คาดปี 69 บริการดาวเทียม LEO ทั่วโลก มูลค่าใช้จ่าย 5.05 แสนล้านบาท
นายคูรัม ชาฮซาด (Khurram Shahzad), ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนักวิเคราะห์ของ การ์ทเนอร์ เปิดเผยว่าการ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าในปี 2569 มูลค่าการใช้จ่ายสำหรับบริการสื่อสารดาวเทียมวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit หรือLEO) ทั่วโลกจะสูงถึง 14,764 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.01 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 24.5% จากปี 2568 ที่มีมูลค่าการใช้จ่าย 11,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.03 แสนล้านบาท)
การเติบโตนี้จะมาจากหลายกลุ่มตลาด โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มธุรกิจในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีตัวเลือกการเชื่อมต่ออื่น ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2569 โดยกลุ่มผู้บริโภคคาดว่าจะเติบโตถึง 36.4% ขณะที่กลุ่มธุรกิจในพื้นที่ห่างไกลคาดว่าจะเติบโตสูงสุดที่ 40.2%
ในด้านการเชื่อมต่อ IoT ทั่วโลก การเติบโตยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 32% ในปี 2569 สำหรับบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือและการบินคาดว่าจะเติบโตที่ 13.8% ในขณะที่การปรับปรุงความยืดหยุ่นของเครือข่าย (Resilience Improvement) จะเติบโตต่อเนื่องที่ 7.7% นอกจากนี้กลุ่มอื่นๆ ที่ไม่ถูกจัดอยู่ในหมวดใดๆ จะเติบโตเล็กน้อยที่ 4.5% ในปี 2569
สำหรับการใช้จ่ายในปี 2569 มูลค่าการใช้จ่ายในบริการดาวเทียม LEO แยกออกตามประเภทต่างๆ จะมีมูลค่าดังนี้ :กลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่ห่างไกลจะใช้จ่ายรวม 4,113 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.39 แสนล้านบาท) ในปี 2569 เพิ่มขึ้นจาก 3,015 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.02 แสนล้านบาท) ในปี 2568 ขณะที่กลุ่มธุรกิจในพื้นที่ห่างไกลจะใช้จ่าย 2,612 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.88 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 1,864 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6.31 หมื่นล้านบาท) ในปี 2568
การใช้จ่ายในกลุ่มการปรับปรุงความยืดหยุ่นของเครือข่ายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2,367 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.05 หมื่นล้านบาท) ในปี 2565 เป็น 2,550 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.67 หมื่นล้านบาท) ในปี 2569 ขณะที่กลุ่มการเดินเรือและการบินคาดว่าจะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจาก 1,963 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6.68 หมื่นล้านบาท) เป็น 2,234 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.59 หมื่นล้านบาท)
การใช้จ่ายในกลุ่มการเชื่อมต่อ IoT ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 1,757 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.97 หมื่นล้านบาท) เป็น 2,320 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.88 หมื่นล้านบาท) ส่วนกลุ่มอื่นๆ จะเพิ่มขึ้นจาก 894 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.03 หมื่นล้านบาท) เป็น 935 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.18 หมื่นล้านบาท)
“ดาวเทียม LEO ส่วนใหญ่ให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกลที่เครือข่ายแบบเดิมไม่สามารถเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม ยูสเคสการใช้งานใหม่ ๆ ในกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มธุรกิจเริ่มเกิดมากขึ้น ส่งผลทำให้ผู้ให้บริการสื่อสาร (CSPs) ขยายตลาดมากยิ่งขึ้น ทำให้ดาวเทียมวงโคจรต่ำกลายเป็นเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหลักในระดับองค์กร”
ดาวเทียม LEO โคจรใกล้โลกมากกว่าเทคโนโลยีดาวเทียมเดิม ให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วกว่าและมีความหน่วงต่ำกว่า ช่วยให้สามารถส่งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและเสริมเครือข่ายภาคพื้นดินแบบเดิม โดยตลาดนี้กำลังเข้าสู่ช่วงขยายตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยผู้ให้บริการดาวเทียม LEO ที่มีอยู่มากกว่า 20 ราย และคาดว่าจะมีดาวเทียมมากกว่า 40,000 ดวง ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
“เมื่อยูสเคสการใช้งานยังคงเติบโต บริษัทและผู้บริโภคสามารถคาดหวังการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มีความสม่ำเสมอและรับรู้ทุกสิ่งที่เชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตออฟติงส์ (IoT) ได้จากทุกที่ โดยไม่จำกัดสถานที่ แม้แต่เครื่องบิน เรือ และแพลตฟอร์มนอกชายฝั่ง (Sea Platform) ล้วนได้รับประโยชน์จากวิธีการใหม่ที่มีความยืดหยุ่นของเครือข่ายและอินเทอร์เน็ตที่แพร่หลาย”
สำหรับยูสเคสการใช้งานที่เกิดขึ้นใหม่สำหรับบริการสื่อสารดาวเทียมวงโคจรต่ำ สามารถจัดหมวดหมู่ออกเป็น 4 หมวดแตกต่างกัน ดังนี้ :
1.บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบคงที่และเคลื่อนที่ (Fixed and Mobile Broadband Service)การใช้งานหลัก ๆ ของบริการดาวเทียม LEO ในช่วงแรก คือ ใช้สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบคงที่และเคลื่อนที่ โดยเฉพาะสำหรับไซต์ห่างไกล และใช้เพื่อเสริมการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีอยู่ โดยบริการเหล่านี้รองรับยูสเคสการใช้งานต่าง ๆ เช่น การเชื่อมต่อในพื้นที่ที่ไม่มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สถานที่ชั่วคราว อาทิ ไซต์ก่อสร้าง หรือบนเรือและเครื่องบิน นอกจากนี้ยังใช้เพื่อการสื่อสารในระหว่างการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน หรือเพื่อปรับปรุงความยืดหยุ่นเป็นการเชื่อมต่อสำรองหรือการแบ็คอัพอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบดั้งเดิม
2.การเชื่อมต่อ IoT ทั่วโลก (Global IoT Connectivity) ดาวเทียม LEO IoT เข้ามาเสริมหรือแม้แต่มาแทนที่เครือข่าย IoT แบบดั้งเดิม สำหรับการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ต้องการการครอบคลุมทั่วทั้งโลก โดยใช้แบนด์วิดท์และความหน่วงที่จำกัด เทคโนโลยีดาวเทียมนี้สามารถใช้สำหรับการติดตามทรัพย์สินได้ทั่วโลก ครอบคลุมภาคเกษตรกรรม น้ำมันและก๊าซ ทรัพยากรธรรมชาติ การขนส่งและโลจิสติกส์ รวมถึงการรับรู้ทางทหาร (Military Sensing) และการตรวจสอบความปลอดภัย
3.การเสริมบริการอินเทอร์เน็ตมือถือ (Supplementing Mobile Broadband Services) บริการสื่อสารดาวเทียม LEO สามารถเสริมประสิทธิภาพอินเทอร์เน็ตมือถือ โดยให้ความครอบคลุมสัญญาณที่ไร้รอยต่อและเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ผ่านการเชื่อมต่อโดยตรงกับอุปกรณ์ (Direct-to-Direct หรือ D2D) และการผสานรวมเข้ากับเครือข่าย 5G เหนือพื้นโลก (5G Non-Terrestrial Networks)
และ 4. การเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานแบ็คฮอล (Infrastructure Backhaul) ทั้งผู้ให้บริการสื่อสารและองค์กรที่มีการดำเนินงานอยู่กระจัดกระจายตามภูมิศาสตร์ สามารถใช้ประโยชน์จากดาวเทียม LEO เพื่อเชื่อมต่อกับสัญญาณที่มีความเสถียรและมีแบนด์วิดท์สูง รองรับแอปพลิเคชัน การถ่ายโอนข้อมูล และความต้องการการสื่อสารที่มีความสำคัญ โดยไม่ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดภาคพื้นดินแบบเดิม