ทนายความ เผย การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงเกี่ยวกับที่ดิน เอกสารราชการก็ยังไม่ส่งมา
หลังศาลฎีกา-ศาลปกครองประกาศผลสอบพื้นที่เขากระโดงเป็นของรัฐ สั่งเพิกถอนที่ดิน 5 พันไร่ เดือดร้อนไปถึงสนามช้าง อารีน่า ของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ ช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต อาจจะต้องรื้อทิ้งทั้งหมด
ทั้งนี้ทางตัวแทนของ บุรีรัมย์ ที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับสนามแข่งรถ และสนามฟุตบอล ยืนยันว่า หลังจากตรวจสอบหลักฐานการจัดซื้ออย่างละเอียดพบว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่มีหลักฐานตามข้อกฎหมายเลยแม้แต่อันเดียว
โดย หลักฐานที่ว่าไม่มีนั้น ได้แก่ พ.ร.ฎ. จัดซื้อที่ดินดังกล่าว ไม่มีระบุในแผนที่แนบท้าย พ.ร.ฏ. โดยแผนที่ที่ รฟท. อ้างว่าจัดทำเมื่อปี 2465 ไม่ใช่แผนที่แนบท้าย พ.ร.ฎ. ขณะเดียวกันที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า เป็นที่ดินของ การรถไฟฯ แต่อย่างใด ซึ่งทางการรถไฟมีเพียงเอกสารขอเสนอซื้อที่ดินเพื่อขนหินเท่านั้น
ขณะที่รางรถไฟ ที่มีการเข้าไปบริเวณเขากระโดง ฝั่งบุรีรัมย์ ชี้แจงว่า ไม่ใช่รางเพื่อการเดินรถตามกฎหมาย แต่เป็นรางชั่วคราวที่ใช้สำหรับขนหินเพื่อสร้างทางรถไฟ ซึ่งการรถไฟฯ ยอมรับในเรื่องนี้
ทั้งนี้เมื่อแล้วเสร็จ การรถไฟฯ จะต้องจ่ายค่าทำขวัญให้กับประชาชนบริเวณดังกล่าว และช่วยรื้อถอนรางรถไฟ แต่ปัจจุบัน การรถไฟฯ ไม่ได้รื้อถอนตามข้อกฎหมายที่ระบุ
ขณะที่ ประมูลชัย นพสุวรรณวงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานทรัพย์สิน และผู้อำนวยการสายงานการตลาดและการสื่อสาร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวยืนยันว่า นับตั้งแต่มีประเด็นข้อพิพาท ทางสโมสรฯ ยังไม่เคยได้รับหนังสือใด ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยืนยันว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะยังใช้สนามช้าง อารีน่า ลงทำการแข่งขันต่อไป
ขณะที่ ตนัยศิริ ชาญวิทยารมย์ ผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ชี้แจงว่า ตัวพื้นที่สนามที่มีข้อพิพาท คือ แนวรั้ว มีการซื้อขายในปี 2556 เป็นที่ ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ