โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

เอาที่สบายใจครับลูกพี่!!!!!

ไทยโพสต์

อัพเดต 17 สิงหาคม 2568 เวลา 5.21 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันก่อนมีคนถามผมว่า ชอบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หรือไม่? ผมไม่รู้จะตอบยังไง จะตอบว่า “เฉยๆ” ก็ไม่ถูกซะทีเดียว จะตอบว่า “ไม่ชอบ” ก็ไม่เชิง จะบอกว่า “ชอบ” ก็ไม่ใช่ครับ

ผมเงียบไปซักพัก เพราะไม่รู้จะตอบอะไร ในระหว่างที่ผมไม่ตอบ เขาตอบเบ็ดเสร็จเลยว่า “เงียบอย่างงี้ แสดงว่าไม่ชอบ”

ระหว่าง 3 คำตอบนี้ ถ้าต้องเลือกจริงๆ จะอยู่ระหว่าง “เฉยๆ” กับ “ไม่ชอบ” มากกว่า “ชอบ” แต่ผมไม่ถึงขั้นเกลียด หรือรับไม่ได้ ไม่ถึงขั้นตื่นมาพร้อมความเกลียดชังต่อเขา เหมือนที่หลายคนตื่นมาพร้อมด่าคุณทักษิณทุกวันในบ้านเรา

ความรู้สึกที่ผมมีต่อทรัมป์คือ ไม่คาดหวังอะไร เพราะไม่ได้คิดว่าเขามีนโยบายหรือวางแผนอะไรที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนอเมริกันและโลกระยะยาวอยู่แล้ว ความรู้สึกผมคือ นโยบายหลายสิ่งอย่างที่เขาคิด ที่เขาทำ มันจะต้องแก้ในวันข้างหน้า เลยอยู่ในช่วงทนๆ เขาก่อนช่วงนี้ ถือว่าเป็นสีสัน ถือว่าขำๆ ไปวันๆ ก่อนละกัน

ลำพังเพียงตัวทรัมป์เอง ถือว่าขำๆ ได้ แต่บังเอิญเขาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา เลยขำยาก ใครจะชอบหรือไม่ชอบสหรัฐอย่างไร ต้องยอมรับว่าสหรัฐอเมริกามีอิทธิพลต่อโลกเราอย่างจริงจัง ดังนั้นเมื่อทรัมป์เป็นประธานาธิบดี สิ่งที่โลกต้องทำ ณ ตอนนี้คือ กัดฟันและอดทนครับ

ในสมัยแรก คนไม่พอใจทรัมป์กล้าแสดงตนมากกว่านี้ เพราะตอนนั้นเขาเป็นประธานาธิบดีที่คนคิดว่าจะเป็นประธานาธิบดีสมัยเดียวเท่านั้น คนเลยเกรงขามตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ดูถูกตัวบุคคล เพราะเป็นทรัมป์ ตอนนั้นไม่มีใครให้ราคา เพราะคิดว่าเขาไปไม่รอดแน่ และเขาไปไม่รอดจริงๆ เพราะแพ้การเลือกตั้งอย่างยับเยิน

ใครจะคิดว่า คนที่แพ้การเลือกตั้งขนาดนั้น คนที่ก่อปัญหาบุกสภารุนแรงขนาดนั้น คนที่มีคดีติดตัวเยอะขนาดนี้ จะเป็นที่นิยมของคนอเมริกันจนสามารถชนะการเลือกตั้ง กลับมาเป็นประธานาธิบดีอย่างถล่มทลาย?

อันไหนแรงกว่ากัน? ความรัก ความศรัทธา ความคิดถึงที่คนอเมริกันมีต่อทรัมป์? หรือความเบื่อหน่าย ความไม่พอใจ ความกลัวที่คนอย่าง กมลา แฮร์ริส จะเป็นประธานาธิบดี? มันเป็นสิ่งน่าคิดครับ รู้ทั้งรู้ว่าทรัมป์เป็นอย่างไร ประวัติเป็นอย่างไร แนวการทำงานเป็นอย่างไร ผลงานเป็นอย่างไร แต่ยังเลือกเขา และไม่ใช่เลือกแบบเฉียดฉิว แต่เลือกแบบถล่มทลาย ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนพอๆ กับคะแนนที่โจ ไบเดน ชนะทรัมป์ ตอนที่ทรัมป์แพ้ยับเยิน

คราวนี้ทรัมป์กลับมาสมัยที่ 2 ด้วยความสง่างาม และด้วยความชอบธรรม ในสมัยที่ 2 ครั้งนี้ คนทั่วโลกต้องเกรงขาม ทั้งตำแหน่งประธานาธิบดีและตัวบุคคลด้วย ในสมัยที่ 2 จะไม่เห็นคนออกมานินทา ต่อต้านเท่าสมัยแรก เพราะเขาชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย บรรดาผู้ต่อต้านได้แต่กัดฟัน ก้มหน้า และอดทนต่อไป

ดังนั้นถ้าถามผมว่า ผมชอบทรัมป์หรือไม่ ผมเฉยๆ ครับ ถ้าตอบแบบตรงๆ ผมรำคาญเขา เพราะไม่ได้คาดหวังอะไรกับเขา ผมอาจโชคดีที่ไม่ได้ถือสัญชาติอเมริกันแล้ว ดังนั้นนโยบายในสหรัฐที่ทำให้เพื่อนผมหลายคนร้อนใจและดุเดือดนั้น ผมเฉยๆ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับผม ในสายตาผม ทรัมป์ดึง บรรทัดฐานประธานาธิบดีต่ำลง (ประเภทลงเหวเลย) ผมจึงไม่คาดหวังอะไร และแทบไม่สน แต่บังเอิญเขาเป็นประธานาธิบดีของประเทศมหาอำนาจของโลกเลยต้องให้ราคา ปนกับความสมเพชที่มีต่อคนอเมริกัน เห็นใจฝ่ายที่ไม่เลือกเขาและต้องทนกับคนแบบนี้ และแปลกใจกับคนที่เลือกเขาด้วย

แปลกใจที่ว่า รู้ทั้งรู้ว่าเขาเป็นอย่างไร แล้วพวกคุณยังเลือกเขา และตอนนี้ทำเป็นว่าไม่พอใจเขา….สายไปแล้วครับ พวกคุณจำนวนไม่น้อยเลือกเขาเอง

ด้วยบรรทัดฐานที่ต่ำมากๆ ผมจึงไม่แปลกใจและไม่รู้สึกอะไร ตอนเห็นข่าวผ่านตาเรื่องทรัมป์มีปัญหาและต่อว่าซีอีโอบริษัท Intel (ชื่อ Lip Bu Tan) ด้วยการกล่าวหาว่า Tan เอนไปทางจีน และในฐานะเป็นซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ที่เคยยิ่งใหญ่ในด้านผลิตชิป (แต่ตอนนี้ไม่) Tan เป็นเป้าที่ทรัมป์ประกาศอยากขับไล่ออกจากตำแหน่ง

ย้ำอีกครั้งครับ ด้วยบรรทัดฐานต่ำที่ทำตัวเองสม่ำเสมอ ผมก็แค่อ่านผ่านๆ ยิ่งพอรู้ว่าทรัมป์กับ Tan ได้พบกันในทำเนียบขาว ทำให้ทรัมป์กลับลำ จากอยากขับไล่เขาลูกเดียว เปลี่ยนเป็นชื่นชมและสนับสนุนให้เขาเป็นซีอีโอต่อ ทำให้ผมนึกถึงของแสลงที่เกี่ยวกับทรัมป์….TACO (Trump Always Chickens Out)

พออ่านข่าวในเรื่องนี้ ผมก็คิดว่า “เอาที่สบายใจลูกพี่” เพราะคิดว่ามีแต่ทรัมป์ที่จะบ้าบอพอ เสือกเข้าไปในกิจการบริษัทเอกชน ไม่มีใครเขาทำกันหรอก ถ้าทำขึ้นมา อย่างน้อยไม่ทำผ่านสื่อ ถ้าทำจริงๆ ทำแบบอ้อมๆ ลึกลับๆ…. แบบไทยๆ นี่แหละ ประเทศที่ทำแบบนี้ได้คือ รัสเซีย กัมพูชา เกาหลีเหนือ เวียดนาม ประเทศประเภทเปิดเผยเหมือนไม่เปิดเผย ผู้นำสั่งได้ทุกอย่าง ไม่ใช่สหรัฐอเมริกาแน่ๆ

แต่พออ่านข่าวเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศอยากให้บริษัทเอกชนขับไล่หรือเชิญซีอีโอออก ในปี 2008 บริษัท AIG ประสบปัญหาภาวะการเงินรุนแรง เป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ขอความช่วยเหลือจากรัฐ ขอเงินสนับสนุน และเงินอุ้มให้บริษัทรอดต่อ ช่วงนั้นเป็นช่วงยุคปลายประธานาธิบดีจอร์จ บุช (บุชผู้เป็นลูก) ในกรณีนี้บุชเองไม่ได้ประกาศให้ซีอีโอ AIG พ้นจากตำแหน่ง คนพูดคือ Treasury Secretary Henry Paulson แต่เป็นอันเข้าใจว่า คำพูดมาจากคำสั่งของบุช

เงื่อนไขในการช่วยเหลือ AIG คือซีอีโอต้องหลุดจากตำแหน่ง และในที่สุดซีอีโอ “ลาออก”

ต่อมาในยุคบารัค โอบามา เริ่มเป็นประธานาธิบดี บริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกา GM กำลังประสบปัญหาการเงินเหมือนกัน และขอความช่วยเหลือจากรัฐให้เงินสนับสนุน ทั้งทีมประธานาธิบดีบอกว่าให้เงินสนับสนุนได้ แต่เงื่อนไขคือ ซีอีโอ Rick Wagoner ต้องลาออก และในที่สุดเขาก็ลาออกครับ

แต่ 2 กรณีในอดีต ต่างจากครั้งนี้ เพราะ 2 กรณีนั้นเป็นเงื่อนไขในการช่วยเหลือ ช่วยอุ้มบริษัทนั้นๆ เป็นเงื่อนไขที่คุยกันเอง คุยกันเป็นความลับ และไม่เปิดเผยผ่านสื่อ แต่ในครั้งนี้ประธานาธิบดีพูดเองเออเอง เหมือนตัวเองถือหุ้นใหญ่ใน Intel เลยทำให้เป็นข่าว เพราะที่ผ่านมาไม่มีประธานาธิบดีคนไหนก้าวก่ายในกิจกรรมเอกชนขนาดนี้

แต่อย่างที่บอกครับ ทรัมป์สร้างบรรทัดฐานต่ำ เขาทำอะไรไป ผมไม่แปลกใจแล้วครับ.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

เขี้ยวเล็บ ทอ. สนามรบไทย-เขมร การศึกสมัยใหม่ ‘สงครามโดรน’

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ฟังดีกว่าฟ้อง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ฟังดีกว่าฟ้อง

ไทยโพสต์

ขออนุญาตรำลึกถึง’แม่’

ไทยโพสต์

เร่ง ‘เติมของหนัก’ ให้กองทัพ

ไทยโพสต์

ชวนเยาวชนมาเป็น ‘ฮีโร่พลังงาน’ กับ ‘กฟผ.’ ในงานมหกรรมวิทย์ฯ ปี 68

ไทยโพสต์

ข่าวและบทความยอดนิยม