มันหวานอบ 1 หัว เพิ่มวิตามินเอให้ร่างกายได้ 400 เปอร์เซนต์
วิตามินเอ มีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งต้องรับจากการทานอาหารเท่านั้น ร่างกายไม่สามารถสัง้คราะห์เองได้ ข้อมูลจากการศึกษาล่าสุดระบุว่า การบริโภคมันหวานอบ 1 หัว ให้วิตามินเอที่ร่างกายมากถึง 400 เปอร์เซนต์ ช่วยทำให้ผิวพรรณและสายตาดีขึ้น
วิตามินเอ จำเป็นต่อร่างกายอย่างไร?
มีบทบาทสำคัญต่อร่างกาย ช่วยในเรื่องการมองเห็น ระบบเผาผลาญ และการเจริญเติบโตของเซลล์ต่าง ๆ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานได้ดีขึ้น
การขาดวิตามินเออาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ เช่น ตาบอดกลางคืน และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ
มันหวาน แหล่งวิตามินเอ
WebMD เว็บไซต์สุขภาพขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ระบุว่า มันหวาน หรือ มันเทศอบขนาดกลางเพียง 1 หัว ให้วิตามินเอได้มากกว่า 400 เปอร์เซนต์ ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน เนื่องจากอุดมไปด้วยเบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ
นอกจากสุขภาพสายตาและผิวพรรณแล้ว วิตามินเอที่ได้จากการรับทานมันหวานอบ ยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโดยการรักษาเยื่อบุผิวและช่วยในการสร้างเม็ดเลือดขาว
มีงานวิจัยด้านภูมิคุ้มกันวิทยา ชี้ว่า มันเทศยังมีไฟเบอร์ วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ จึงเป็นตัวเลือกที่อุดมไปด้วยสารอาหาร
ดังนั้น การเพิ่มมันเทศลงในมื้ออาหารเป็นวิธีง่ายๆ ในการเติมวิตามินเอ ให้กับร่างกาย
แหล่งวิตามินเอ อื่นๆ
วิตามินเอ มักพบในผักและผลไม้ที่มีสีส้มหรือสีเหลือง ซึ่งเป็นสีของสารเบตาแคโรทีน
เช่น แคร์รอต ฟักทอง มะม่วงสุก มะละกอสุก หรือแคนตาลูป
แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนยังไม่รู้ คือ เราสามารถพบสารนี้ได้ในผักและผลไม้ที่มีสีเขียวเข้มด้วย เช่น คะน้า ตำลึง ผักบุ้ง ปวยเล้ง และบรอกโคลี
โดยร่างกาย ควรได้รับโปรวิตามินเอประมาณ 6-7 มิลลิกรัมต่อวัน เทียบเท่ากับผักและผลไม้สีเหลือง สีส้ม หรือสีเขียวเข้ม ประมาณ 400 กรัมต่อวัน
หากเราแบ่งทาน 3 มื้อ มื้อละ 1-2 ทัพพี ก็ถือว่าเราได้รับบีตาแคโรทีนในปริมาณที่เพียงพอต่อวันแล้ว