"สรรพากร" รับปีงบ 68 รีดภาษีหืดจับ เศรษฐกิจซึมฉุดจัดเก็บรายได้
นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2568 คาดว่าจะใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ 2.3725 ล้านล้านบาท โดยรายได้ที่กรมสรรพากรจัดเก็บเองประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท มั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้า ขณะที่รายได้จากการจัดเก็บแทนหน่วยงานภายนอกอีก 4-5 แสนล้านบาท อาจติดลบเล็กน้อย
ทั้งนี้ ผลประกอบการบางกลุ่มธุรกิจยังไม่ดีนัก เช่น ธุรกิจเช่าซื้อ ขนส่ง ยานยนต์ รถไฟฟ้า น้ำมัน และปิโตรเคมี ส่วนกลุ่มที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีได้แก่ ธุรกิจการเงิน โมเดิร์นเทรด และซื้อมา-ขายไป
“ขณะนี้เหลือเวลาอีก 3 เดือนสุดท้ายที่จะมีการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51 ของนิติบุคคลสำหรับครึ่งปีบัญชี ซึ่งกำลังติดตามสถานการณ์ เนื่องจากธุรกิจบางแห่งไม่ค่อยดี ดังนั้นถ้าผลงานดี ก็ควรเสียภาษีตามนั้น แต่ถ้าไม่ดีก็รับได้ ภาพรวมการจัดเก็บตอนนี้ยังปริ่ม ๆ ถ้าเป็นส่วนของกรมฯ เองมั่นใจว่าจะถึงเป้า แต่การจัดเก็บจากหน่วยงานภายนอกอาจเหนื่อยหน่อย”
สำหรับผลกระทบจากความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา มองว่าไม่น่ากระทบต่อรายได้กรมสรรพากรมาก เพราะพื้นที่ได้รับผลกระทบมีเพียง 2 ด่านใหญ่ และไทยไม่ได้มีการนำเข้าจากกัมพูชามาก ส่วนใหญ่เป็นกัมพูชานำเข้าจากไทย จึงเชื่อว่าจะไม่กระทบภาพรวมงานกรมฯ แต่หากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ อาจส่งผลต่อการจัดเก็บปีงบประมาณ 2569 ซึ่งมีเป้าหมาย 2.4 ล้านล้านบาท
สำหรับการปฏิรูปโครงสร้างภาษี ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา เพราะต้องแก้ไขประมวลรัษฎากร จึงยังไม่มีการจัดเก็บภาษีใหม่ ๆ โดยกรมฯ จะเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีเป็นหลัก
นอกจากนี้ กรมสรรพากรได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับ สวทช. และธนาคารกรุงไทย เพื่อพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ สนับสนุนการบริการประชาชน และเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ