โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568

efinanceThai

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -8 ส.ค. 68 8:34: น.

*** สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนก.ย. ปิดที่ 63.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.7%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนต.ค. ปิดที่ 66.43 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.7%

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นับเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน หลังรัสเซียแถลงว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะเข้าพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งเพิ่มความหวังว่าสงครามในยูเครนอาจจะยุติลงได้ด้วยวิธีทางการทูต

*** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่ายินดีที่จะพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แม้ผู้นำรัสเซียจะยังไม่ได้ตกลงที่จะเข้าหารือกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนก็ตาม ท่าทีดังกล่าวของทรัมป์ แสดงให้เห็นถึงความเต็มใจที่เพิ่มขึ้นในการตอบรับคำขอของรัสเซีย สำหรับการประชุมแบบตัวต่อตัว แต่ในขณะเดียวกัน ก็กล่าวว่าเขา ผิดหวังมาก กับพฤติกรรมของปูติน และเปิดช่องความเป็นไปได้ที่จะมีการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซียในกรณีสงครามยูเครน ซึ่งอาจเกิดขึ้นเร็วที่สุดในวันศุกร์นี้

*** มาตรการขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจากมากกว่า 90 ประเทศในอัตราสูงสุดถึง 35% ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อกดดันให้ชาติคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน บราซิล และอินเดีย มีผลบังคับใช้แล้วอย่างเป็นทางการในวานนี้ โดยมาตรการดังกล่าว เป็นสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ คาดหวังให้ประเทศเหล่านี้ เปลี่ยนนโยบายหรือเปิดตลาดให้กับสินค้าอเมริกันมากขึ้น ขณะที่บริษัทที่ประกาศลงทุนในสหรัฐฯ จะได้รับการยกเว้นภาษี ขณะเดียวกัน หลายประเทศ ยังคงเร่งเจรจาข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อให้ได้รับอัตราภาษีที่ผ่อนปรนมากขึ้น

*** ฮาวเวิร์ด ลุทนิค รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ คาดว่า จะสามารถจัดเก็บรายได้จากภาษีนำเข้าสูงถึง 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หลังมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากหลายสิบประเทศเริ่มมีผลบังคับใช้ โดยนอกจากสินค้าอุตสาหกรรมทั่วไปแล้ว ยังรวมถึงเซมิคอนดักเตอร์และสินค้าเภสัชภัณฑ์ด้วย ขณะที่ความเป็นไปได้ในการขยายเส้นตายเจรจาการค้ากับจีนซึ่งจะสิ้นสุด 12 ส.ค.นี้ ลุทนิคมองว่ามีโอกาสสูงที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะตกลงขยายเวลาอีก 90 วัน

*** อินเดีย กำลังพิจารณาทางเลือกเพื่อเสนอมาตรการผ่อนปรนทางการค้าให้กับสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีสินค้าจากอินเดียเพิ่มขึ้น 50% โดยอินเดียมองว่า ช่วงเวลา 21 วัน ก่อนที่ภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบ เป็นโอกาสในการเจรจาต่อรองกับรัฐบาลของทรัมป์ โดยในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่มีแผนที่จะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีเช่นกัน ซึ่งในการพิจารณาหาแนวทางรับมือ อินเดียให้ความสำคัญสูงสุดกับการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ โดยกำลังประเมินว่าควรจะเสนอการผ่อนปรนบางอย่าง โดยเฉพาะในภาคการเกษตรและผลิตภัณฑ์จากนม เพื่อตอบสนองความต้องการของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันก็ต้องพยายาม ลดผลกระทบ ต่อผู้ผลิตภายในประเทศให้ได้มากที่สุด

*** นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย หารือทางการค้ากับผู้นำบราซิล และคาดว่าจะมีกำหนดเดินทางเยือนจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีในเดือนส.ค. นี้ ท่ามกลางสถานการณ์ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ที่กำลังแย่ลง โดยรัฐบาลบราซิลระบุในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดี ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา และนายโมดี ได้หารือกันเกือบ 1 ชั่วโมง โดยพูดคุยเกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีฝ่ายเดียวต่อประเทศของตน และย้ำถึงแผนการที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

แม้จะไม่ได้ระบุชื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยตรง แต่รัฐบาลบราซิลก็กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ บราซิลและอินเดียเป็น 2 ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จากมาตรการภาษีที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้บังคับใช้

*** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า อาจประกาศเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมกับจีนที่คล้ายกับภาษี 25% ที่เคยประกาศกับอินเดียมาก่อนหน้านี้ จากกรณีที่จีนยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นมันอาจเกิดขึ้นได้ หลังจากที่คาดว่าจะประกาศมาตรการคว่ำบาตรขั้นทุติยภูมิ (secondary sanctions) เพิ่มเติม เพื่อกดดันรัสเซียให้ยุติสงครามในยูเครน

แม้ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ แต่กล่าวว่า มันอาจจะเกิดขึ้น ผมยังบอกไม่ได้ในตอนนี้ เราได้ทำไปแล้วกับอินเดีย และน่าจะทำกับอีก 2-3 ประเทศ หนึ่งในนั้นอาจจะเป็นจีน

*** คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กำลังกลายเป็นตัวเต็งอันดับต้น ๆ สำหรับตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ จากการพิจารณาของคณะที่ปรึกษาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำลังมองหาผู้ที่จะมาแทนที่เจอโรม พาวเวลล์ โดยที่ปรึกษาของทรัมป์ ประทับใจในตัววอลเลอร์เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความตั้งใจที่จะดำเนินนโยบาย โดยอิงจากการคาดการณ์ล่วงหน้า มากกว่าการพิจารณาจากข้อมูลปัจจุบันเพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในระบบการทำงานของเฟดโดยรวมอีกด้วย

*** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเลือก สตีเฟน มิแรน ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เขาอยู่กับผมมาตั้งแต่ต้นวาระที่ 2 และความเชี่ยวชาญในโลกเศรษฐศาสตร์ของเขานั้น หาตัวจับได้ยาก เขาจะทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม

ทรัมป์ระบุว่า มิแรนซึ่งต้องได้รับการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐฯ จะดำรงตำแหน่งในวาระที่กำลังจะหมดลงของอาเดรียนา คูเกลอร์ ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนม.ค. นี้เท่านั้น ในระหว่างนี้ เราจะยังคงสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้อย่างถาวรต่อไป

*** ธนาคารกลางอังกฤษลดดอกเบี้ยนโยบาย ลงเหลือ 4% ตามคาด หวังช่วยตลาดแรงงานที่กำลังอ่อนแอ แม้เศรษฐกิจหดตัวและเงินเฟ้อยังคงสูง ซึ่งส่งผลให้คณะกรรมการบางส่วน เกิดความวิตกกังวลและโหวตไม่เห็นด้วย และทำให้แนวโน้มลดดอกเบี้ยครั้งต่อไปยังไม่แน่นอน โดยนักลงทุนคาดว่า อาจปรับลดอีกครั้งในเดือนพ.ย. แต่คงปรับลดอีกไม่มาก

*** รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เรียวเซ อากาซาวะ หัวหน้าผู้เจรจาภาษีของญี่ปุ่น ได้เรียกร้องอย่างแข็งขันให้สหรัฐฯ ทบทวนคำสั่งของประธานาธิบดี เกี่ยวกับการเก็บภาษี ในการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ณ กรุงวอชิงตัน โดยญี่ปุ่นได้พยายามขอความชัดเจนมาโดยตลอด เนื่องจากขาดการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจากข้อตกลงที่ทำไว้กับสหรัฐฯเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้เกิดความสับสนว่าภาษีใหม่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดี จะถูกนำไปรวมกับภาษีเดิมที่มีอยู่แล้วหรือไม่

*** OpenAI เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นใหม่ ที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น ในชื่อ GPT-5 ซึ่งเป็นโมเดลที่หลายฝ่ายให้การรอคอยมาอย่างยาวนาน เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาด ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้น ทั้งจากคู่แข่งในสหรัฐฯ และจีน โดย GPT-5 ได้รับการออกแบบมาให้มีความสามารถในการเขียนโค้ด สร้างสรรค์งานเขียน และให้เหตุผลในการตอบคำถามที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งแซม อัลต์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ OpenAI เรียก GPT-5 ว่าเป็นการยกระดับครั้งใหญ่จากโมเดล AI รุ่นก่อน ๆ ของบริษัท และเป็นครั้งแรกที่การใช้งานโมเดลนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังคุยอยู่กับผู้เชี่ยวชาญในทุกหัวข้ออย่างแท้จริง

*** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Intel Corp. ลาออกทันที โดยอ้างเหตุผลเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งส่งผลกระทบซ้ำเติมบริษัทที่กำลังเผชิญปัญหาขาดทุนและพยายามหาทางสร้างความเกี่ยวข้องกับยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซีอีโอของ Intel มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์อย่างสูงและต้องลาออกทันที ไม่มีทางออกอื่นสำหรับปัญหานี้ ขอบคุณสำหรับความใส่ใจในปัญหานี้!

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้ให้หลักฐานหรือรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ลิป-บู ตัน ซีอีโอของ Intel อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนในด้านใดบ้าง

*** Firefly Aerospace ผู้ให้บริการด้านอวกาศ ได้รับการประเมินมูลค่าบริษัทที่ 9,840 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นถึง 55.6% ในการเข้าซื้อขายในตลาดแนสแดค ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงให้ความสนใจและทุ่มเงินลงทุนในบริษัทที่สนับสนุนการขยายโครงการด้านอวกาศและกลาโหมของสหรัฐฯ

ราคาหุ้นเปิดตัวที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น เมื่อเทียบกับราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 45 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ซึ่งถือเป็นการพลิกฟื้นที่น่าประทับใจ สำหรับบริษัทที่เคยประสบปัญหาในอดีต แต่ปัจจุบันกลับเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากธุรกิจสำรวจดวงจันทร์และโครงการด้านอวกาศทางทหารที่สร้างรายได้มหาศาล

*** บริษัท Tesla สั่งยุบทีมพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Dojo และปีเตอร์ แบนนอน หัวหน้าทีมจะลาออก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของความพยายามในการพัฒนาชิปภายในองค์กรสำหรับเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ และ อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้สั่งให้ยุติโครงการดังกล่าวแล้ว โดยเมื่อไม่นานมานี้ทีมได้สูญเสียพนักงานไปประมาณ 20 คนให้กับบริษัท DensityAI ที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ ส่วนพนักงาน Dojo ที่เหลือจะถูกย้ายไปประจำในโครงการศูนย์ข้อมูลและคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ภายใน Tesla

*** ข้อมูลจากศุลกากรจีนแสดงให้เห็นว่า การส่งออกแร่หายากจากจีนลดลง 23% ในเดือนก.ค. หลังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นนี้ ยังไม่สมบูรณ์พอที่จะสรุปได้อย่างชัดเจนว่า จีนมีความตั้งใจที่จะเร่งส่งออกหรือไม่ โดยจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตแร่หายากรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งออกแร่หายากไปทั้งสิ้น 5,994.3 ตัน ลดลง 23% จากเดือนมิ.ย. ที่มียอดส่งออกสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014

ยอดการส่งออกแร่หายากของจีน กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ตกลงทำข้อตกลงหลายฉบับกับสหรัฐฯ และยุโรป เพื่อเพิ่มปริมาณการส่งออกและผ่อนปรนระบบใบอนุญาตส่งออกที่บังคับใช้เมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ

รายงาน โดย สิริพงศ์ สิริชุมศรี เรียบเรียง โดย Supak Hopuengju
อีเมล์. supak@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก efinanceThai

หุ้น Eli Liliy ปิดร่วงกว่า 14% ผิดหวังผลการทดลองยาลดน้ำหนัก แม้ผลประกอบการดีเกินคาด

54 นาทีที่แล้ว

สรุปหุ้นเด่นทางพื้นฐาน (08/08/68)

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

ซีอีโอ OpenAI เปรียบ GPT-5 ‘ฉลาด’ เหมือนนักวิชาการปริญญาเอก

กรุงเทพธุรกิจ

Vitalik หนุนกระแส Ether Treasury แต่เตือนอย่าให้กลายเป็นเกมเลเวอเรจเกินตัว

ทันหุ้น

10 เด้งในปีเดียว! Palantir (PLTR) ทำสถิติใหม่รายได้ $1,000 ล้าน หุ้นพุ่ง 1,000%

Finnomena

PANEL กำไร Q2/68 ที่ 4.41 ลบ. พุ่ง 100.45% รับผลดีงานรับเหมา-ตกแต่งโดดเด่น

ทันหุ้น

หุ้น Eli Liliy ปิดร่วงกว่า 14% ผิดหวังผลการทดลองยาลดน้ำหนัก แม้ผลประกอบการดีเกินคาด

efinanceThai

OpenAI เปิดตัว ChatGPT-5 สู่ตลาด ฉลาดระดับ ‘ดอกเตอร์’

Finnomena

“สหรัฐ” ยินดี! “ไทย-กัมพูชา” บรรลุข้อตกลงหยุดยิง ชี้เป็นก้าวสำคัญสันติภาพ

ข่าวหุ้นธุรกิจ

‘อโกด้า’ เผย ‘กรุงเทพฯ’ ครองแชมป์ ‘เมืองท่องเที่ยว’ ยอดนิยมของเอเชีย 2 ปีซ้อน

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

เปิดสูตรความสำเร็จ THE KLINIQUE ธุรกิจความงามบนเวทีตลาดหุ้น

efinanceThai

จับตา IPO ครึ่งหลังปี 68 คึกคัก 11 หุ้นใหม่จ่อเข้าเทรด ขยับพอร์ตนักลงทุน

efinanceThai

หุ้น Kadokawa น่าลงทุนไหม หลัง FromSoftware โตไม่หยุด!

efinanceThai
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...