ยักษ์ค้าปลีก ลุยลงทุนเพิ่ม ครึ่งปีแรกโกยรายได้ กวาดกำไรถ้วนหน้า

ภาพรวมเศรษฐกิจใน 6 เดือนแรกที่ผ่านมา ถือว่าเผชิญวิกฤตต่างๆ ทั้งจากปัจจัยที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อภาคการค้า การส่งออก รวมถึงการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศของไทย อย่างไรก็ดีหลายองค์กรยังพยุงธุรกิจให้เดินหน้าต่อได้ โดยเฉพาะในกลุ่มค้าปลีก เห็นได้จากผลประกอบการที่ยังเป็นบวก ทำให้ยังคงเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง

CPALL สปีดลงทุนเพิ่มครึ่งหลัง

เริ่มจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ซึ่งพบว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 มี รายได้รวม 509,430,223 ล้านบาท เติบโต 4.1% กำไรสุทธิ 14,353 หมื่นล้านบาท เติบโต 14.3% โดยไตรมาส 2 มีรายได้รวม 256,574 ล้านบาท เติบโต 3.4% กำไรสุทธิ 6,768 ล้านบาท เติบโต 8.5% ซึ่งธุรกิจเรือธงอย่างเซเว่น อีเลฟเว่น ยังคงเติบโตอย่างโดดเด่นและเป็นปัจจัยหลักในการหนุนกำไร

ในไตรมาส 2 มีการเปิดร้านสาขาใหม่รวม 165 สาขา ทำให้ครึ่งปีแรกมีร้านสาขาทั่วประเทศรวม 15,595 แห่ง แบ่งเป็นร้านของบริษัทฯ 7,959 สาขา และร้านแฟรนไชส์ (SBP) 7,636 สาขา รายได้และยอดขาย ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้จากการขายและบริการ 1.17 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% ยอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวันอยู่ที่ 8.5 หมื่นล้านบาท และยอดซื้อต่อบิลประมาณ 88 บาท แม้จำนวนลูกค้าต่อวันจะลดลงเล็กน้อยจากผลกระทบด้านสภาพอากาศและจำนวนนักท่องเที่ยว แต่บริษัทฯ ยังคงใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline) อย่างต่อเนื่อง เช่น 7Delivery และ All Online ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ถึง 11% ของยอดขายรวม

สำหรับแผนการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง CPALL ยังคงลงทุน 6,000 – 7,500 ล้านบาทในการขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 350 แห่ง จากแผนเดิมที่วางไว้ว่าจะขยาย 700 แห่ง และในครึ่งปีแรกขยายสาขาไปแล้ว 350 แห่ง โดยจะเน้นขยายสาขาทั้งในกรุงเทพฯ กัมพูชาและสปป.ลาว รวมทั้งการปรับปรุงสาขาเดิม ศูนย์กระจายสินค้า และพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการทั้งออนไลน์-ออฟไลน์

CPAXT ดึง AI เสริมแกร่ง

ขณะที่บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ในครึ่งแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 259,030 ล้านบาท เติบโต 2.0% กำไรสุทธิ 4,929 ล้านบาท เติบโต 5.8% ในส่วนไตรมาส 2 ของปี 2568 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 129,080 ล้านบาท เติบโต 1.7% กำไรสุทธิ 2,286 ล้านบาท เติบโต 5.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

โดยมีรายได้จากการขายสินค้าจำนวน 1.23 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 2,518 ล้านบาท หรือ 2.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของรายได้จากการขายของกลุ่มธุรกิจค้าส่ง 2.4% หนุนจากการเติบโตของทุกหน่วย ธุรกิจ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิจำนวน 2,286 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 110 ล้านบาท หรือ 5.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT กล่าวถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกว่า แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ บริษัทยังมีผลประกอบการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนจากการควบบริษัท ส่ส่วนทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง CPAXT ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่องผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การเติบโตในทุกช่องทางจำหน่าย โดยมุ่งเน้นการขายนอกร้านและการส่งสินค้าถึงลูกค้า (Omni Channel) ควบคู่ไปกับการขยายและปรับปรุงสาขาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการ พัฒนาสินค้า โดยเฉพาะการเสริมความแข็งแกร่งของสินค้าเฮาส์แบรนด์ (Private Label) และสินค้าแบรนด์ในราคาที่คุ้มค่าที่มีจำหน่ายเฉพาะที่แม็คโครและโลตัส พร้อมทั้งต่อยอดสินค้าอาหารพร้อมปรุงและพร้อมทาน (Ready to Cook - Ready to Eat) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การ นำ AI เข้ามาเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงาน ในหลากหลายมิติ ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การทำการตลาดแบบเจาะจง การบริหารจัดการสินค้า ไปจนถึงการพัฒนาการขายออนไลน์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและผลักดันทั้งยอดขายและกำไรขั้นต้นให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้สำหรับครึ่งปีหลัง

CRC สยายปีกไทย-เวียดนามต่อ

นายปเนต มหรรฆานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือCRCกล่าวว่า ในไตรมาส 2 CRC ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจ เดินหน้าตามแผนธุรกิจเชิงรุกในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการขยายและปรับปรุงสาขาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละเซ็กเมนต์ ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม ส่งผลให้บริษัททำรายได้รวม 131,924 ล้านบาท เติบโต 1% กำไรสุทธิ 3,813 ล้านบาท ลดลง 8% ขณะที่ไตรมาส 2 มีรายได้รวม 62,644 ล้านบาท ลดลง 1% กำไรสุทธิ 1,349 ล้านบาท ลดลง 16%

ขณะที่ในครึ่งปีหลังบริษัทยังมีแผนขยายสาขาทั้งในรูปแบบเดิม,ไฮบริด พร้อมกับพัฒนา New Store Concept และ Fulfillment Store การรุกกลยุทธ์ The1 Loyalty Program ในไทย-เวียดนาม เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม และเจาะฐานลูกค้ากลุ่ม B2B และกลุ่ม Young & Mainstream ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ รวมถึงการ synergy พันธมิตรทั้งในเครือและนอกเครือ เสริมแกร่งธุรกิจ ด้านการลงทุนจะเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพเป็นหลัก

CPN กำไรโต 5% ธุรกิจเช่า-โรงแรมแข็งแกร่ง อสังหาฯ แนวราบโตสวนตลาด

ด้านนางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บัญชีและบริหารความเสี่ยงบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มสดใสกว่าครึ่งปีแรก โดยได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการสนับสนุนทางการคลังและการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เช่น โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” รวมถึงการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวภายในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อจำนวนผู้ใช้บริการในศูนย์การค้าและกำลังซื้อทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวเมกะโปรเจกต์ “เซ็นทรัล พาร์ค” ในเดือน ก.ย 68 และ เซ็นทรัลกระบี่ ในเดือน ต.ค. 68 รวมทั้งเปิดโฉมใหม่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และการเพิ่มแม็กเน็ตใหม่ ดึงกำลังซื้อนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติด้วย

ขณะที่ผลประกอบการในครึ่งปีแรก พบว่า ซีพีเอ็นมีรายได้รวม 23,214 ล้านบาท เติบโต 4% กำไรสุทธิ 7,749 ล้านบาท ลดลง 1% ส่วนไตรมาส 2 มีรายได้รวม 11,653 ล้านบาท เติบโต 3% และกำไรสุทธิ 3,902 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน (ไม่รวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์)

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,125 วันที่ 24 - 27 สิงหาคม พ.ศ. 2568