ทช. เร่งฟื้นฟูถนน-บ้านเรือน หลังน้ำท่วมเหนือเริ่มคลี่คลาย
วันนี้ (28 ก.ค. 68) นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบทได้ โดยสำนักงานทางหลวงชนบท (สทช.) และแขวงทางหลวงชนบท (ขทช.) ได้นำรถฉีดน้ำเร่งฟื้นฟูทำความสะอาดถนนและบ้านเรือนประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหลังน้ำเริ่มลดในบางพื้นที่ พร้อมนำรถใหญ่เข้าช่วยเหลือในการลำเลียงยานพาหนะขนาดเล็กในเส้นทางที่ยังมีน้ำท่วมสูง
ขณะนี้หน่วยงานในสังกัดได้ปฏิบัติการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน อย่างต่อเนื่อง อาทิ ขทช.แพร่ ได้สนับสนุนรถบรรทุกน้ำและกำลังคน เพื่อล้างทำความสะอาดบ้านเรือนของประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเขตชุมชนเชตวันและเขตพื้นที่อำเภอเมืองแพร่ , ขทช.น่าน ได้นำรถบรรทุกน้ำสนับสนุนน้ำสะอาดให้แก่มูลนิธิเพชรเกษม เพื่อใช้ในกิจกรรมของการจัดตั้งโรงทานเพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งติดอยู่ในที่พักอาศัยในเขตน้ำท่วม นอกจากนี้ ขทช.น่าน ยังได้นำรถบรรทุกน้ำและกำลังคน เข้าฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน ในเขตตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน รวมไปถึงการจัดรถบรรทุกขนาดใหญ่เพื่อลำเลียงยานพาหนะขนาดเล็กขึ้นรถสไลด์ เพื่อให้สามารถสัญจรผ่านจุดน้ำท่วมที่มีระดับน้ำสูงอีกด้วย
ทั้งนี้กันสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้กำชับสำนักงานทางหลวงชนบท (สทช.) และแขวงทางหลวงชนบท (ขทช.) ในพื้นที่กำลังประสบเหตุน้ำท่วมต่อเนื่องติดดตามสถานกาณ์และเตรียมรับมือ
นายมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์อุทกภัยในขณะนี้ สำนักบำรุงทาง รายงานว่า ณ วันที่ 28 ก.ค. 68 เวลา 09.30 น. ได้รับผลกระทบรวม 7 จังหวัด ประกอบด้วย พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ สุโขทัย ตาก อุบลราชธานี รวม 31 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 21 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 10 สายทาง ซึ่งสายทางที่ไม่สามารถสัญจรผ่านได้มีดังนี้
1. ถนนทางหลวงชนบทสาย ชร.4008 แยก ทล.1020 (กม.ที่ 87+200) – บ้านศรีสะอาด อำเภอขุนตาล, พญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย (ช่วง กม.ที่ 4+100 – 4+500)
2. ถนนทางหลวงชนบทสาย พย.4029 แยก ทล.1148 (กม.ที่ 95+225) – โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้า อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 8+900 – 9+000 , ช่วง กม.ที่ 10+850 – 10+950 , ช่วงกม.ที่ 11+700 – 11+900 และ ช่วง กม.ที่ 12+900 – 13+000)
3. ถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4008 แยก ทล.1124 (กม.ที่ 19+000) – บ้านวังแฟน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 16+750 – 16+810)
4. สะพานข้ามแม่น้ำยม (สาย พร.001) อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ (ช่วง กม.ที่ 0+485 – 1+185)
5. ถนนเชิงลาดสะพานข้ามแม่น้ำยม (สาย พย.002) อำเภอปง จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+100)
6. ถนนเชิงลาดสะพานข้ามแม่น้ำยม (สาย พย.003) อำเภอปง จังหวัดพะเยา (ช่วง กม.ที่ 0+100 – 0+300)
7. ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3002 แยก ทล.105 (กม.ที่ 4+000) – บ้านวังแก้ว อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 11+950 – 12+000 , ช่วง กม.ที่ 12+100 – 12+150 และ ช่วง กม.ที่ 16+500 – 16+550)
8. ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.3006 แยก ทล.104 (กม.ที่ 9+025) – บ้านวังผา อำเภอแม่สอด, แม่ระมาด จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 7+290 – 7+300)
9. ถนนทางหลวงชนบทสาย สท.4010 แยก ทล.1177 (กม.ที่ 13+300) – บ้านห้วยไม้ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย (ช่วง กม.ที่ 15+800 – 16+100, ช่วง กม.ที่ 17+300 – 17+450 และ ช่วง กม.ที่ 18+150 – 18+265)
10. ถนนเชิงลาดสะพานรักษ์ลำน้ำยม (สาย สท.011) อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย (ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+100)
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ขอความร่วมมือประชาชน โปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษและโปรดสังเกตป้ายจราจรเตือน ป้ายบอกทาง ป้ายบอกระดับน้ำ ซึ่ง ทช. ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยบนถนนทางหลวงชนบทได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146