อ้วนเพราะฮอร์โมน ลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่ลง ควรทำอย่างไร?
โรคอ้วน (Obesity) คือ ภาวะที่ร่างกายสะสมไขมันมากเกินความจำเป็นของร่างกาย เมื่อไขมันมากความเสี่ยงโรคเรื้อรังย่อมตามมา อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดผิดปกติ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็งต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งการประเมินโรคอ้วนมาจากค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ร่วมกับขนาดรอบเอว สัดส่วนไขมันในร่างกาย และการตรวจหาสาเหตุและโรคร่วมอื่น ๆ เช่น ระดับไขมัน น้ำตาล ไทรอยด์ ความดันโลหิตสูง เป็นสิ่งจำเป็นซึ่งควรปรึกษาแพทย์ที่มีความชำนาญเพื่อจะได้ดูแลตนเองอย่างถูกต้อง
7 เทคนิคลดความอ้วน จากคุณหมอชะลอวัยแบบไม่ฝืน น้ำหนักลงเร็ว มั่นคง
เจาะลึก “โรคอ้วน” สาเหตุทางพันธุกรรมและฮอร์โมน ลดน้ำหนักยังไงก็ไม่ลง
วิธีลดน้ำหนักรักษาโรคอ้วน
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ได้แก่ คุมปริมาณอาหาร ลดหวาน มัน เค็ม ของทอด อาหารแปรรูป ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ใช้ยา ต้องเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถปรับพฤติกรรมเพียงอย่างเดียวเพื่อลดน้ำหนัก ผู้ที่ไม่พร้อมผ่าตัดแต่อยากได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่วางไว้
- การผ่าตัด เพื่อลดขนาดกระเพาะอาหารหรือการบายพาสลำไส้เพื่อลดน้ำหนักอย่างได้ผลในระยะยาว ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น
ทำไมตั้งใจลดน้ำหนักแล้วน้ำหนักไม่ลด
หากพยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีต่าง ๆ อย่างเต็มที่ แต่น้ำหนักไม่ลดหรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นอาจเพราะร่างกายขาดสมดุลของฮอร์โมน เพราะเมื่อลดน้ำหนักร่างกายจะปรับสมดุลฮอร์โมนเพื่อรักษาน้ำหนักเดิม โดยระบบฮอร์โมนหลายชนิดจะปรับตัวเพื่อต้านการเปลี่ยนแปลง เช่น เพิ่มฮอร์โมนกระตุ้นความหิวอย่างฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin Hormone) ลดฮอร์โมนที่ทำให้อิ่มอย่างฮอร์โมน GLP-1 (Glucagon-like peptide-1) ลดอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ขั้นต่ำที่ร่างกายต้องใช้ในชีวิตประจำวัน (Basal Metabolic Rate) เป็นต้น เพราะฉะนั้นการที่มีอาการหิวบ่อย เหนื่อยง่าย น้ำหนักไม่ลด มาจากกลไกของร่างกายที่พยายามป้องกันไม่ให้เสียพลังงานนั่นเอง
ฮอร์โมนจากทางเดินอาหารคุมน้ำหนักเกินได้อย่างไร
ลำไส้มีหน้าที่ควบคุมความหิว ความอิ่ม การสะสมไขมัน การใช้น้ำตาล ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากทางเดินอาหารหลังมื้ออาหาร โดยฮอร์โมนที่นำมาใช้ในการรักษาโรคอ้วนและเบาหวานในปัจจุบันมี 2 ชนิด ได้แก่
- ฮอร์โมน GLP-1 (Glucagon-like peptide-1) สร้างบริเวณลำไส้เล็กส่วนปลาย มีหน้าที่ชะลอการย่อย อิ่มนาน กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ช่วยลดความอยากอาหาร
- ฮอร์โมน GIP (Glucose-dependent Insulinotropic Polypeptide) สร้างบริเวณลำไส้เล็กส่วนต้น มีหน้าที่จัดเก็บไขมัน กระตุ้นอินซูลินเมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ช่วยให้รับประทานอาหารน้อยลง
ทั้งนี้ร่างกายของมนุษย์มีกลไกซับซ้อน นอกจากเรื่องการกิน การออกกำลังกาย การพักผ่อน ยังมีเรื่องของระบบฮอร์โมนจากทางเดินอาหารที่ควบคุมความหิว ความอิ่ม อัตราการเผาผลาญ รวมถึงการสะสมไขมัน เพราะฉะนั้นถ้าปรับพฤติกรรมทั้งคุมอาหารและออกกำลังกาย แต่ไม่เห็นผลลัพธ์ตามที่ตั้งใจ แนะนำให้พบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจเช็กร่างกายอย่างละเอียดและปรึกษาแนวทางการลดน้ำหนักที่เหมาะสมและยั่งยืน เพื่อการมีสุขภาพดีในระยะยาว
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่