OpenAI จ่าย Oracle ปีละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ สร้างศูนย์ข้อมูลยักษ์กลางเท็กซัส
แซม อัลท์แมน ประธานบริหารของ OpenAI ออกมายืนยันเมื่อวันอังคาร (22 ก.ค.) ว่าบริษัทของเขาคือ ผู้ลงนามในสัญญาว่าจ้าง Oracle ให้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์มูลค่าปีละ 30,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.08 ล้านล้านบาท ตามที่เคยมีรายงานในเอกสารของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เมื่อ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยในตอนนั้น Oracle ยังไม่เปิดเผยชื่อคู่สัญญา
ข้อตกลงนี้ดำเนินการภายใต้โครงการ Stargate ซึ่งเป็นแผนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบปัญญาประดิษฐ์ระดับมหภาคที่ OpenAI, Oracle และ SoftBank เคยประกาศไว้เมื่อต้นปี 2025
OpenAI ระบุว่า ดีลนี้จะทำให้บริษัทสามารถใช้พลังประมวลผลสูงถึง 4.5 กิกะวัตต์ ซึ่งมากพอๆ กับพลังงานจากเขื่อนฮูเวอร์ถึงสองแห่ง และสามารถจ่ายไฟให้บ้านเรือนราว 4 ล้านหลัง
สถานที่ตั้งของโครงการคือเมือง Abilene รัฐเท็กซัส ซึ่งถูกเรียกว่า “Stargate I” และจะเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญของเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับโมเดลเอไอขนาดใหญ่ และความต้องการใช้งานระดับมหภาคในอนาคต
ขณะที่ Oracle ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของโลก ระบุว่าใช้จ่ายด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไปแล้วกว่า 21,200 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 ที่ผ่านมา และจะใช้เพิ่มอีก 25,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 นี้
โดยยังไม่รวมค่าที่ดิน ซึ่งหมายความว่าในช่วง 2 ปี Oracle ทุ่มเงินเกือบ 50,000 ล้านดอลลาร์เพื่อรองรับความต้องการจากลูกค้าอย่าง OpenAI และรายอื่นๆ
รายงานจาก The Wall Street Journal ชี้ว่า ตัวเลข 30,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีจาก OpenAI นั้นมากกว่ารายได้คลาวด์ทั้งหมดของ Oracle ในปีงบประมาณ 2025 ที่อยู่ที่ประมาณ 24,500 ล้านดอลลาร์เสียอีก
ข้อมูลดังกล่าวมีผลให้หุ้น Oracle พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ แลร์รี เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งและซีทีโอของ Oracle ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลกชั่วข้ามคืน
สำหรับฝั่ง OpenAI การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการวางรากฐานเพื่อรองรับการเติบโตของโมเดลภาษาและระบบเอไอขนาดใหญ่ในระยะยาว แม้บริษัทจะเพิ่งมีรายได้ประจำปี (ARR) ที่ราว 10,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่กลับเดินหน้าทุ่มงบหลายเท่าตัวเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่
ดังนั้น นี่จึงสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่เข้มข้นและความเร่งรีบของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเอไอในการสร้างระบบที่สามารถรองรับโมเดลขนาดใหญ่ที่ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล
โครงการ Stargate ซึ่งถูกอธิบายว่าเป็นแผนการสร้างเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์มูลค่าครึ่งล้านล้านดอลลาร์ ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการควบคุม ตรวจสอบ หรือมีการประเมินผลกระทบด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างไร โดยเฉพาะในบริบทที่เทคโนโลยีเอไอถูกใช้ควบคู่กับระบบการตัดสินใจทั้งในภาคธุรกิจ รัฐบาล และอุตสาหกรรมการทหาร
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ OpenAI อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโครงสร้างอำนาจใหม่ในระบบเทคโนโลยีระดับโลก และตั้งคำถามถึงความโปร่งใส ความยั่งยืน และบทบาทของรัฐในการกำกับดูแลโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ถูกควบคุมโดยบริษัทเอกชนเพียงไม่กี่ราย
ขณะที่การแข่งขันด้านศูนย์ข้อมูล ความเร็ว และขนาดพลังประมวลผล กำลังกลายเป็นเครื่องชี้วัดตำแหน่งผู้นำในยุค Superintelligence ที่ใกล้เข้ามาทุกที
อ้างอิง: techcrunch