ต่างชาติแค่ชะลอดูภาษีทรัมป์ EEC ยืนเป้าเงินลงทุนปี’68แสนล้านเท่าเดิม
EEC ยังมั่นใจต่างชาติสนใจลงทุนในไทย ชี้เหตุไทยมีความพร้อมที่สุด ขณะที่ภาษีทรัมป์แค่ทำให้รายใหม่ชะลอดูความชัดเจน ตั้งเป้าหมายเดิมดึงเงินลงทุนเข้าปีละแสนล้าน เผยยอดครึ่งปีแรก 62,851 ล้าน ญี่ปุ่นแชมป์ตามเคย ส่วนจีนตามมาติด ๆ
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ. หรือ EEC) กล่าวว่า มูฟเมนต์ของการลงทุนตั้งแต่ต้นปี 2568 มีมาตลอด และยังคงเกิดขึ้นไม่หยุด ส่วนใหญ่นักลงทุนที่ได้หารือกับทาง EEC ไว้นั้น เป็นกลุ่มที่ผลิตส่งออกป้อนให้กับตลาดอาเซียนและยุโรปเป็นหลัก และยังไม่ส่งสัญญาณชะลอการลงทุน โดยยังอยู่ในกระบวนการลงทุน เนื่องจากหลายรายซื้อที่ดินไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ภาพรวมการลงทุนปี 2568 มั่นใจว่าจะมีมูลค่า 100,000 ล้านบาทตามที่ตั้งเป้าไว้ (ปีละ 100,000 ล้านบาท)
และมีแนวโน้มว่าอาจจะเกินหากนับมูลค่าเงินลงทุนที่เข้าสู่ระบบจากกิจกรรมเกี่ยวเนื่อง ทั้งการลงทุนจากภาคอสังหาฯ (โรงแรม หอพัก) ร้านอาหาร ซึ่งมูลค่าที่เกิดขึ้นเป็นผลจากสิ่งที่ทำเอาไว้ตั้งแต่ปี 2567 และมันจะส่งผลปีนี้ โดยจะเป็นการลงทุนจริงทั้งหมดในพื้นที่ เพราะพื้นที่ EEC มีความพร้อมในทุกด้าน
ล่าสุดโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) ซึ่งเป็นหนึ่งใน Project List ของ EEC ได้เริ่มเชิญสายการบินบางกอกแอร์เวย์สและการบินไทยเพื่อเช่าพื้นที่สำหรับแผนการลงทุนดังกล่าวแล้ว เนื่องจากเป็นสายการบินที่ได้ไลเซนส์ MRO เพียง 2 รายในประเทศไทย จากนี้ให้เวลา 2 เดือนในการเขียนแผนส่งกลับมา และคาดว่าจะเป็นอีกโครงการที่จะเห็นการลงทุนเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ในบริเวณสนามบินอู่ตะเภา
สำหรับสัดส่วนการลงทุนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในเชิงมูลค่าจะมาจากจีน หรืออยู่ที่ 17% ญี่ปุ่น 14% สิงคโปร์ 10% ไทย 37% และที่เหลือจากประเทศอื่น ๆ แต่ในเชิงโครงการจะเป็นการลงทุนจากญี่ปุ่นมากที่สุด ภาพรวมการลงทุนจึงอาจยังคงเห็นในลักษณะเช่นนี้อยู่ แต่หลังจากการเจรจาภาษีกับทางสหรัฐ ซึ่งไทยได้ภาษีนำเข้าในอัตราที่ 19% อาจส่งผลต่อนักลงทุนรายใหม่ที่มีตลาดส่งออกเป็นสหรัฐ และอยู่ระหว่างการเลือกประเทศเป้าหมายการลงทุน จึงอาจทำให้ในส่วนนี้ชะลอการลงทุนจนกว่าเงื่อนไขกับทางสหรัฐจะชัดเจนกว่านี้
“หากอเมริกาชัดเจนว่าต้องไม่เป็นประเทศที่ Transit (การผ่านแดน) มาใช้ไทยแล้วส่งออก แต่มันก็ต้องไปดูลึกลงอีกว่าเป็น Transit แต่มีสัดส่วนการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ (Local Content) เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเขาจะลงทุนจริง เขาก็ต้องทำตามเงื่อนไขให้ได้ ก็ต้องปรับ และมีส่วนร่วมกับการใช้วัตถุดิบในประเทศ ตอนนี้มันยังเร็วไปที่เราจะประเมินผล
คาดว่าก็มีอีกหลายเรื่องที่ต้องนำเข้าพิจารณา เพื่อขอความเห็นชอบจากสภาเป็นทางการ เพื่อชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดที่ไปเจรจามา ซึ่งจะช้าหรือเร็วก็ต้องรีบดำเนินการ เพราะมันมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน คนจะได้ไม่ต้องจินตนาการว่าไปเจรจาอะไรมาแลกกับอะไร ทีมไทยแลนด์ก็คงต้องชี้แจงรายละเอียดมากขึ้นกว่านี้ ตอนนี้มันเป็นหลักการอยู่ ยังไม่ใช่รายละเอียด ความไม่ชัดเจนตรงนี้มันเลยมีผลต่อนักลงทุนรายใหม่ ว่าจะตัดสินใจมาไทยหรืออย่างไร เขาก็ต้องเทียบว่าไปลงทุนประเทศไหน และได้รับภาษีเท่าไร”
ล่าสุดรายงานข่าวจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 (มกราคม-มิถุนายน) มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 158 ราย คิดเป็น 31% ของจำนวนนักลงทุนต่างชาติในไทย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 42 ราย เพิ่มขึ้น 36% โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC อยู่ที่ 62,851 ล้านบาท คิดเป็น 56% ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยเป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น 42 ราย ลงทุน 24,752 ล้านบาท จากจีน 38 ราย ลงทุน 13,909 ล้านบาท จากสิงคโปร์ 15 ราย ลงทุน 8,046 ล้านบาท และประเทศอื่น ๆ 63 ราย ลงทุน 16,144 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจที่ลงทุน อาทิ ธุรกิจการค้าปลีกสินค้า เช่น เครื่องจักร เครื่องมือ และส่วนประกอบที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ และชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนสำหรับซ่อมแซมเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตยางรถยนต์ ธุรกิจบริการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรม ธุรกิจบริการเขต Data Center ธุรกิจบริการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการดิจิทัล ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนโลหะหล่อขึ้นรูป ผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนกลุ่มภาพและเสียง หุ่นยนต์ที่ใช้สำหรับผลิตและตรวจสอบคุณภาพการผลิต ผลิตภัณฑ์พลาสติกสำหรับอุตสาหกรรม เป็นต้น
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ต่างชาติแค่ชะลอดูภาษีทรัมป์ EEC ยืนเป้าเงินลงทุนปี’68แสนล้านเท่าเดิม
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net