“ทรัมป์” ประกาศขยายเวลาการจัดเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าเม็กซิโก อีก 90 วัน
"ทรัมป์" ประกาศขยายเวลาการจัดเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าเม็กซิโก อีก 90 วัน พร้อมระงับการขึ้นภาษีรอบใหม่
วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะ ขยายเวลาการบังคับใช้ภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกตามอัตราเดิม ซึ่งถือเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และระงับการขึ้นภาษีรอบใหม่ ที่มีกำหนดมีผลในวันศุกร์
มาตรการดังกล่าวหมายความว่า อัตราภาษี 25% ต่อสินค้าจากเม็กซิโกยังคงอยู่ตามเดิม ยกเว้นสินค้าที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ซึ่งลงนามไว้ตั้งแต่สมัยแรกของทรัมป์ โดยสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวจะไม่ถูกเก็บภาษี ยกเว้นบางหมวดที่มีการจัดเก็บภาษีเฉพาะภาคอุตสาหกรรม
ทรัมป์โพสต์ใน Truth Social ว่า “ผมเพิ่งสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเม็กซิโก คลอเดีย ไชน์บาว์ม ซึ่งเป็นการพูดคุยที่ราบรื่นมาก เราเริ่มเข้าใจกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ความซับซ้อนของข้อตกลงกับเม็กซิโกไม่เหมือนประเทศอื่น ๆ เนื่องจากปัญหาและข้อได้เปรียบของเขตชายแดน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้ ขยายข้อตกลงปัจจุบันออกไปอีก 90 วัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากช่วงเวลาก่อนหน้า”
ทรัมป์เสริมอีกว่า “เราจะเจรจากับเม็กซิโกในช่วง 90 วันข้างหน้า โดยตั้งเป้าที่จะลงนามในข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ภายในระยะเวลาดังกล่าว หรืออาจนานกว่านั้นก็ได้”
ปัจจุบัน สหรัฐฯ พึ่งพาการนำเข้าสินค้าหลากหลายประเภทจากเม็กซิโก ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รองเท้า และเครื่องแต่งกาย โดยเม็กซิโกได้ แซงหน้าจีนขึ้นเป็นประเทศต้นทางของสินค้านำเข้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นผลจากการที่ทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้าจีนในสมัยแรก และอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนก็ตัดสินใจคงมาตรการเหล่านั้นไว้ ในทางกลับกัน เม็กซิโกเองก็เป็นผู้บริโภคสินค้าจากสหรัฐฯ จำนวนมาก โดยถือเป็น ตลาดส่งออกอันดับ 2 ของสหรัฐฯ รองจากแคนาดา
จนถึงขณะนี้ รัฐบาลเม็กซิโกยัง ไม่ได้ดำเนินมาตรการตอบโต้ภาษี ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บเพิ่มในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีไชน์บาว์มเคยกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า หากสหรัฐฯ ตัดสินใจขึ้นภาษีเพิ่มเติม เม็กซิโกก็จะดำเนินการ ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีต่อสินค้าสหรัฐฯ เช่นกัน
อ้างอิง : edition.cnn.com