"ชัยชนะ"รมช.สาธารณสุขคนใหม่มั่นใจคุณสมบัติครบไร้คดีติดตัว
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่
ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารับตำแหน่งเป็นครั้งแรก โดยระบุว่ารู้สึก "ปกติดี" เนื่องจากมีประสบการณ์ในบทบาท สส. มาก่อน และเข้าใจบริบทการทำงานระดับรัฐบาลเป็นอย่างดี
นายชัยชนะเปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ค.) จะเข้ากระทรวงสาธารณสุขเพื่อหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ เรื่องการแบ่งงาน โดยมองว่าภารกิจของกระทรวงฯ ชัดเจนในการดูแลสุขภาพประชาชน ซึ่งจะเสริมด้วยนโยบายที่เชื่อมโยงกับ "ซอฟต์พาวเวอร์" ของประเทศ ตามแนวทางของนายกรัฐมนตรี โดยมีแผนการผลักดันที่สำคัญดังนี้:
ส่งเสริมแพทย์แผนไทย: ผลักดัน MOU ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อดำเนินโครงการ "1 ท้องถิ่น 1 ศูนย์ฝึกหมอนวดแผนไทย" รวมถึงการขึ้นทะเบียนหมอนวด เพื่อส่งเสริมการส่งออกแรงงานด้านแพทย์แผนไทย
บำบัดยาเสพติด: เร่งสร้างศูนย์บำบัดผู้เสพยาเสพติด โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กวาดล้างหมอเถื่อน: เน้นย้ำว่าจะต้องกำจัด "หมอเถื่อน หมอกระเป๋า" ให้หมดไปอย่างเด็ดขาด
เมื่อถูกสอบถามถึงประเด็นกัญชา นายชัยชนะยืนยันจุดยืนที่ชัดเจนว่าต้องแยกแยะระหว่างการใช้เพื่อการแพทย์ที่ถูกต้อง และการใช้ในทางที่ผิดซึ่งถือเป็นยาเสพติด พร้อมเตือนไม่ควรดึงประเด็นดังกล่าวไปเป็นเรื่องการเมือง
สำหรับความมั่นใจในคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ท่ามกลางกระแสข่าวคดีความที่ถูกหยิบยกขึ้นมา นายชัยชนะกล่าวว่า "มั่นใจเต็มที่ เพราะไม่มีคดีใดติดตัว" พร้อมย้ำว่าได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ และได้ถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว และพร้อมเดินหน้าทำงาน โดยให้กระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่ตามขั้นตอน
ส่วนกรณีที่ถูกถามว่าอาจกลายเป็น "รัฐมนตรีสายล่อฟ้า" ที่จะทำให้รัฐบาลถูกตรวจสอบ นายชัยชนะตอบว่า "คงไม่ใช่ผม ทุกอย่างที่พูดก็เป็นเพียงวาทกรรม แต่ผมจะพิสูจน์ด้วยการทำงาน" พร้อมระบุว่านโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในขณะนี้คือการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติด และต้องควบคุมหมอเถื่อนให้หมดไปด้วย
ในประเด็นการเมืองในอนาคตเกี่ยวกับข่าวที่ศาลรัฐธรรมนูญอาจวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และอาจมีการโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ ชั่วคราว นายชัยชนะตอบว่า "ไม่ทราบรายละเอียดข่าวดังกล่าว และไม่รู้ว่านายกฯ ชั่วคราวจะมาจากไหน" แต่ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า "พรรคประชาธิปัตย์ยังร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยอยู่ในขณะนี้"