กสทช. สั่งค่ายมือถือจัด “แพ็กเกจธงฟ้า” ราคาไม่เกิน 240 บาท/เดือน
วันนี้ (16 ก.ค. 68) นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ คณะกรรมการฯ กสทช. ได้มีการประชุม กสทช. ครั้งที่ 20/2568
โดยระเบียบวาระเข้าสู่ที่ประชุม กสทช. จำนวนทั้งสิ้น 86 วาระ ผ่านการพิจารณาทั้งสิ้น 25 วาระ ได้แก่ วาระที่เกี่ยวกับการอนุญาตประกอบกิจการ การกำกับดูแลผู้รับใบอนุญาต ข้อร้องเรียน รวมทั้งการดำเนินคดีต่างๆ ที่มีผู้ฟ้องร้องตามกระบวนการ
ทั้งนี้ มีวาระที่น่าสนใจ คือ วาระที่ 4.44 เรื่อง แนวทางการกำหนดและกำกับดูแลโครงสร้างอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศ สำหรับการดำเนินการตามประกาศ กสทช. เรื่อง การกำหนดและกำกับดูแลอัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศในส่วนที่เกินกว่าสิทธิการใช้งานของรายการส่งเสริมการขายหลัก
และจัดทำร่างประกาศ กสทช. ฉบับใหม่ โดยเสนอ กสทช. เพื่อหาแนวทางกำกับดูแลค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้สอดคล้องกับสภาพตลาด การแข่งขัน และต้นทุนที่มีการเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งเป็นการดูแลผู้บริโภคให้มีทางเลือกในการใช้งาน
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า สาระสำคัญของการพิจารณาวันนี้ เป็นการหาแนวทางปรับปรุงการกำกับดูแลอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งได้บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2563 ให้สะท้อนสถานการณ์ปัจจุบันที่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
โดยได้มีการเสนอให้ปรับปรุงอัตราค่าบริการสำหรับรายการส่งเสริมการขายหลักขั้นเริ่มต้น หรือ แพ็กเกจธงฟ้า ที่เดิมกำหนดให้ไม่เกิน 240 บาทต่อเดือน ให้มีราคาถูกลงโดยกำหนดสิทธิการใช้งานให้สอดคล้องกับการใช้งานในปัจจุบัน ซึ่งรวมเฉพาะบริการเสียงและอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่เท่านั้น ไม่รวมบริการ SMS และ MMS
สำหรับการกำหนดค่าบริการใหม่ที่ปรับลดลงนั้น มาจากการนำรายรับเฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือนจากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ได้รับจากผู้ใช้บริการรายเดือนและเติมเงินมาคำนวณ กล่าวคือ ผู้ใช้บริการจะได้ค่าใช้บริการที่ถูกลงสำหรับบริการพื้นฐานที่จำเป็นคือ การโทร และการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเคลื่อนที่ ซึ่งเข้ามาทดแทนพฤติกรรมการใช้งาน SMS และ MMS ได้
นอกจากนี้ สำนักงาน กสทช. ได้เสนอแนวทางให้ผู้ให้บริการมีรายการส่งเสริมการขายหลักขั้นเริ่มต้น หรือ แพ็กเกจธงฟ้าอย่างน้อย 2 ประเภท ได้แก่ บริการแบบจ่ายตามการใช้งาน (Pay Per Use) และบริการแบบเหมาจ่าย (Flat Rate) ซึ่งสำนักงาน กสทช. มีความเชื่อว่าการทบทวนโครงสร้างอัตราค่าบริการโทรศัพท์มือถือในครั้งนี้ และการนำเสนอแนวทางนี้ จะเป็นการส่งเสริมให้การให้บริการของโทรคมนาคมเกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม คงไว้ซึ่งประสิทธิภาพ และเป็นเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภคอย่างแท้จริง
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า การทบทวนโครงสร้างอัตราค่าบริการโทรศัพท์มือถือในครั้งนี้ ดำเนินการโดยได้คำนึงถึงต้นทุนที่แท้จริงของผู้ให้บริการ และประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ เพิ่มความโปร่งใสในการกำหนดราคาและเสนอขายแพ็กเกจสำหรับผู้ใช้บริการที่มีความหลากหลาย ภายใต้การแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงของตลาดเทคโนโลยี
ทั้งนี้ การทบทวนในครั้งนี้ยังครอบคลุมถึงการกำหนดอัตราค่าบริการตามสิทธิการใช้งานตามแพ็กเกจ และอัตราค่าบริการส่วนเกินที่ผู้ใช้บริการต้องจ่ายเมื่อใช้เกินสิทธิจากแพ็กเกจ นอกเหนือจากการที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีคลื่นความถี่ทุกรายต้องมีแพ็กเกจที่ส่งเสริมการเข้าถึงบริการ เหมือนสินค้าธงฟ้าที่เป็นทางเลือกที่ประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ใช้บริการ
“โดยขั้นตอนหลังจากนี้ สำนักงาน กสทช. จะเร่งดำเนินการยกร่างประกาศ กสทช. ตามแนวทางที่ กสทช. เห็นชอบเพื่อเสนอตามขั้นตอนต่อไป” นายไตรรัตน์ กล่าว