"รวมพลังแผ่นดิน"ยกระดับชุมนุมขับไล่นายกฯแพทองธารหากไม่ลาออก
เมื่อวันที่ 28มิถุนายน 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ได้ปราศรัยปิดท้ายการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยประกาศกร้าวว่า หาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ยอมลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลไม่ถอนตัวตามข้อเรียกร้อง หรือหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ในการประชุมวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 กลุ่มผู้ชุมนุมก็พร้อมที่จะปักหลักค้างคืนขับไล่ จนกว่านายกรัฐมนตรีจะพ้นจากตำแหน่งสถานเดียว
นายจตุพรย้ำถึงจุดประสงค์ของการชุมนุมครั้งนี้ เพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมเสียดินแดนให้กัมพูชา พูดเรื่องนี้ก็เจ็บใจ"เราต้องจัดการคนขายชาติขายแผ่นดิน" เขาเชื่อมโยงกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุนเซน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยระบุว่าหากศาลสั่งให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ผู้ที่จะทำหน้าที่รักษาการนายกฯ คือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ซึ่งกำลังจะไปนั่งในตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม นายจตุพรยังเชื่อว่าหลังจากนายภูมิธรรมรับตำแหน่งรักษาการนายกฯ เพียงไม่กี่วัน ก็อาจจะถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับกรณีการกลั่นแกล้งคดีฮั้ว สว.
แกนนำคณะหลอมรวมประชาชนยังแสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐบาล ส.ส. และ ส.ว. จะต้อง "ไปทั้งคณะ" เนื่องจากมีการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ว่าด้วยการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีความผิดจริงตามมาตรานี้ จะไม่เพียงแค่การตัดสิทธิ์บุคคลเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่การหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือยุบพรรคการเมืองได้ ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ