ดอลลาร์ทรุด ท่ามกลางสงครามการค้า และความขัดแย้งของทำเนียบขาวกับเฟด
ดอลลาร์ทรุดท่ามกลางสงครามการค้า และความขัดแย้งของทำเนียบขาวกับเฟด หลังสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ จี้เฟดผ่อนคลายนโยบายการเงิน เหตุเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ เหน็บเฟดยังคงติดอยู่ในกรอบความคิดแบบเดิม ๆ
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (22/7) ที่ระดับ 32.26/28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (21/7) ที่ระดับ 32.35/37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ภาพรวมเงินดอลลาร์มีท่าทีอ่อนค่าลงหลังจากที่นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวในวันจันทร์ (21/7) ว่า การบังคับใช้ภาษีศุกากรในอัตราสูงต่อประเทศต่าง ๆ ในวันที่ 1 ส.ค. จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้ประเทศเหล่านั้นต้องนำเสนอข้อตกลงที่ดีกว่าแก่สหรัฐ
ถ้อยแถลงของนายเบสเซนต์บ่งชี้ว่า ภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วางแผนเรียกเก็บจากประเทศคู่ค้า ซึ่งได้เลื่อนการบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 1 ส.ค. ไม่ได้เป็นเพียงเส้นตายสำหรับการทำข้อตกลงเท่านั้น แต่เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการเจรจาเพื่อบีบบังคับให้ประเทศคู่ค้ายอมรับเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐ
จี้เฟดผ่อนคลายนโยบายการเงิน
นอกจากนี้ยังมีสัญญาณบ่งชี้ว่า นายเบสเซนต์มองว่าการเรียกเก็บภาษีในวันที่ 1 ส.ค. แม้จะเริ่มบังคับใช้แล้ว ก็ยังเป็นเพียงเครื่องมือต่อรองทางการค้า เพราะเขากล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับคุณภาพของข้อตกลงทางการค้ามากกว่าการต้องบรรลุข้อตกลงให้ทันก่อนวันที่ 1 ส.ค.
นอกจากนี้ นายเบสเซนต์กล่าวว่า ควรมีการทบทวนบทบาทของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยไม่จำกัดเฉพาะโครงการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ของเฟด แต่ควรพิจารณาภาพรวมของบทบาทและหน้าที่ทั้งหมดของเฟด ถ้อยแถลงของนายเบสเซนต์มีขึ้น ท่ามกลางความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างทำเนียบขาวและเฟดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ในประเด็นนี้นายเบสเซนต์สนับสนุนแนวคิดที่ว่าเฟดควรจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำพร้อมทั้งกล่าวเสริมว่า “พวกเขา (เฟด) เคยสร้างความหวาดกลัวเกี่ยวกับผลกระทบจากภาษีศุลกากร แต่จนถึงขณะนี้ เรายังแทบไม่เห็นเงินเฟ้อเลย ตัวเลขเงินเฟ้อของเราดีมาก เฟดยังคงติดอยู่ในกรอบความคิดแบบเดิม ๆ”
แต่งตั้งผู้ว่าฯแบงก์ชาติคนใหม่
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้ง นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่างลงเนื่องจากนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ จะครบวาระการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 30 ก.ย. 68 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 68 เป็นต้นไป
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ระบุว่า รมว.คลังได้พิจารณาเสนอแต่งตั้งนายวิทัย เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านการเงินธนาคาร และมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมาย ประกอบกับคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบหรืออนุมัติ
ดังนั้ง จึงเห็นควรเห็นชอบตามที่ รมว.คลังเสนอ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ และหากไม่มีข้อทักท้วงหรือไม่มีความเห็นเป็นอย่างอื่น ให้ถือเป็นมติคณะรัฐมนตรีตามที่เสนอ จากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.23-32.33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ 32.30/31 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
EU และ US ยังเดินหน้าเจรจาการค้า
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (22/7) ที่ระดับ 1.1686/88 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (22/7) ที่ระดับ 1.1639/40 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผู้แทนของ EU และ US ยังคงเดินหน้าเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงท่ามกลางการค้า แต่ความหวังในการบรรลุผลลัพธ์เชิงบวกเริ่มลดน้อยลงเรื่อย ๆ
ความเห็นล่าสุดจากฝั่งยุโรปสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงในกระบวนการเจรจา และสหภาพยุโรปกำลังพิจารณามาตรการตอบโต้ โดยบางประเทศกำลังพิจารณามาตรการต่อต้านที่จะมุ่งเป้าไปยังภาคบริการของสหรัฐ เพื่อตอบโต้ภาษีจำนวนมากที่ประกาศโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1680-1.1703 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1699/00 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (22/7) ที่ระดับ 147.52/54 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (21/7) ที่ระดับ 147.88/90 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายเรียวเซ อากาซาวะ เดินทางเยือนสหรัฐ เพื่อเข้าร่วมการเจรจาแบบพบหน้ารอบที่ 8 กับคณะรัฐมนตรีของสหรัฐ โดยออกเดินทางจากญี่ปุ่นเพียงหนึ่งวันหลังผลการเลือกตั้งระดับชาติที่พรรคร่วมรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ สูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูง
นายอากาซาวะ หัวหน้าคณะเจรจาการค้าของญี่ปุ่นกล่าวว่า ระหว่างการเดินทางเยือนครั้งนี้ ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดภายในวันพุธ (23/7) เขาจะพยายามหาทางพบปะกับสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง, โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) หากตารางเวลาของแต่ละฝ่ายเอื้ออำนวย
ทั้งนี้หากญี่ปุ่นไม่สามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าวได้ทันเวลา สินค้าญี่ปุ่นจะถูกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในอัตรา 25% ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้อัตราภาษีดังกล่าวจะซ้อนทับกับภาษีนำเข้าสินค้ารถยนต์และสินค้าอื่น ๆ ในหลายภาคส่วนที่ทรัมป์ได้เรียกเก็บแล้วเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งสหรัฐให้เหตุผลว่าเพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศ
ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 147.24-147.94เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ 147.52/53 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับปัจจัยที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ สุนทรพจน์ของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (22/7), ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐเดือน มิ.ย. (23/7) สินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐ (23/7),การตัดสินใจดอกเบี้ยของธนาคารกลาง BOE เดือน ก.ค.ของยูโรโซน (24/7), จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (24/7), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและบริการเดือน ก.ค.ของสหรัฐ (24/7), ยอดขายบ้านใหม่เดือน มิ.ย.ของสหรัฐ (24/7), ยอดขายสินค้าคงทนของสหรัฐ (25/7)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -7.8/-7.6 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -6.8/-6.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ดอลลาร์ทรุด ท่ามกลางสงครามการค้า และความขัดแย้งของทำเนียบขาวกับเฟด
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net