กาแฟ-ชาเข้มๆ น้ำอัดลมใส่เกลือ ช่วยให้หาย "ท้องเสีย" ได้ จริงหรือ?

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ท้องเสีย กินชาเข้มๆ-กาแฟ น้ำอัดลมใส่เกลือ ช่วยให้หายจากโรค? หรือช่วยให้หายจากโลก? ไปไขคำตอบเรื่องนี้กัน

อาการ ท้องเสีย เป็นภาวะที่หลายคนต้องเคยเผชิญ โดยมักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือจากการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดและหมดอายุ

เมื่อเกิดอาการท้องเสีย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลร่างกายให้ได้รับน้ำและเกลือแร่ทดแทนอย่างเพียงพอ เพราะร่างกายจะสูญเสียน้ำและแร่ธาตุออกไปจำนวนมากผ่านทางอุจจาระเหลว

ท้องเสีย กินชา-กาแฟเข้มๆ ช่วยให้หายได้ จริงไหม?

มีความเชื่อที่แพร่หลายในบางกลุ่มคนว่า การดื่มชาเข้มๆ หรือกาแฟเข้มๆ สามารถช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้ ความเชื่อนี้มีที่มาจากสารแทนนินในชา ซึ่งเป็นสารฝาดสมานที่อาจช่วยให้ลำไส้ดูดซึมน้ำได้ดีขึ้น ทำให้อุจจาระแข็งตัวขึ้น

อย่างไรก็ตาม การดื่มชาในปริมาณมากโดยเฉพาะตอนที่ร่างกายอ่อนเพลียจากการท้องเสีย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร และในบางรายอาจทำให้มีอาการคลื่นไส้หรือปวดท้องมากขึ้นได้

ในกรณีของกาแฟนั้น ยิ่งควรระวังมากกว่า เพราะกาแฟมีคาเฟอีนในปริมาณสูง ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นระบบขับถ่ายและอาจทำให้ลำไส้บีบตัวมากขึ้น ส่งผลให้อาการท้องเสียยิ่งรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ คาเฟอีนยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งขัดกับหลักการดูแลตนเองเบื้องต้นในช่วงที่ท้องเสีย

หากพิจารณาในแง่ของหลักทางการแพทย์ การดื่มชาและกาแฟขณะมีอาการท้องเสียจึงไม่ใช่วิธีที่ปลอดภัยหรือแนะนำ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และให้ความสำคัญกับการดื่มน้ำสะอาดหรือสารละลายน้ำตาลเกลือแร่แทน เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

กินน้ำอัดลมใส่เกลือ ช่วยให้หายท้องเสียได้ จริงไหม?

น้ำอัดลมใส่เกลือไม่ใช่วิธีรักษาท้องเสียที่ถูกต้องตามหลักการแพทย์ เพราะน้ำอัดลมมีน้ำตาลสูงและอาจมีคาเฟอีน ซึ่งสามารถกระตุ้นลำไส้และทำให้อาการท้องเสียแย่ลง อีกทั้งไม่มีอัตราส่วนเกลือแร่ที่เหมาะสมเหมือนน้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสีย การรักษาที่แนะนำคือดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่หรือ ORS เพื่อชดเชยน้ำและแร่ธาตุที่สูญเสียจากการถ่ายเหลว

โดยสรุป การดื่มชาเข้มๆ กาแฟ น้ำอัดลมใส่เกลือ เพื่อหวังให้หายท้องเสีย ไม่ใช่วิธีที่ควรนำมาใช้ เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงหรือชะลอการฟื้นตัวของร่างกายได้

ทางเลือกที่ดีกว่าคือการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเกลือแร่ ทานอาหารอ่อน และหากอาการไม่ดีขึ้นภายในสองวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม