“ทอท.” เตรียมปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสาร เพิ่มรายได้พัฒนา 6 สนามบิน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาศึกษาเรื่องการปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก(Passenger Service Charges : PSC) 6 ท่าอากาศยานของ ทอท. ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง(ทดม.), ท่าอากาศยานภูเก็ต(ทภก.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่(ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย(ทชร.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่(ทหญ.) โดยให้มีการเปรียบเทียบกับท่าอากาศยานของประเทศอื่นๆ อาทิ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และฮ่องกง ว่าจัดเก็บเท่าใด ซึ่งหากพบว่า 6 สนามบิน ทอท. ยังเก็บค่า PSC ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ก็ควรต้องปรับเพิ่ม ส่วนจะปรับขึ้นเท่าใดก็ต้องรอดูผลศึกษา
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะต้องศึกษาด้วยว่า การปรับเพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อปริมาณผู้โดยสาร โดยเฉพาะชาวต่างชาติลดลงหรือไม่ คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือนนี้ อย่างไรก็ตามการปรับเพิ่มค่า PSC จะทำให้ ทอท. มีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถนำรายได้ไปใช้ในการปรับปรุงพัฒนาท่าอากาศยานต่างๆ โดยเฉพาะการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้(South Terminal) ทสภ. ที่มีแผนเตรียมก่อสร้างในเร็วๆ นี้ เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารให้ได้เพิ่มมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทอท. เพิ่งจะมีการปรับขึ้นค่า PSC 6 ท่าอากาศยานเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งการปรับเพิ่มขึ้นอีก เพราะ ทอท. ไม่มีกระแสเงินสด(Cash Flow) ใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า การปรับเพิ่มขึ้นค่า PSC ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสภาพคล่องทางการเงินของ ทอท. แต่การเก็บเพื่อนำไปพัฒนาท่าอากาศยานถือเป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งการศึกษาครั้งนี้เพื่อให้การเก็บค่า PSC สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และอยู่ในอัตราที่ใกล้เคียงกับท่าอากาศยานอื่นๆ
ด้าน น.ส.ปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาการปรับเพิ่มค่า PSC เพื่อสร้างรายได้ให้ ทอท. ในการนำไปลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานให้เป็นศูนย์กลางทางการบิน(Aviation Hub) ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้การดำเนินการปรับขึ้นค่า PSC จะต้องศึกษารายละเอียดในหลายด้าน คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค.2568 จากนั้นจะเสนอสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) พิจารณาต่อไป โดย ทอท. คาดว่าจะสามารถดำเนินการปรับค่าPSC ภายในปี 2568
น.ส.ปวีณา กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน 6 ท่าอากาศยานของ ทอท. จัดเก็บค่า PSC ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 730 บาท และในประเทศ 130 บาท ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำเมื่อเทียบกับสนามบินชั้นนำอื่นๆ ทั่วโลก ส่งผลให้ ทอท. จัดเก็บได้ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงในการบริหารจัดการ และการลงทุนขนาดใหญ่ ปัจจุบัน ทอท. มีรายได้จากค่า PSC ประมาณ2 หมื่นล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตามเป้าหมายการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมไม่ได้เพื่อให้เทียบเท่ากับสนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ แต่เพื่อหาจุดที่เหมาะสมให้ ทอท. มีรายได้เพียงพอที่จะพัฒนาท่าอากาศยานให้เป็นฮับอย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานเสวนาหนึ่งว่า ประเทศไทยมีจุดได้เปรียบในการเป็นฮับการบินของภูมิภาค แต่กลับเรียกเก็บค่า PSC ต่ำกว่าประเทศสิงคโปร์ โดยเสนอว่า หาก ทอท. ปรับเพิ่มค่า PSC ขึ้นเพียง 100 บาท จะทำให้มีกำไรเพิ่มปีละกว่า 14,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำกำไรดังกล่าวมาพัฒนาท่าอากาศยานต่างๆ ได้.