ราคาทองคำโลกร่วง หลังสหรัฐ-อียูใกล้บรรลุข้อตกลงภาษีนำเข้า 15%
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่องในวันพุธ (23 ก.ค.) หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐ และสหภาพยุโรปใกล้บรรลุข้อตกลงภาษีนำเข้า 15% ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง ขณะที่ราคาโลหะเงินพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2554
ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ร่วงลง 1.1% สู่ระดับ 3,394.64 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ เวลา 14:33 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (18:33 GMT) หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายนในช่วงเช้า
ราคาทองคำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) ปิดตลาดร่วงลง 1.3% สู่ระดับ 3,397.60 ดอลลาร์สหรัฐ
อัปเดตราคาเช้านี้ (24 ก.ค.)
บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาทองคำแท่งซื้อขายใกล้ระดับ 3,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากร่วงลง 1.3% ในการซื้อขายก่อนหน้า
ราคาทองคำตลาดสปอตเพิ่มขึ้น 0.1% อยู่ที่ 3,389.77 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 8:24 น. ตามเวลาสิงคโปร์ ดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index ทรงตัว แม้ว่าดัชนีจะลดลงมากกว่า 1% ในสัปดาห์นี้ ราคาแพลทินัมปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาแพลเลเดียมปรับตัวลดลง
“ดังที่เราเห็นข้อตกลงการค้าสหรัฐกับญี่ปุ่น และกำลังพิจารณาข้อตกลงกับสหภาพยุโรปด้วย ท้ายที่สุดแล้ว หมายความว่าจะไม่มีการเก็บภาษีตอบโต้ที่รุนแรงจากสหภาพยุโรป ซึ่งสนับสนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง…ตลาดหุ้นกำลังไปได้ค่อนข้างดี” บาร์ต เมเลก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ TD Securities กล่าวกับรอยเตอร์
นักการทูตสองคนกล่าวเมื่อวันพุธว่า สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกากำลังใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าที่จะกำหนดภาษีศุลกากร 15% สำหรับสินค้าจากสหภาพยุโรปที่นำเข้ามายังสหรัฐอเมริกา
เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่นในวันเดียวกันเพื่อลดภาษีนำเข้ารถยนต์ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีถึงความคืบหน้าในการเจรจาด้านภาษีในวงกว้างในหลายประเด็น
ทองคำแท่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีในช่วงที่มีความไม่แน่นอนและในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากต้นทุนค่าเสียโอกาสของการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยลดลง
ตลาดไม่ได้คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม แต่ความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ ดูเหมือนจะถูกคุกคามจากการแทรกแซงทางการเมืองที่เพิ่มมากขึ้น จากผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่สำนักข่าวรอยเตอร์จัดทำ
ในบรรดาโลหะอื่นๆ ราคาโลหะเงินตลาดสปอตลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 39.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีในช่วงต้นการซื้อขาย
“การพุ่งขึ้นของราคาเงินเมื่อเร็วๆ นี้เป็นผลมาจากความต้องการที่แข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรม ภาวะขาดแคลนอุปทานอย่างต่อเนื่อง และความสนใจของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น” อเล็กซานเดอร์ ซัมเฟ เทรดเดอร์โลหะมีค่าจาก Heraeus Metals Germany กล่าว
“การทะลุ 40 ดอลลาร์อย่างเด็ดขาดอาจมาจากการทะลุกรอบราคาทองคำอีกครั้ง การอ่อนค่าลงอีกครั้งของดอลลาร์สหรัฐ หรือสัญญาณของภาวะตึงตัวของอุปทานที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากราคาโลหะมีค่าในตลาดสำคัญๆ ในเอเชียเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง” เขากล่าวเสริม
ราคาแพลทินัมลดลง 2.1% มาอยู่ที่ 1,411.63 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมลดลง 0.2% มาอยู่ที่ 1,271.98 ดอลลาร์