โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

10 จังหวัดเสี่ยง 'โรคขาดาบ' เด็กติดเชื้อซิฟิลิสตั้งแต่กำเนิด

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันนี้ (12 ส.ค.2568) นพ.โฆษิต เอี้ยวฉาย หรือ หมอเบ็นซ์ แพทย์ศัลยกรรมจมูกโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ ออกมาโพสต์ให้ความรู้ใน TikTok @dr.benz_masterpiece เกี่ยวกับอาการป่วยจากการมี"เชื้อซิฟิลิส"ตั้งแต่กำเนิด ซึ่งชื่อว่า “โรคขาดาบ” โดยพบว่า เด็กทารกใน 10 จังหวัดนี้มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็น โดยหมอได้ระบุว่า

“โรคขาดาบ” Saber Leg เป็นโรคที่พบในคนที่เป็นซิฟิลิสตั้งแต่กำเนิด เรียกว่ารับเชื้อของคุณแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

เซฟตัวเอง! วัยรุ่นไทยท้องลด แต่ติดโรคพุ่ง เช็ก 5 โรคทางเพศยอดฮิต

น่าห่วง! วัยรุ่นติดโรคทางเพศพุ่ง 13% - หลายรายติดเชื้อซิฟิลิสซ้ำ

10 จังหวัดเสี่ยง 'โรคขาดาบ' เหตุมีผู้ติดเชื้อซิฟิลิสสูง

โดยข้อมูลจาก กองระบาดนิยมวิทยา กรมควบคุมโรค ได้เผยข้อมูลว่า 10 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อซิฟิลิสมากที่สุด ในปี 2567 ได้แก่

  • กรุงเทพมหานคร 3,968 ราย
  • ชลบุรี 1,844 ราย
  • นครราชสีมา 864 ราย
  • บุรีรัมย์ 841 ราย
  • อุดรธานี 799 ราย
  • อุบลราชธานี 777 ราย
  • ภูเก็ต 702 ราย
  • สมุทรปราการ 688 ราย
  • สุราษฏร์ธานี 688 ราย
  • เชียงใหม่ 614 ราย

ทั้งนี้ กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยข้อมูล สถานการณ์โรคซิฟิลิส ในประเทศไทย ข้อมูลอัพเดต ณ วันที่ 30 พฤษภาคม ระบุว่าผู้ป่วยโรคซิฟิลิส ในปี 2568 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 พฤษภาคม สะสม 12,862 ราย แบ่งเป็นเพศชาย 8,050 ราย เพศหญิง 4,812 ราย ช่วงอายุระหว่าง 15-24 ปี จำนวน 4,568 ราย, อายุ 36-34 ปี 4,008 ราย อายุ 35-45 ปี 1,777 ราย และกลุ่มอายุอื่นๆ 2,509 ราย นอกจากนั้น ยังมีผู้ป่วยโรคซิฟิลิสแต่กำเนิดที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี สะสม 582 ราย เสียชีวิต 2 ราย ทั้งนี้ ข้อมูลผู้ป่วยโรคซิฟิลิส ปี 2567 สะสม 27,583 ราย

เตือน 'โรคขาดาบ' โรคที่เด็กติดเชื้อซิฟิลิสแต่กำเนิด

"ลักษณะของ “โรคขาดาบ” ก็จะมีขาที่คล้ายกับดาบ และมีฟันบากหรือฟันเป็นเลื่อย ในส่วนของใบหน้าเองก็เช่นกัน จะมีลักษณะ หน้าผากนูนมาก แต่ดั้งจมูกไม่มี ทำให้โครงสร้างหน้ามีความเว้าเข้าไปจนเห็นได้ชัดนั่นเอง"

โรคซิฟิลิส (Syphilis) คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) ผ่านการสัมผัสกับสารคัดหลั่งที่ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียทรีโพนีมา พาลลิดัม (Treponema pallidum) สาเหตุที่ทำให้เป็นแผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง (Chancre) ขึ้นเป็นตุ่มนูนแตกออกเป็นแผลกว้างที่ปาก อวัยวะเพศ หรือทวารหนัก โรคซิฟิลิสที่ไม่ได้รับการรักษาให้หายตั้งแต่ระยะเป็นแผลจะพัฒนาเข้าสู่ระยะออกดอก และระยะติดเชื้อที่ทำลายระบบประสาท ระบบหลอดเลือดและหัวใจ และทำให้เสียชีวิตได้ในที่สุด ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษา

ซิฟิลิส มีสาเหตุจากอะไร?

ซิฟิลิส (Syphilis) เป็นกามโรคชนิดหนึ่งที่ติดต่อจากคนสู่คนโดยมีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรียทรีโพนีมา พาลลิดัม (Treponema pallidum) ผ่านการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย การทำรักด้วยปากหรือการทำออรัลเซ็กส์ (Oral sex) การจูบที่สัมผัสกับน้ำลาย การสัมผัสกับบาดแผลหรือเยื่อเมือกของผู้ที่ติดเชื้อ หรือการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกขณะตั้งครรภ์ หรือระหว่างการคลอดบุตร

ซิฟิลิสแต่กำเนิด คืออะไร?

ซิฟิลิสแต่กำเนิด (Congenital syphilis) คือ ซิฟิลิสที่เกิดจากการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกขณะตั้งครรภ์ โดยสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกระยะของการตั้งครรภ์และขณะคลอดบุตรเมื่อทารกสัมผัสกับสารคัดหลั่งหรือเยื่อเมือกของมารดาระหว่างการคลอด ซิฟิลิสแต่กำเนิดเป็นสาเหตุของการคลอดก่อนกำหนด การเสียชีวิตของทารกในครรภ์มารดาหรือเสียชีวิตหลังคลอด

อาการของโรคซิฟิลิส แต่กำเนิดมีตั้งแต่ไม่แสดงอาการใด ๆ ไปจนถึงมีอาการเมื่อโตขึ้น เช่น ผื่นแดงที่ฝ่ามือฝ่าเท้า หูหนวก โครงสร้างฟันผิดปกติ โครงสร้างจมูกผิดปกติหรือเรียกว่า จมูกซิฟิลิส (Syphilitic nose) และปัญหาสุขภาพรุนแรงอื่น ๆ คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเข้ารับการตรวจหาเชื้อซิฟิลิส และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เพื่อความปลอดภัยของทารกในครรภ์ และเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

ซิฟิลิส มีวิธีการป้องกันอย่างไร?

ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน การมีเพศสัมพันธ์แบบปลอดภัย การพบแพทย์ทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย หรือหลังจากสังเกตเห็นแผลที่ปากหรืออวัยวะเพศ เป็นวิธีการป้องกันโรคซิฟิลิสได้ดีที่สุด วิธีการป้องกันซิฟิลิสอื่น ๆ มีดังต่อไปนี้

  • สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ (ที่ไม่ปลอดภัย หรือไม่ใช่คู่ของตน)
  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย งดพฤติกรรมโลดโผนทางเพศ
  • งดการจูบปาก หรือการทำออรัลเซ็กส์ให้กับคู่เพศสัมพันธ์ชั่วคราว หรือคู่รักข้ามคืน
  • งดการใช้เซ็กส์ทอย (Sex toy) ร่วมกับผู้อื่น
  • ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
  • ไม่สัมผัสบาดแผลของผู้อื่น
  • แจ้งให้คู่รักทราบ หากติดเชื้อซิฟิลิส
  • คุณแม่ตั้งครรภ์ ควรเข้าโปรแกรมฝากครรภ์เพื่อตรวจหาเชื้อซิฟิลิส
  • การตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน
  • การตรวจสุขภาพประจำปี
  • หมั่นดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย
  • หมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตามซิฟิลิส โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่รักษาให้หายได้ โดยการป้องกันสวมถุงยางอนามัยก่อนมีเพศสัมพันธ์ หลีกเลี่ยงการจูบกับคู่เพศสัมพันธ์ชั่วคราว หรือสัมผัสกับบาดแผลของผู้ติดเชื้อ ซิฟิลิสสามารถรักษาให้หายขาดได้โดยการเข้ารับการตรวจหาเชื้อและรับการรักษาโดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อพัฒนาลุกลามไปสู่ระยะต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมาในอนาคต การมีสัมพันธ์เฉพาะกับคู่รักของตนเพียงคนเดียวจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคซิฟิลิสลงได้

อ้างอิง:ติ๊กต็อก dr.benz_masterpiece ,โรงพยาบาลเมดพาร์ค

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

สิงคโปร์ปรับเพิ่มจีดีพีปีนี้ อานิสงส์ตัวเลขไตรมาส 2 ดีเกินคาด

38 นาทีที่แล้ว

‘พูโล’ ขอบคุณ ‘อันวาร์’ ตัวกลางเจรจาแก้ปัญหา 3จังหวัดชายแดนใต้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘การทูตทุเรียน’ เพิ่มศักยภาพแข่งขัน ในเทศกาลทุเรียนอาเซียน - จีน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'ทภ.2'สรุปสถานการณ์ชายแดน มี ทหารเหยียบกับระเบิด เจ็บ1นาย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

รพ.ลาดบัวหลวง ชูโมเดล "IoT" ช่วยผู้ป่วยเบาหวาน "หยุดยาสำเร็จ"

ฐานเศรษฐกิจ

อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปิดศูนย์อพยพทั้งหมดแล้ว

ฐานเศรษฐกิจ

ผลักดัน ‘สิทธิลาคลอด’ เป็น 180 วัน แก้วิกฤตเด็กเกิดน้อย

กรุงเทพธุรกิจ

รพ.ลาดบัวหลวงเจ๋ง! ใช้ 'IoT' ช่วยผู้ป่วยเบาหวาน 'หยุดยาสำเร็จ'

กรุงเทพธุรกิจ

จากการจูงใจให้มีลูกไม่เกินหนึ่งคน ถึงการจ่ายให้มีลูก | บ้านเขาเมืองเรา

กรุงเทพธุรกิจ

มันหวานอบ 1 หัว เพิ่มวิตามินเอให้ร่างกายได้ 400 เปอร์เซนต์

TNN ช่อง16

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...