‘โรม’ หาก ‘นายกฯ’ รอดคดีคลิปเสียง เตรียมหารือ ‘ภูมิใจไทย’ ชงอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี การติดตาม การอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ปมคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สนทนากับ สมเด็จฯ ฮุน เซน ในวันพรุ่งนี้ ว่า ยอมรับตรงไปตรงมา ผลคำวินิจฉัยจะส่งผลทางการเมืองอยู่มาก ในฐานะที่เป็นนักการเมืองฝ่ายค้าน จะติดตามอย่างใกล้ชิด และได้มีการพูดคุยกับ สส. ของพรรค ว่า เรื่องนี้ติดตามและเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเพิกเฉยได้เพราะอาจจะส่งผลทางการเมืองมากอย่างแน่นอน
ส่วนพรรคฝ่ายค้านจะมีการวางแผนเตรียมการเปิดอภิปรายรัฐบาล หลังมีคำวินิจฉัยหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งในกรณีที่สถานการณ์ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ การตรวจสอบของฝ่ายค้าน ก็ต้องเดินหน้าต่อไป ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถึงแนวทางในการสอบและการใช้มาตรการที่สำคัญ เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 แต่มีเหตุแทรกแซงกรณีของศาลรัฐธรรมนูญเข้ามา พรรคฝ่ายค้านจึงต้องพิจารณาใคร่ครวญ เพราะใช้ได้เพียงปีละครั้งจึงต้องพิจารณาในจุดนี้ และย้ำว่าหากเข้าสู่ภาวะปกติและมีคำตัดสินของศาลให้นายกรัฐมนตรีรอด พรรคประชาชนก็จะพูดคุยกับภูมิใจไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ อย่างเป็นกิจจะลักษณะว่าจะมีการดำเนินการเมื่อไหร่
“หากเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝัน ก็คงต้องรอดูว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แต่พรรคประชาชนเคยเสนอไปก่อนหน้านี้ว่า ไม่อยากให้ประเทศไทยถึงทางตัน และไม่ควรมีใครพาไปถึงจุดนั้น พรรคประชาชน ขอย้ำเหมือนเดิมว่า มีข้อตกลงและมีการเสนอรูปแบบไปแล้ว ว่า ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลอย่างแน่นอน พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และไม่เกิดทางตัน”
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนตัวขอย้ำว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ คือการคืนอำนาจให้กับประชาชน และไม่ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องยอมรับว่าจะมีข้อครหาจากประชาชน ดังนั้นการเลือกตั้งใหม่ คือทางออกที่ดีที่สุด แต่ทางพรรคประชาชนก็ไม่สามารถที่จะไปกำหนดทุกอย่างได้.