โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

กว่าจะได้เข็มกลัดธงชาติไทย

ไทยโพสต์

อัพเดต 10 สิงหาคม 2568 เวลา 5.03 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขอออกตัวก่อนครับ วันที่ผมเขียนคอลัมน์นี้จะล่วงหน้าวันที่แฟนคอลัมน์อ่านหลายวันทีเดียว ผมกลัวเนื้อหาจะ “แห้ง” เกินไป ทั้งๆ ที่มีเรื่องที่ผมจับตามองอยู่ เช่น ความตึงเครียดระหว่างมาเลเซีย กับอินโดนีเซีย เอาไว้ในวันข้างหน้าขอเขียนเรื่องนั้น เพราะจากประสบการณ์ผมที่อยู่อินโดฯ มา ผมรู้ว่าคนอินโดฯ รู้สึกอย่างไรกับคนมาเลเซีย

วันนี้ขอเขียนเรื่องที่ออกเบานิดนึง แต่ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องที่แฟนคอลัมน์หลายท่านประสบกับตัวมาบ้าง

ตั้งแต่มีการปะทะกับกัมพูชา ผมสงสัยอยู่ว่าทำไมฝ่ายเขาถึงมั่นใจขนาดนี้? ถ้าจะบอกว่าเขาถูกหนุนจากฝรั่งเศส แล้วไงครับ? ถ้าเป็นฝรั่งเศสเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว ผมเข้าใจ เพราะยุคนั้นฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลก แต่ยุคนี้ไม่ใช่ครับ ขนาดในทวีปแอฟริกาที่ฝรั่งเศสยังพอมีอิทธิพลอยู่ หลายๆ ประเทศเริ่มทยอยเชิญทหารฝรั่งเศสออกครับ ดังนั้นถ้าจะบอกว่าเป็นลูกรักฝรั่งเศส ผมถามอีกครั้ง แล้วไง?

เป็นลูกรักของโลกตะวันตก…ก็ไม่ใช่ เป็นลูกรักของจีน…ก็ไม่เชิง ในช่วงแรกที่เกิดปัญหาระหว่าง 2 ตระกูล จนดึงชีวิตของทั้ง 2 ประเทศมาปนด้วย ทั้งๆ ที่พวกเราทั้ง 2 ประเทศไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร ในช่วงนั้นๆ เข้าใจได้ว่าอดีตผู้นำกัมพูชาใช้กลยุทธ์เดิม เปลี่ยนทิศความสนใจของคนในบ้านเขา หันมาเกลียดชัง “ศัตรู” อันนั้นเข้าใจได้ครับ

แต่เมื่อถึงขั้นปะทะกัน ถึงขั้นต้องเสียเลือดทั้ง 2 ฝ่าย เขาทำเพื่ออะไร? แล้วเขายังมั่นใจทำไม? ผมบอกเลยว่า ณ เวลานี้ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กับอดีตนายกฯ (ของเขา) เป็นฮีโร่ในสายตาคนกัมพูชา ผมไม่ได้พูดถึงตาสีตาสา ชาวบ้านตาดำๆ ที่อยู่ห่างข้อมูลข่าวสาร คนระดับชนชั้นกลาง คนรุ่นใหม่ คนมีการศึกษาอวยผู้นำกับอดีตผู้นำของเขา

ที่ทำงานของผมมีสำนักงานในทุกประเทศของอาเซียน เพื่อนร่วมงานที่ทำงานอยู่ในกัมพูชา เวลาต้องคุยกันเรื่องงาน เวลาคุยทั่วไปเราไม่มีอะไร ไม่ขัดแย้งกัน เคยคุยอย่างไรก็คุยอย่างนั้นต่อ ไม่มีทะเลาะ ไม่มีการกระแนะกระแหน ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่เวลาทีมงานผมแอบส่อง IG ของพวกเขา….โอ้โห!!! ถล่มไทยเละ!!! ทุกอย่างที่มาลีและกัมพูชาแถลง พวกนี้โพสต์และพูดต่อ เขาเชื่อเต็มร้อย เต็มใจจริงๆ

ผมก็นึกว่าแค่กลุ่มหนุ่มสาวที่ไม่รู้เรื่องอะไร อาจตามกระแสก็ว่ากันไป แต่เพื่อนผมที่ทำงานในแวดวงประกัน บอกว่าเขามีเพื่อนระดับ CEO บริษัทข้ามชาติมีชื่อเสียงขนาดใหญ่ เป็นชาวกัมพูชา เวลาคนคนนี้โพสต์ใน Facebook ส่วนตัว ไม่ต่างกับที่ทางการกัมพูชาถล่มไทย เหลือเชื่อครับ

ถ้าเรามองกันแบบแฟร์ๆ กัมพูชามี “ความจริง” ของเขา ไทยก็มี “ความจริง” ของเรา ถ้าอย่างนั้นแล้ว “ความจริง” ที่แท้จริงอยู่ตรงไหน? ผมรู้อย่างเดียวว่า เรา 2 ประเทศอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 กว่าปี กว่าจะก้าวข้ามการปะทะในครั้งนี้ได้ ซึ่งน่าสมเพชพวกเราจริงๆ ครับ เพราะ 2 ประเทศไม่ขัดแย้งกัน ปัญหามาจากความโลภ และความอำมหิตของ 2 ตระกูลเท่านั้น

ผมขออนุญาตเล่าเรื่องออกขำๆ แต่ทำให้ผมโมโห….(ฉิบหาย)…ตอนที่เกิดขึ้นครับ

นอกจากบริจาคเงินช่วยเหลือทหารแนวหน้า ที่ปกป้องอธิปไตยของเรา และอุทิศบุญกุศลเวลาทำบุญให้ปกป้องพวกเขา ผมไม่รู้จะส่งใจช่วยและช่วยเหลืออย่างไร อยากจะทำมากกว่าที่ทำอยู่ แต่ไม่รู้จะทำอะไร อยากสักธงชาติไว้บนหน้า ไม่มีทางทำเพราะ ผมกลัวเข็ม เลยพูดไปอย่างนั้น ผมไม่กล้าบริจาคเลือด เพราะความกลัวเข็มของผม ผมกลัวว่าผมจะเป็นลมเสียก่อน ก็เลยคิด ซื้อเข็มกลัดธงชาติไทยติดสูทก็ยังดี

ผมคิดว่าเข็มกลัดธงชาติไทยคงหาไม่ยาก ตามร้านขายเครื่องประดับราชการทั้งหลายน่าจะมี เลยหาใน Google โดยเน้นร้านที่อยู่ใกล้บ้านเป็นหลัก โทร.ไปร้านแรก เขาไม่ขาย โทร.ไปร้านที่ 2 ก็ไม่ขาย โทร.ร้านที่ 3 ร้านที่ 4 ร้านที่ 5 ไม่มีเว้ย เลยโทร.ไปที่ร้านเครื่องเขียน ในหมู่บ้านที่ขายทุกอย่างในโลก ไม่ขายเหมือนกัน

ผมเลยต้องดูออนไลน์ ปรากฏในลาซาด้า ช้อปปี้ หาง่ายมากครับ แต่บางอันกว่าจะได้ต้องรออาทิตย์ 2 อาทิตย์เพราะส่งจากต่างประเทศ (!!!) บังเอิญมีเจ้าหนึ่ง โฆษณาว่าซื้อวันนี้ได้วันนี้ (ถ้าสั่ง Express) ผมเลยสั่งซื้อหลายชิ้น ด้วยความภาคภูมิใจ และด้วยความตื่นเต้น ในราคา (รวมค่าส่ง) ไม่ถึง 200 บาทครับ

วันนั้นผมไม่อยู่บ้านทั้งวัน แต่เนื่องจากสั่งของผ่านช้อปปี้ค่อนข้างบ่อย เรื่องที่อยู่มีบันทึกอยู่แล้ว ที่อาจจะต้องเฝ้ารอคือ โทรศัพท์จากคนส่งของ ซึ่งจะมีอยู่ 2 ประเภทครับ ประเภทแรก คือ “ผมกำลังไปครับ บ้านพี่อยู่ซอยไหน?” บอกไปก็จบ อีกประเภทคือ “ผมอยู่หน้าบ้านครับ” โดยที่เรายังไม่ทันตั้งตัว และอีกประเภทที่หลังๆ นี้ผมไม่เจอแล้ว (แต่ในช่วงแรกๆ ที่สั่งของออนไลน์ เจออยู่บ้าง) คือคนประเภท ระหว่างหาบ้านเราอยู่ ไม่ว่าเราจะอธิบายเส้นทาง และชื่อซอยกี่ครั้งก็ตาม เขาจะให้เราถือสายระหว่างที่เขาหาบ้านเราอยู่ ไม่ว่าจะใช้เวลา 10 นาที หรือ 20 นาทีก็ตาม แบบนี้ผมรำคาญ เพราะตอนบอกทาง เขาไม่ฟัง แต่พอหลงทาง อยู่ๆ ผมต้องฟังเขา

ในวันที่ผมรอเข็มกลัด (จะบอกว่ารอก็ไม่ถูกเพราะผมไม่ได้อยู่บ้าน) ผมได้รับโทรศัพท์ช่วงบ่ายจากคนที่กำลังส่งของ เขาถามว่า “ซอยบ้านพี่ ซอยอะไรครับ?” ผมบอกเขาไป หลังจากนั้นไม่นาน เขาบอกว่าเขาถึงหน้าบ้าน ผมบอกให้เขาเสียบตู้จดหมายได้เลย ทุกอย่างก็น่าจะจบใช่ไหมครับ?

เมื่อถึงบ้าน ผมไม่เห็นของ ทั้งในบ้าน ทั้งในตู้จดหมาย เลยถามแม่บ้านว่า “มีคนส่งของหรือเปล่า?” เขาบอกว่าเขาไม่เห็น ผมก็เลยออกไปดูใหม่เผื่อตกหล่น ข้างประตู หาตรงไหนก็ไม่มี ผมเลยพยายามโทร.หาคนส่งของ เขาไม่รับสาย เลยเข้าไปดูในช้อปปี้ ผมพบว่า คนส่งของถ่ายรูป ส่งของจริง แต่ดันไปส่งผิดที่ ตามพิกัดที่ปรากฏ ผมเลยเสิร์ชหาพิกัดนั้นใน Google Map ปรากฏว่าอยู่ตรงข้ามเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ไม่ใกลบ้านผม และใน Google Map ขึ้นชื่อสถานที่ เป็นอพาร์ตเมนต์พร้อมเบอร์โทร.

ผมก็ไม่คิดอะไร เลยโทร.ไปเพื่อถามว่ามีพัสดุชื่อนี้อยู่ตรงนั้นใหม? ถ้ามีผมจะไปเอา เพราะมีการส่งผิดที่ เท่านั้นเองครับ ไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ไม่น่าจะเป็นเรื่องเยอะใช่ไหมครับ? แต่คนรับสาย……แม่ง!!!!!!!!

พอโทร.ไป ผมถามว่าที่นี่ (ตามชื่ออพาร์ตเมนต์) ไช่ไหมครับ? เขาตอบว่า “ใช่ครับ” พอจะเริ่มอธิบาย มีการส่งพัสดุของผมผิดที่ คาดว่าน่าจะส่งที่นั่น ยังไม่ทันพูดจบไอ้นี่พูดว่า “คุณโทร.ไปหาคนที่ส่งของไป ไม่เกี่ยวกับที่นี่” และจะรีบวางเหมือนเวลาพวกเราโดนคอลเซ็นเตอร์ ผมบอกว่า “เดี๋ยวแป๊บนึงนะครับ ผมแค่อยากถามว่าตรงนั้นมีพัสดุผมหรือไม่” เขาตอบว่า “ผมไม่รู้” ผมเลยถามเขากลับไปว่า “มีเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้ไหม?” เขาบอกว่า “ไม่มี มีแต่ผม ผมเป็น Admin วางก่อนนะ” แล้วมันวางไปเลย น่าโมโหไหมครับ?

ผมก็โกรธสิ เลยโทร.กลับขึ้นเสียงกับเขาว่า “มีพัสดุ อยู่ตรงนั้นหรือไม่?” เขาตอบว่า “ผมไม่รู้แล้วไม่สน” แต่ก่อนที่เขาจะวาง ผมด่าเช็ดเลย ซึ่งไม่ได้อะไรขึ้นมา แต่มันโมโหครับ ก็เลยเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เห็นใจบรรดาคอลเซ็นเตอร์ที่ถูกด่าเวลาโทร.หาใครต่อใคร (แต่ผมไม่ใช่คอลเซ็นเตอร์ครับ!!!) ยอมรับว่าผมหงุดหงิดอยู่นานมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร ไอ้อยากได้พัสดุก็อยากได้ แต่ถ้าจะต้องโทร.ไปหามันอีก หรือจะต้องไปที่ของมันผมก็ไม่เอา ผมเลยโทร.ที่ช้อปปี้ คุยกับเจ้าหน้าที่ว่า เหตุการณ์เป็นแบบนี้ คนส่งของส่งผิดที่ และสถานที่ที่ส่งนั้นมีคนโง่รับโทรศัพท์ เลยช่วยอะไรไม่ได้

ทางช้อปปี้เช็กดูพิกัด แล้วบอกว่าจะส่งเงินคืนให้ แต่จะพยายามติดต่อคนส่งของอีกรอบก่อน

คราวนี้ผมเลยพยายามสั่งใหม่ โดยที่ไม่ต้องกดประเภท สั่ง Express คือสั่งซื้อวันนี้ได้อีก 2 วันก็ยังดีครับ สั่งเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร คนส่งของเป็นประเภทถึงหน้าบ้านปุ๊บโทร.ปั๊บ ผมเลยบอกเขาว่า “แป๊บนึงครับ เดี๋ยวแจ้งแม่บ้านให้” เพราะผมไม่อยู่บ้าน วางเสร็จผมโทร.ไปบอกแม่บ้านซึ่งกำลังซักผ้าอยู่ เดี๋ยวเขาจะออกไปรับพัสดุให้ เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาที คนส่งโทร.หาผมพูดว่า “ผมรอนานแล้วนะ”

ด้วยความรำคาญ ผมเลยบอกว่า “น้องถ้าอย่างงั้น โยนเข้ามาในบ้านเลย” แล้ววางไป

ดังนั้นช่วงนี้ถ้าเจอผมที่ไหน และเห็นเข็มกลัดที่ผมติดกับสูทอยู่ ให้รู้ว่าผมใส่ด้วยความภาคภูมิใจ กว่าจะได้มาผมเกือบต้องฆ่าไอ้โง่ๆ 2 คนก่อน ใครจะไปรู้ว่าการหาเข็มกลัดธงชาติไทย มันยากเย็นขนาดนี้?.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

ทักษิณ เสี่ยงนับโทษใหม่ ศาลรธน.คดีอิงค์ รอดยาก ชิงลาออกก่อนวันลงมติ?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สิ่งที่หยั่งรากอยู่ใน‘อุปนิสัย’ของ‘สมเด็จฮวยเซ็ง’!!!

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม