โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

โครงการ คุณสู้ เราช่วย มาตรการชั่วคราวช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์

TERRABKK

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • TERRABKK
โครงการ คุณสู้ เราช่วย มาตรการชั่วคราวช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์

โครงการ คุณสู้ เราช่วย โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Banks) บางแห่ง ออกมาตรการชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและ SMEs เฉพาะกลุ่ม

ภายใต้ โครงการ คุณสู้ เราช่วย โดยการช่วยเหลือจะครอบคลุมลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจ Non-Bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ พบว่าลูกหนี้ยังคงให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีการขยายระเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 (ระยะที่ 2) จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 (ขยายเวลาครั้งที่ 2)

สมัครเข้าร่วมโครงการ คลิก https://services.bot.or.th/cpm?id=smp_landing_page

* ทั้งนี้ มาตรการของผู้ให้บริการแต่ละแห่ง มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน โปรดศึกษารายละเอียด คุณสมบัติ และเงื่อนไข ก่อนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
ที่มา : BOT https://www.bot.or.th/th/news-and-media/activities/khunsoo.html

มาตรการสำหรับลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) และ Non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มของธนาคารพาณิชย์

มาตรการที่ 1 "จ่ายตรง คงทรัพย์"
สำหรับผู้ที่มีหนี้บ้าน หนี้รถ หนี้รถจักรยานยนต์ และหนี้ธุรกิจขนาดเล็กที่มีวงเงินไม่สูงมาก ให้สามารถรักษาทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันไว้ได้ โดยปรับโครงสร้างหนี้แบบลดค่างวดและลดภาระดอกเบี้ย ซึ่งค่างวดที่จ่ายจะนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด เพื่อให้ปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น ในขณะที่ดอกเบี้ยจะถูกตั้งพักไว้เป็นเวลา 3 ปี และหากผู้เข้าร่วมโครงการปฏิบัติได้ตามเงื่อนไข ดอกเบี้ยที่พักไว้จะได้รับยกเว้นทั้งหมด

รูปแบบการให้ความช่วยเหลือ
(1) ลดค่างวด เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยลูกหนี้ชำระค่างวดขั้นต่ำที่ 50p% และ 90% ของค่างวดเดิม ในปีที่ 1 ปีที่ 2 และปีที่ 3 ตามลำดับ (เพิ่มแบบขั้นบันได) ซึ่งค่างวดทั้งหมดจะนำไปตัดเงินต้น
(2) พักดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยดอกเบี้ยที่พักไว้จะได้รับยกเว้นทั้งหมด หากลูกหนี้ปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขตลอดช่วงระยะเวลา 3 ปีของมาตรการ และไม่ก่อหนี้เพิ่มในช่วง 12 เดือนแรกหลังเข้าร่วม

ทั้งนี้ ลูกหนี้สามารถชำระมากกว่าค่างวดขั้นต่ำที่กำหนด เพื่อตัดเงินต้นเพิ่มและปิดจบหนี้ได้ไวขึ้น

คุณสมบัติลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมมาตรการได้
(1) มีวงเงินสินเชื่อรวมต่อสถาบันการเงินไม่เกินที่กำหนด โดยพิจารณาแยกวงเงินในสัญญา (ต่อสถาบันการเงิน) ตามประเภทสินเชื่อ ดังนี้

  • สินเชื่อบ้าน / บ้านแลกเงิน (Home for cash) วงเงินรวมไม่เกิน 5 ล้านบาท
  • สินเชื่อเช่าซื้อ / จำนำทะเบียนรถยนต์ วงเงินรวมไม่เกิน 8 แสนบาท
  • สินเชื่อเช่าซื้อ / จำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ วงเงินรวมไม่เกิน 5 หมื่นบาท
  • สินเชื่อธุรกิจ SMEs วงเงินรวมไม่เกิน 5 ล้านบาท
  • กรณีหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลและหนี้บัตรเครดิต หากมีหนี้บ้านหรือหนี้รถที่เข้าเงื่อนไขข้างต้น สามารถพิจารณาเข้ามาตรการรวมหนี้ ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่สถาบันการเงินรับได้ โดยวงเงินรวมต้องไม่เกินที่กำหนด

(2) เป็นสินเชื่อที่ทำสัญญาก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567
(3) มีสถานะหนี้ ณ วันที่ 31 ต.ค. 67 อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
(3.1) ค้างชำระมากกว่า 30 วัน นับจากวันครบกำหนดชำระ หรือ
(3.2) ไม่ค้างชำระ หรือค้างชำระไม่เกิน 30 วัน (นับจากวันครบกำหนดชำระ) ซึ่งเคยมีประวัติค้างชำระ* และเคยปรับโครงสร้างหนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. 65
*สำหรับลูกหนี้ที่เคยมีประวัติค้างไม่เกิน 30 วัน ให้ดูวันค้างตั้งแต่ 1 ม.ค. 65

เงื่อนไขของการเข้าร่วมมาตรการ

(1) ลูกหนี้จะไม่สามารถทำสัญญาสินเชื่ออุปโภคบริโภคใหม่ ใน 12 เดือนแรกหลังเข้าร่วมมาตรการ ยกเว้น กรณีสินเชื่อธุรกิจ SMEs ที่จำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง เจ้าหนี้สามารถให้สินเชื่อเพิ่มเติมได้โดยจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ตามความเหมาะสม
(2) จะถูกรายงานข้อมูลใน NCB ว่าเข้าร่วมมาตรการ
(3) หากไม่สามารถชำระค่างวดขั้นต่ำได้ตามที่กำหนด หรือไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่น ๆ ได้ เช่น ก่อหนี้ใหม่ก่อนระยะเวลา 12 เดือน จะต้องออกจากมาตรการและชำระดอกเบี้ยที่ได้รับการพักไว้
(4) หากสัญญาสินเชื่อมีผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันต้องให้ความยินยอมและลงนามในสัญญาค้ำประกันใหม่

ตัวอย่างการคำนวณ : สินเชื่อบ้าน-สินเชื่อรถ

มาตรการที่ 2 “จ่าย ปิด จบ”
สำหรับผู้ที่มีหนี้เสีย และยอดหนี้ไม่สูง จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรน เพื่อให้สามารถชำระหนี้ ปิดบัญชีได้เร็วขึ้นพร้อมเริ่มต้นใหม่

รูปแบบการให้ความช่วยเหลือ
ลูกหนี้สามารถชำระหนี้บางส่วน เพื่อให้สามารถจ่าย และปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น

คุณสมบัติลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมมาตรการได้
(1) ลูกหนี้บุคคลธรรมดาทุกประเภท ที่มีสถานะหนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน (NPL)
(2) มีภาระหนี้ ดังนี้
- ทุกประเภทสินเชื่อ ที่มีภาระหนี้ไม่เกิน 5,000 บาทต่อบัญชี
- สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ที่มีภาระหนี้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อบัญชี
- สินเชื่อที่มีหลักประกัน* ที่มีภาระหนี้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อบัญชี และมีวงเงินสินเชื่อต่อบัญชีดังนี้
> บ้าน/บ้านแลกเงิน/ SMEs บุคคลธรรมดา วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท
> เช่าซื้อ/จำนำทะเบียนรถยนต์ วงเงินไม่เกิน 8 แสนบาท
> เช่าซื้อ/จำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ วงเงินไม่เกิน 5 หมื่นบาท
* ซึ่งบังคับหลักประกันแล้วและไม่สามารถติดตามทรัพย์ได้

มาตรการที่ 3 “จ่าย ตัด ต้น”
ลูกหนี้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ที่มีหนี้เสียของสินเชื่อไม่มีหลักประกัน (เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด) จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ให้มีเงื่อนไขการผ่อนชำระคืนเป็นงวด (term loan) แบบผ่อนปรน โดยดอกเบี้ยจะถูกตั้งพักไว้ 3 ปี และหากผู้เข้าร่วมโครงการสามารถปฏิบัติได้ตามเงื่อนไข ดอกเบี้ยที่พักไว้จะได้รับการยกเว้นทั้งหมด

รูปแบบการให้ความช่วยเหลือ

  • ปรับโครงสร้างหนี้ให้ผ่อนชำระคืนเป็นงวด (term loan)
  • ผ่อนชำระ 2% ของเงินต้นคงค้างก่อนเข้ามาตรการ
  • ค่างวดที่จ่ายจะนำไปตัดต้นทั้งหมด และดอกเบี้ยตั้งพักไว้ เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยจะยกเว้นดอกเบี้ยที่พักไว้ทั้งหมด หากลูกหนี้ปฏิบัติได้ตามเงื่อนไข
  • ลูกหนี้สามารถตกลงกับเจ้าหนี้ในการชำระค่างวดมากกว่าที่กำหนดได้ เพื่อตัดเงินต้นเพิ่มและปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น

คุณสมบัติลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมมาตรการได้

  • ลูกหนี้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย (NPL) ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567
  • สินเชื่อไม่มีหลักประกัน (เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล) ยอดหนี้ ไม่เกิน 50,000 บาทต่อบัญชี
  • สัญญาสินเชื่อทำก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567

เงื่อนไขของการเข้าร่วมมาตรการ

(1) ลูกหนี้จะไม่สามารถทำสัญญาสินเชื่ออุปโภคบริโภคใหม่ ใน 12 เดือนแรกหลังเข้าร่วมมาตรการ หากจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องในการทำธุรกิจ เจ้าหนี้สามารถให้สินเชื่อเพิ่มเติมได้ โดยจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ตามความเหมาะสม
(2) จะถูกรายงานข้อมูลใน NCB ว่าเข้าร่วมมาตรการ
(3) หากไม่สามารถชำระได้ตามที่กำหนด หรือไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่น ๆ ได้ เช่น ก่อหนี้ใหม่ก่อนระยะเวลา 12 เดือน จะต้องออกจากมาตรการและชำระดอกเบี้ยที่ได้รับการพักไว้

สถาบันการเงินและ Non-Bank ที่เข้าร่วมโครงการ ค้นหารายชื่อและเบอร์ติดต่อเจ้าหนี้/ผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ ได้ที่นี่

เช็กก่อนว่าหนี้เราเข้ามาตรการหรือไม่ ?

ขั้นตอนการลงทะเบียน

ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย BOT

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TERRABKK

บ้านปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี ทำเลเงียบสงบ โครงสร้างพื้นฐานครบครัน

1 วันที่แล้ว

เมื่อสภาพเศรษฐกิจทำให้สยามเมืองยิ้ม Land of Smile เป็น Thailand Unsmiled

06 ส.ค. เวลา 03.19 น.

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่นๆ

TK กำไรครึ่งปี'68 เพิ่มขึ้น 469.8% ชี้คุมเข้มนโยบายปล่อยสินเชื่อ

ประชาชาติธุรกิจ

จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ? เมื่อคนไทยทุกคนต้องยื่นภาษีภายใต้ Negative Income Tax

BT Beartai

สรุปภาวะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลรายเดือนกรกฎาคม 2568 โดย สำนักงาน ก.ล.ต.

ทันหุ้น

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ตลาดคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

ประชาชาติธุรกิจ

เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ครึ่งแรกปี'68 กำไรสุทธิ 8.29 หมื่นล้าน เบี้ยรับรวม 1.94 ล้านล้าน

ประชาชาติธุรกิจ

TK โชว์กำไรครึ่งปีแรก 68 469% ลุยโปรดักต์ใหม่ ดันรายได้โต

ทันหุ้น

ความผันผวน Bitcoin ลดลง สัญญาณบ่งชี้สินทรัพย์กำลังก้าวสู่ความมั่นคง

ทันหุ้น

ค่าเงินบาท ปิดวันนี้ 15 ส.ค. ที่ 32.43 บาท แกว่งกรอบแคบ ไร้ปัจจัยใหม่

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...