ว่าด้วยความดี-ความชั่ว คนดีและคนชั่ว!!!
ไม่ว่าโลก-ไม่ว่าสังคมไทย…ช่วงหลังๆ นี้คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า น่าจะเต็มไปด้วยความสับสน มึนงง อันเนื่องมาจากการที่ยากจะแยก ความจริง กับ ความเท็จ ออกจากกันแทบไม่ได้ยิ่งเข้าไปทุกที อะไรเป็นข่าวปลอม ข่าวปล่อย ข่าวหลอก อะไรเป็นข่าวจริง เรื่องจริง ไม่ได้แค่โม้ แค่ยกเมฆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ แทบจะหา เส้นแบ่ง หรือ เส้นมาตรฐาน ที่สามารถใช้เป็นตัวกำกับ เพื่อแยกจริง-แยกเท็จ ออกจากกันและกันแทบไม่ได้…
ยิ่งมีสิ่งประดิษฐ์ คิดค้น ที่สุดแสนจะก้าวหน้า ก้าวไกล อย่างที่เรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ยิ่งก่อให้เกิดความสับสน มึนซ์ซ์ซ์งงง์ง์ง์ หนักขึ้นไปใหญ่ เพราะด้วยขีดความสามารถที่มันอาจทำให้อะไรที่ ไม่จริง กลายเป็นอะไรที่ จริง หรือ คล้ายจริง ขึ้นมาจนได้ ใครที่ยังอยู่ หลังเขา หรือยังไม่คุ้นเคยกับขีดความสามารถชนิดนี้ อาจหนีไม่พ้นต้อง บ้า ต้องสับสน อลหม่าน ยิ่งขึ้นไปใหญ่ เพราะในเมื่อโอกาสที่จะ แยกจริง-แยกเท็จ ออกจากกันและกัน ไม่อาจเป็นไปได้โดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โอกาสที่จะ แยกดี-แยกชั่ว ออกจากกันและกัน ย่อมหนีไม่พ้นต้องหมดสมรรถภาพ หรือหมดประสิทธิภาพตามไปด้วย อย่างช่วยไม่ได้…
และในเมื่อ อะไรดี-อะไรชั่ว ยังไม่สามารถแยกออกจากกันและกัน ยังคงคลุมๆ เครือๆ ไม่รู้จะทำอะไรที่มันจะส่งผลให้เกิด ความดี หรือ ความชั่ว อันนั้น…ก็ต้องเรียกว่า ยังไงๆ…ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องฉิบหาย วายวอด พังพินาศ พังภินท์ มีแต่ต้อง เสวยผลกรรม ไม่ว่าชาตินี้-ชาติหน้า ไม่ว่าหนัก-ว่าเบา กันไปตามสภาพ อีกทั้งสิ่งที่มักถูกนำมาใช้เป็นเส้นแบ่ง เส้นมาตรฐาน ในการแยกแยะ ความดี-ความชั่ว ภายใต้สภาพที่ ความจริง-ความเท็จ ออกจะแยกจากกันและกันได้ลำบากเช่นนี้ มันคงหนีไม่พ้นไปจาก ความถูกใจ-ไม่ถูกใจ นั่นแหละทั่น!!! อะไรที่ถูกใจ…อันนั้นก็เลยกลายเป็น ความดี ส่วนอะไรไม่ถูกใจ…อันนั้นเลยต้องกลายเป็น ความชั่ว ความดีๆ-ชั่วๆ ในลักษณะเช่นนี้ มันเลยยิ่งน่าเกลียด น่ากลัว น่าตระหนก ตกใจ ยิ่งขึ้นไปใหญ่…
คือไม่ใช่แค่ผู้ที่ดันไปทำอะไรต่อมิอะไร ไม่ถูกใจ ผู้อื่น…อาจต้องกลายเป็น คนชั่ว เอาง่ายๆ ไม่ว่าจะเคยทำดี หรือเคยทำ ความดี เอาไว้ซักกี่มาก-น้อยก็ตาม หรือผู้ที่สามารถทำอะไรให้เป็นที่ถูกอก-ถูกใจของผู้อื่น จะได้รับการสถาปนาเป็น คนดี อย่างชนิดแทบไม่มีข้อสงสัย แต่การเป็น คนดี และ คนชั่ว ภายใต้เส้นมาตรฐาน ความถูกใจ-ไม่ถูกใจ เหล่านี้ มันยังสามารถทำให้คนดีและคนชั่ว ความดีและความชั่ว สามารถเปลี่ยนไป-เปลี่ยนมา พลิกไป-พลิกมา ได้ภายในชั่วเวลาแค่ข้ามคืน หรือแค่ไม่กี่วัน-ไม่กี่ชั่วโมง เอาเลยก็ไม่แน่…
ด้วยเหตุเพราะ…อะไรต่อมิอะไรมันดันไปขึ้นอยู่กับ ความถูกใจ-ไม่ถูกใจ หรือขึ้นอยู่กับ อารมณ์-ความรู้สึก ของผู้อื่นนั่นแหละเป็นสำคัญ บรรดา คนเลว ทั้งหลาย…นอกจากจะเป็นอะไรที่เลวเช็ด เลวตะเม็ด เลวชนิดไม่มีอะไรดีๆ หลงเหลือไว้เลยแม้แต่น้อย ยังเป็นอะไรที่เลวง่าย เลวเร็ว เลวแบบแทบหาทาง กลับตัว ใดๆ แทบไม่ได้ ไม่ต่างไปจาก คนดี ในแต่ละราย ที่ไม่เพียงแต่ดีเลิศ ประเสริฐศรี ดีจนสามารถใช้ทา ใช้ดม ใช้อม ใช้หยอด ใช้สอดและเสียบแบบแทบไม่มีอะไรด่างพร้อย แต่ก็คงจะดีอยู่ได้แค่ไม่กี่วัน ไม่กี่ชั่วโมง เท่านั้นเอง ไม่มีสิทธิ์อมตะนิรันดร์กาลใดๆ ได้เลย เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ อารมณ์ อันเป็นสิ่งที่วูบๆ ไหวๆ มันถูกปรับเปลี่ยนไปสู่เรื่องอื่นๆ บรรดาความดี หรือคนดีนั้นๆ ย่อมต้องกลายสภาพเป็น คนดี…ที่โลกลืม หรือ ความดี…ที่โลกลืม ไม่อาจเก็บมาใช้เป็นบทเรียน เป็นอุทาหรณ์สอนใจใครๆ ได้อีก…
อันนี้นี่แหละ…ที่ทำให้ ความดี-ความชั่ว ในลักษณะเช่นนี้ มันเลยเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว น่าตระหนก ตกใจ มิใช่น้อย เพราะมันสามารถแปรเปลี่ยน ผันผวน รวนเร ไปในทิศไหนต่อทิศไหนได้เสมอ ไม่ใช่ ความดีแท้ อันมีที่มาจาก ความจริงแท้ แต่เป็น ความดีสมมุติ อันมีที่มาจาก ความจริงสมมุติ นั่นแล โดยที่การ สมมุติ สิ่งต่างๆ ในที่นี้ ไม่เพียงแต่มันจะไหลไป-ไหลมาตาม กระแส ไปเป็นพักๆ เท่านั้น แต่มันยังสามารถอาศัย อุปกรณ์ และ เครื่องมือ ในการสร้างกระแส ชักนำกระแส ให้เป็นไปตามที่ใครก็แล้วแต่ปรารถนาและต้องการ ได้ซะอีกต่างหาก…
ด้วยเหตุนี้…ตราบใดที่เราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย ยังมิอาจเข้าถึง-เข้าใจต่อ ความดีแท้ อันตั้งอยู่บนรากฐาน ความจริงแท้ ที่ทำให้สามารถอยู่เหนือไปจาก ความดี-ความชั่ว ดังที่พวก พระๆ ท่านได้ชี้แนะ ชี้นำ เอาไว้ ยังหนีไม่พ้นต้องจมอยู่ใน โลกแห่งโลกียะ ไม่ใช่ โลกแห่งโลกุตระ โอกาสที่จะสับสน อลหม่าน มึนซ์ซ์ซ์ๆ งงง์ง์ง์ๆ ไปโดยตลอด ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ ดังนั้น…ภายใต้สภาพเช่นนี้ คงต้องพยายามหันไปฟังพระ หรือ อภิมหาพระ อย่าง ท่านพุทธทาส ที่ได้เตือนๆ ไว้ด้วยบทกลอนชิ้นหนึ่งเอาไว้นั่นแหละว่า “เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา-จงเลือกเอาส่วนที่ดีเขามีอยู่-เป็นประโยชน์โลกบ้างยิ่งน่าดู-ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย-จะหาคนมีดีโดยส่วนเดียว-อย่ามัวเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย-เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย-ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง” อันนี้นี่แหละ…ที่อาจพอช่วยให้หายมึน หายงงได้มั่ง แม้แต่เล็กๆ-น้อยๆ ก็ยังดี.