รัฐพันลึกเกิดได้…เมื่อไทยเป็นรัฐล้มเหลว
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “Deep State” หรือ “รัฐพันลึก” หรือ “รัฐซ้อนรัฐ” หรือ “รัฐเงา” ซึ่งหมายถึงการที่ประเทศใดประเทศหนึ่งมีสภาพเป็น “Failed State” หรือ “รัฐล้มเหลว” จนทำให้กลุ่มคนในประเทศหรือนอกประเทศ หรือรัฐบาลของประเทศอื่นเข้ามาใช้อำนาจกำกับการทำงานของรัฐบาลจริงในประเทศที่เป็น “รัฐล้มเหลว” การใช้อำนาจของรัฐพันลึกเป็นการใช้อำนาจที่ไร้หลักการที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม แต่เป็นการใช้อำนาจตามใจชอบเพื่อผลประโยชน์ของผู้ใช้อำนาจ แตกต่างจากรัฐบาลจริงที่จะต้องใช้อำนาจอย่างมีหลักการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายของ
ประเทศนั้นๆ ถ้าหากรัฐบาลของประเทศที่เป็นรัฐบาลจริงสามารถบริหารประเทศตามหลักการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รัฐพันลึกก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่รัฐบาลจริงไม่สามารถบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะด้วยความไร้ความสามารถ หรือจงใจที่จะรับใช้ต่างชาติ เมื่อนั้นประเทศก็จะเป็นรัฐล้มเหลวที่เปิดโอกาสให้มีผู้เข้ามารุกราน ยึดครองในรูปแบบรัฐพันลึก
รัฐบาลที่ไร้ความสามารถ รัฐบาลที่ไม่ซื่อสัตยสุจริต มีการโกงกิน มีการใช้อำนาจเหนือกฎหมาย มีการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย มีการทำโครงการที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีความไม่เป็นธรรมในการบริหาร ไม่ยึดมั่นหลักการธรรมาภิบาล ไม่มีจริยธรรม จนทำให้ประชาชนเดือดร้อน ไม่พอใจ ออกมาขับไล่รัฐบาล เกิดการชุมนุมที่ทำลายบรรยากาศของประเทศ เกิดความแตกแยก รัฐบาลไปทาง กองทัพไปทาง ประชาชนไปทาง รัฐบาลมีอำนาจแต่บริหารไม่ได้ เพราะมีประชาชนไม่ไว้วางใจให้รัฐบาลบริหารประเทศอีกต่อไป จนประเทศเดินหน้าไม่ได้ เศรษฐกิจตกต่ำ สังคมวุ่นวาย การเมืองเต็มไปด้วยความขัดแย้งแก่งแย่งกัน นโยบายของรัฐบาลไม่อาจเดินหน้าได้ เพราะประชาชนไม่เห็นด้วย และไม่ยินยอมให้รัฐบาลเดินหน้าในการดำเนินโครงการต่างๆ เพราะไม่เชื่อในความโปร่งใส ถึงเวลานั้นก็จะมีกลุ่มคนเห็นโอกาสที่จะเข้ามาแสดงบทบาทเป็นรัฐพันลึก กำกับการทำงานของรัฐบาล เพื่อผลประโยชน์ของตน รัฐบาลอาจจะต้องจำใจยอมรับรัฐพันลึก แต่บางครั้งอาจจะตั้งใจให้เกิดรัฐพันลึกเพราะได้รับผลประโยชน์จากผู้ที่เข้ามาเป็นรัฐพันลึก แบบที่เราเรียกว่า “ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน”
“รัฐพันลึก” เป็นการดำรงอยู่ของโครงสร้างอำนาจที่ไม่เป็นไปตามหลักการของบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายของบ่านเมือง แต่สามารถกำกับ ทิศทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม โดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบหรือความยินยอมจากประชาชน แต่อาจจะได้รับความยินยอมจากรัฐบาลบจริงที่ได้รับผลประโยชน์ส่วนตน โดยไม่สนใจความเสียหายที่จะเกิดกับประเทศชาติ ทุกประเทศควรจะมีรัฐบาลที่เรียกว่า “รัฐคุณธรรม” ที่ใช้อำนาจบนฐานของหลักการธรรมาภิบาล บริหารประเทศให้เป็นนิติรัฐ ด้วยนิติธรรม กฎหมายอยู่เหนืออำนาจ ไม่ใช่อำนาจอยู่เหนือกฎหมายมากกว่าเครือข่ายผลประโยชน์ของคนบางคนหรือบางกลุ่ม โดยยึด Rule of Law บริหารประเทศด้วยความโปร่งใส (Transparency) รับผิดชอบทุกผลลัพธ์ที่เกิดจากการกระทำของตน (Accountability) และมีความซื่อสัตย์สุจริต (Integrity) เป็นหลักการในการทำหน้าที่ แต่ฉากทัศน์ของการเมืองไทยเวลานี้ การทำงานของรัฐบาลในเวลานี้มีแนวโน้มว่าจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นรัฐล้มเหลว (Failed State) ที่ทำให้บางคนในประเทศ หรือบางกลุ่มนอกประเทศจะฉวยโอกาสเข้ามาเป็น Deep State แสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรของประเทศไทย
ประเทศไทยมีสภาเป็น Deep State เพราะรัฐบาลไม่สามารถทำหน้าที่ได้โดยอิสระ แต่มีคนที่ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาลเป็นผู้บัญชาการและครอบงำการทำงานของรัฐบาล ในขณะที่รัฐบาลถูกครอบงำโดยผู้มีบารมีเหนือคนในรัฐบาล ฝ่ายค้านก็ไม่ได้ทำหน้าที่คัดค้านการทำงานของรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ ในการจะทำให้การทำงานของรัฐบาลหลุดพ้นจากการครอบงำ ฝ่ายค้านกลับให้ความสำคัญกับรัฐบาลต่างชาติที่มีความมุ่งหวังอยากเข้ามาเป็น Deep State กำกับการพัฒนาประเทศของไทย เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา โดยอ้างความเป็นประชาธิปไตยแบบสุดกู่ ประดิษฐ์วาทกรรมด้วยคำใหญ่ คำโต ความหรู ให้ดูทันสมัย มีพฤติกรรมเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันหลักของชาติ ทำตัวเป็นศัตรูกับทหารที่เป็นรั้วของชาติ ด้อยค่าการทำงานของพระสงฆ์เป็นการด้อยค่าศาสนา และพูดจาด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์
สภาพของการตกอยู่ภายใต้การครอบงำของคนที่เป็น Deep State ครอบงำการทำงานของรัฐบาลในเวลานี้มีปรากฏการณ์ต่างๆ ให้เห็นมากมาย 1) มีคนที่ไม่มีตำแหน่งใดๆ เป็นผู้กำกับการใช้อำนาจในการบริหารประเทศ ทำให้อำนาจอยู่เหนือกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมของไทยตกอยู่ในสภาพความพิการ 2) ไม่มีการกระจายอำนาจในการตัดสินใจ การตัดสินใจอะไรเป็นการกำหนดโดยคนคนเดียวที่มีอำนาจเหนือรัฐบาล และคนที่เป็นแกนนำรัฐบาลทำตัวเป็นข้าทาสบริวารรับใช้ผู้มีอำนาจเหนือรัฐบาลแบบถวายหัว โดยไม่มีการแยกแยะผิดถูก 3) ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล ครอบงำการทำงานของรัฐบาลด้วยการกำหนดนโยบายและกำหนดแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบาย โดยไม่สนใจประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แต่จะสนใจผลประโยชน์ของผู้ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการ Deep State 4) ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ ประชาชนไม่ได้อะไรจากทรัพยากรของชาติ แต่ผู้บัญชาการ Deep State จะเป็นผู้กอบโกยผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยมีนักการเมืองที่เป็นข้าทาสบริวาร ข้าราชการที่ไร้จริยธรรม สื่อที่ไร้จรรยาบรรณ นักวิชาการที่ไร้ศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิ รวมทั้งผู้รักษากฎหมายบางคนในบางองค์กรเป็นแนวร่วมให้การกอบโกยโกงกินของผู้บัญชาการ Deep Sate ประสบความสำเร็จ
การใช้อำนาจอยู่เหนือกฎหมายของผู้บัญชาการ Deep Sate ทำให้ประชาชนตกอยู่ภายใต้ความกลัว เพราะรู้สึกไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม ผู้คนยอมร่วมมือกับผู้บัญชาการ Deep Sate เพื่อผลประโยชน์เพราะความโลภและเห็นแก่ตัว ยอมทำผิดมาตรฐานจริยธรรม ผู้บัญชาการ Deep Sate เป็นผู้มีอำนาจด้วยการสร้างเครือข่ายในทุกภาคส่วนของประเทศ ทั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน บุคคลในกระบวนการยุติธรรม บุคคลที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ สื่อมวลชน นักวิชาการ ด้วยการเสนอผลประโยชน์ที่ทำให้ผู้คนจำนวนหนึ่งลืมคำว่าจริยธรรม ไม่สนใจหลักการของธรรมาภิบาล กระบวนการยุติธรรมพิกลพิการจนประชาชนรู้สึกไร้ที่พึ่ง และไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะไม่เชื่อว่ารัฐบาลทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แต่น่าจะเป็นทำงานเพื่อรับใช้ผู้บัญชาการ Deep Sate มากกว่า ทำงานเอาใจผู้บัญชาการ Deep Sate เพื่อให้ได้รับการแต่งตั้งให้ได้รับตำแหน่งที่ต้องการ หรือได้รับผลประโยชน์เป็นทรัพย์ศฤงคารที่คิดว่าทั้งชาตินี้ หากไม่รับใช้ผู้มีบารมีที่บัญชาการ Deep Sate อยู่ในตอนนี้ อย่างไรก็คงจะหาไม่ได้ ถ้าหากคนดีของชาติยังทำตัวเป็น “ไทยเฉย” กันเป็นส่วนใหญ่ ประเทศไทยคงไม่หลุดพ้นจากการครอบงำของ Deep Sate แน่นอน.