CPAXT กำไร Q2 โตแตะ 2.28 พันลบ. แจกปันผล 0.18 บ.
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (CPAXT) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 ของปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 129,080 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 2,124 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายสินค้าจำนวน 123,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 2,518 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของรายได้จากการขายของกลุ่มธุรกิจค้าส่งร้อยละ 2.4 หนุนจากการเติบโตของทุกหน่วย ธุรกิจ โดยหลักมาจากสาขาใหม่และยอดขายนอกร้านพร้อมการส่งสินค้าถึงลูกค้า (“Omni Channel” )ซึ่งได้รับปัจจัยสนันสนุนจากการเติบโตของยอดขายกลุ่มสินค้าอาหารสด กลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (“Private label”) และสินค้าแบรนด์ในราคาที่คุ้มค่าที่มีจำหน่ายเฉพาะที่บริษัทฯ (“Exclusive brand”) ในขณะที่รายได้จาก การขายของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7จากการเติบโตของทุกหน่วยธุรกิจ โดยสนับสนุนจากกลยุทธ์ ในการมุ่งเน้นกลุ่มสินค้าอาหารสด รวมทั้งสินค้าพร้อมปรุง และการขายผ่าน Omni Channel ทั้งนี้สัดส่วน Omni Channel ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยคิดเป็นร้อยละ 20.6 ของรายได้จากการขายสินค้า โดยยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดดและแข็งแกร่งซึ่งเป็นไปตามแผน สะท้อนจากการขยายฐานลูกค้าสมาชิกที่มี การใช้งานอย่างต่อเนื่อง
ในไตรมาส 2 ของปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้ จากการให้ บริการและรายได้ อื่นรวมจำนวน 1,590 ล้านบาท ลดลงจำนวน 418 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.8เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี ก่อน เป็นผลหลักจากการจัดประเภทผลตอบแทนจากการสนับสนุนการขายร่วมกับคู่ค้าจากรายได้จากการให้บริการ เป็นการลดต้นทุนขาย และรายได้จากการฝากขายของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกลดลง
กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (“EBITDA”) ในไตรมาส 2 ของปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมี EBITDA จำนวน 8,689 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นร้อยละ 6.7 ของรายได้รวม เป็นผลหลักจากการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานในทุกกลุ่มธุรกิจ อนึ่ง หากไม่รวมขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของ สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (“รายการปรับปรุง”) EBITDA จะเพิ่มขึ้นเป็น 8,740 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นร้อยละ 6.8 ของรายได้รวม
กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ (“EBIT”) ในไตรมาส 2 ของปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมี EBIT จำนวน 4,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นร้อยละ 3.4ของรายได้รวม อนึ่ง หากไม่รวม รายการปรับปรุง EBIT จะเพิ่มขึ้นเป็น 4,455 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นร้อยละ 3.5 ของรายได้รวม
กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ ในไตรมาส 2ของปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 2,286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 110 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.1เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายและ กำไรขั้นต้น รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นผลจากการควบบริษัท อนึ่ง หากไม่รวม รายการปรับปรุง กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,337 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิต่อหุ้นขั้นพื้นฐานสำหรับไตรมาส 2 ของปี 2568 อยู่ที่ 0.22 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับ 0.41 บาทต่อหุ้นใน ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากจำนวนหุ้นถัวเฉลี่ยคำนวณใหม่ ทั้งนี้ หากเทียบจำนวนหุ้นที่เท่ากัน กำไรสุทธิต่อหุ้นจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จาก 0.21 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 2ของปี 2567
แนวโน้มธุรกิจ
สำหรับครึ่งหลังของปี 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยคาดว่ารายได้จะขยายตัวในอัตราเร่งขึ้น จากการดำเนินกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจในทุกมิติ ทั้งการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค การเพิ่มประสิทธิภาพจากช่องทางการขาย Omni Channel และการขยายเครือข่ายสาขาในหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งการสร้างศูนย์การค้าให้เป็นศูนย์กลางชุมชนที่รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัย เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และมูลค่าเพิ่มในสินทรัพย์ได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะเห็นการเร่งตัวของมูลค่าเพิ่มจากการผนึกกำลังหลังการควบบริษัทในด้านการลดต้นทุนการดำเนินงาน ผ่านการรวมศูนย์จัดซื้อและการเพิ่มประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน บริษัทย่อยในต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ยังคงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางบริบทที่เศรษฐกิจภายในยังขยายตัวอย่างจำกัด
บริษัทฯ ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภคท่ามกลางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งมีแนวโน้มให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า และเลือกสินค้าทดแทนที่มีราคาเหมาะสมมากขึ้น บริษัทฯ จึงเน้นย้ำการนำเสนอสินค้าคุณภาพดีในราคาคุ้มค่า รวมถึงสินค้าทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเพิ่มสัดส่วนกลุ่มสินค้า Private Label, Exclusive Brand และ Axtra Find ควบคู่กับการพัฒนาอาหารพร้อมปรุงและอาหารพร้อมทาน เช่น ไก่ย่างสูตรพิเศษที่พัฒนาร่วมกับเชฟชื่อดัง ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟรสชาติตามฤดูกาล สุกี้พร้อมปรุงที่ได้พัฒนาร่วมกับแบรนด์ชั้นนำ เป็นต้น
อีกทั้งการใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจอัจฉริยะ และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกช่วยสร้างความเข้าใจในพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด กลยุทธ์ดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาด และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมผลักดันการเติบโตยอดขายและกำไรขั้นต้นได้ดียิ่งขึ้น
ในด้านการขาย Omni Channel บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนต่อยอดขายให้แตะระดับร้อยละ 22 ภายในปี 2568 โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากการเติบโตของการขายนอกร้านผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกรายบุคคลมาใช้เพื่อดึงดูดและรักษาผู้ใช้งานให้ใช้บริการซ้ำในทุกช่องทาง รวมถึงการขยายพื้นที่ให้บริการ ซึ่งใช้จุดแข็งของสาขาที่มีกว่า 2,600 สาขาทั่วประเทศเป็นจุดกระจายและจัดส่งสินค้า เพื่อเพิ่มอรรถประโยชน์ของสินทรัพย์ที่มีอยู่
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายพื้นที่เช่าและปรับโฉมสาขา พร้อมทั้งการบริหารพื้นที่ศูนย์การค้าให้เป็นศูนย์กลางชุมชนที่รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัย ภายใต้แนวคิด “ชุมชนแห่งความสุข” โดยมุ่งเน้นสาขาในย่านธุรกิจเมืองหลัก และพื้นที่กำลังพัฒนาที่มีศักยภาพในการเติบโต ผ่านการพัฒนารูปแบบและขนาดตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการดึงดูดผู้ประกอบการท้องถิ่น พร้อมทั้งเสริมนวัตกรรมและประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ผ่านการคัดสรรพันธมิตรและผู้เช่าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เช่น ร้านอาหารแนวคิดใหม่ พื้นที่เชิงประสบการณ์ และแบรนด์สินค้าที่มีความโดดเด่น โดยเฉพาะในกลุ่มสุขภาพ
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2568 มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยจะจ่ายปันผลเป็นเงินสด ดังนี้
วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) : 21 ส.ค. 2568
วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) : 20 ส.ค. 2568
อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด (บาทต่อหุ้น) : 0.18
วันที่จ่ายปันผล : 05 ก.ย. 2568
จ่ายปันผลจาก : งวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2568