ประโยชน์ “ถั่วฝักยาว” ผักเคียงที่คนไทยนิยม และข้อควรระวังการกินผักดิบ
ถั่วฝักยาว (Yard long bean) ผักพื้นบ้านที่คนไทยนิยมรับประทานเป็นผักเคียงจิ้มกับน้ำพริกต่างๆ แล้วยังนิยมอย่างมากที่จะนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด อาทิ แกงส้มถั่วฝักยาว ถั่วฝักยาวผัดกะปิกุ้ง ถั่วฝักยาวผัดกุ้ง หมูผัดพริกแกง เป็นต้น มีรสชาติเฉพาะตัว สัมผัสกรุบกรอบ มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนและอินเดีย ถั่วฝักยาวประกอบไปด้วยด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ ๆ หลายชนิดไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ วิตามินบี ธาตุเหล็ก ซัลเฟอร์ ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม
12 ผักที่ไม่ควรกินดิบ เป็นพิษมากกว่าประโยชน์ แนะปรุงสุกปลอดภัยกว่า!
“กีวี” ผลไม้เพื่อสุขภาพ วิจัยพบกินเป็นประจำ ดีต่อสุขภาพ
และที่สำคัญยังเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยวิตามินซี โฟเลต แมกนีเซียม และแมงกานีสอีกด้วย และสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยลดคอเลสเตอรอล บำรุงกระดูก บำรุงสุขภาพการตั้งครรภ์ รวมทั้งอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้
ประโยชน์ของถั่วฝักยาว
- อาจช่วยลดคอเลสเตอรอลและอาจป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
- อาจช่วยบำรุงกระดูก
- อาจช่วยป้องกันมะเร็ง
- อาจดีต่อการตั้งครรภ์
ข้อควรระวังในการบริโภคถั่วฝักยาว
- ถั่วฝักยาวเป็นพืชตระกูลถั่วที่อาจมีสารก่อภูมิแพ้ ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่วจึงควรหลีกเลี่ยง
- ผู้สูงอายุที่รับประทานถั่วฝักยาวดิบและเคี้ยวไม่ละเอียด อาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่ถั่วฝักยาวจะไม่สามารถย่อยได้หมดจนอาจทำให้ลำไส้อุดตันและอาจเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
- การรับประทานถั่วฝักยาวดิบอาจทำให้บางคนมีอาการแพ้อาหารและท้องเสียรุนแรง
- ถั่วฝักยาวดิบอาจมีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulfur Dioxide) หรือมีเทน (Methane) ค่อนข้างมาก จึงอาจทำให้เกิดกรดเกินในกระเพาะอาหารและท้องอืดได้
- การเพาะปลูกอาจมีการใช้ยาฆ่าแมลง ดังนั้น ก่อนรับประทานถั่วฝักยาวจึงควรล้างด้วยผลิตภัณฑ์ล้างผักหรือแช่น้ำเกลือประมาณ 10-15 นาที จากนั้น ล้างออกด้วยน้ำสะอาดเพื่อขจัดสารเคมีตกค้างและเชื้อโรคออกจากถั่วฝักยาว
ดังนั้นควรทานแต่พอดี อาหารให้ครบ 5 หมู่ และหลากหลาย เพราะอะไรที่มากเกินไปก็อาจกระทบสุขภาพมากกว่าให้ประโยชน์ ที่สำคัญอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์เสรีไทยอนุสรณ์ และ Medthai