้วที่เข้าสู่ตลาดในปี 2567 มีเฉลี่ยเดือนละ 25,000 คัน หรือประมาณ 300,000 คันต่อปี แต่ตลาดรถมือสองในปี 2568 ลดลงเหลือเฉลี่ยเพียงเดือนละ 18,458 คัน หรือคิดเป็นการลดลงกว่า 28%
ด้านยอดขายรถยนต์ใช้แล้ว ปี 2566 มียอดขายรวม 406,000 คัน ปี 2567 ลดลงเหลือ 316,000 คัน หดตัวประมาณ 22% ขณะที่ตลาดรถมือสองช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 มียอดขายรวม 285,000 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 10%
ขณะนี้อุตสาหกรรมกำลังเผชิญจุดเปลี่ยนที่สำคัญ จากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจ ราคาสินค้า และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ทั้งจำนวนรถยนต์ใช้แล้วที่เข้าสู่ตลาด ยอดขาย และการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยอดการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินสำหรับรถยนต์ใช้แล้ว ลดลงจากปี 2566 ถึง 2567 กว่า 25%และในปี 2568 ยังลดลงต่อเนื่องอีกประมาณ 10%
สถานการณ์ปัจจุบันสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้วอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการปรับตัวให้ทันต่อบริบทใหม่นี้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ รัฐบาล และสถาบันการเงิน เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมให้สามารถฟื้นตัว และเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์สู่รถไฟฟ้า (EV) เป็นอีกแรงกระเพื่อมสำคัญ ที่ต้องเตรียมรับมือ ไม่เพียงแต่ในด้านธุรกิจ แต่รวมถึงผลกระทบต่อแรงงานและซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง
“การรวมพลังจากทุกภาคส่วน เป็นโอกาสในการยกระดับมาตรฐานสร้างความเชื่อมั่น ความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงแนวทางสนับสนุนจากสถาบันการเงิน จะช่วยเสริมสภาพคล่องและทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยปรับตัวได้เร็วขึ้นเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในอุตสาหกรรม และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในระยะยาว” นายวิสุทธิ์ กล่าว