เดวา แลนด์แปรวิกฤติดึงแลนด์ลอร์ดร่วมทุนลุยพูลวิลล่าใจกลางกรุง
เมื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแต่ “ทรง" กับ "ทรุด” ไร้แววฟื้นตัวอย่างชัดเจน นักพัฒนาส่วนใหญ่เลือกที่จะ “หยุด” รอดูสถานการณ์ แต่สำหรับ “เลิศมงคล วราเวณุชย์” ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท เดวา แลนด์ จำกัด อดีตนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ นนทบุรี และอุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย มองเห็น “โอกาสซ่อนอยู่ในวิกฤติ”
ในจังหวะที่คนอื่นถอย นักลงทุนลังเล แต่เขาเลือกเดินหน้าผนึกกำลังกับแลนด์ลอร์ด ปั้นแบรนด์บ้านเดี่ยวพูลวิลล่าหรู “แคนวาส” (CANVAS) เปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 500 ล้านบาท บนไพร์มแอเรียของกรุงเทพฯ ระดับราคา 25-45 ล้านบาท เจาะกลุ่มผู้ซื้อที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจน้อย เช่น เจ้าของกิจการรุ่น 2 แพทย์ นักลงทุนรายใหญ่
เลิศมงคล กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 นี้ ยังไม่เห็นสัญญาณบวก! หากจะมีข่าวดีบ้าง ก็เป็นเพียงการที่สหรัฐ ภายใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลดภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยลงจาก 36% เหลือ 19% มีผลเมื่อ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา
“ข่าวดีนี้แม้จะไม่ได้ส่งผลตรงต่ออสังหาริมทรัพย์ แต่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการว่า ฐานการผลิตจากจีนและญี่ปุ่นยังไม่น่าจะย้ายไปเวียดนามในระยะสั้น เพราะเวียดนามถูกเก็บภาษีที่ 20% สูงกว่าไทย แต่ก็ต้องยอมรับว่า หาก GDP ไม่โต ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยก็ไม่มีวันโตตามได้ เหมือนกับเรือที่ไม่สามารถลอยได้ หากคลองไร้น้ำ”
“ภาษีที่ดิน” จุดเปลี่ยนแลนด์ลอร์ดสู่ผู้พัฒนา
แม้ยอดขายรวมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปี 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 60,000 ยูนิต สูงกว่าช่วงวิกฤติปี 2541-2543 ที่ขายได้เพียง 33,000-34,000 ยูนิตต่อปี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะอยู่รอดได้ โดยเฉพาะกลุ่ม “แลนด์ลอร์ด” เจ้าของที่ดินรายใหญ่ ที่ถูกผลักภาระจาก พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2567 อย่างเต็มรูปแบบ
พวกเขาจึงต้องรีบหาทาง “ปลดล็อก” ภาระดอกเบี้ยและภาษี ด้วยการร่วมมือกับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ และนี่คือจุดที่แบรนด์ “แคนวาส” ได้ถือกำเนิดขึ้น! ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 20 ล้านบาท
ทางรอดร่วมทุนพัฒนาโครงการ
บริษัท เดวา แลนด์ จำกัด เปิดตัวโครงการแรกภายใต้แบรนด์แคนวาส บนที่ดินมูลค่าสูง 3 ทำเลใจกลางเมือง! จับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ โครงการแรก แคนวาส พระราม 9 ร่วมทุนกับตระกูล “เลาหพันธุ์” บนที่ดิน 1 ไร่ (พระราม 9 ซอย 59) เป็นบ้านเดี่ยวพูลวิลล่า 8 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 366 ตารางเมตร ราคา 24.9-34.9 ล้านบาท พร้อมลิฟต์, 3 ที่จอดรถ, Rooftop Garden เปิดพรีเซล 1 ก.ย.2568 เฟส 1 และ เฟส 2 สร้างเสร็จกลางปี 2569 มูลค่าโครงการ 220 ล้านบาท
โครงการสอง แคนวาส อารีย์ ร่วมทุนกับตระกูล “นาคะเกศ” บนที่ดิน 178 ตารางวา เป็นบ้านเดี่ยวพูลวิลล่าสั่งสร้าง 4 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 350-450 ตารางเมตร ราคา 35-45 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 160 ล้านบาท และ โครงการสาม แคนวาส ปุณณวิถี (สุขุมวิท 101) ร่วมทุนกับตระกูล “เจริญพานิช” บนที่ดิน 215 ตารางวา เป็นบ้านเดี่ยวพูลวิลล่าสั่งสร้าง 4 ยูนิต ขนาด 35-55 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 350-450 ตารางเมตร ราคา 35-45 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท
ต้นทุนต่ำจากมรดกสู่ราคาขาย“แข่งขันได้”
“แคนวาส” มีแต้มต่อในตลาดไฮเอนด์ ไม่ใช่แค่ “ทำเล” หรือ “ดีไซน์” แต่คือ “ต้นทุนที่ดิน” ที่ต่ำกว่าคู่แข่งในย่านเดียวกันถึง 30% เพราะเป็นที่ดินเก่ามรดก ที่ถือครองต่อกันมานาน 50-60 ปี
เลิศมงคล เลือกพัฒนาบ้านเดี่ยวหรูจำนวนจำกัด พร้อมการดูแลแบบ “End-to-End” ตั้งแต่คัดเลือกที่ดิน ออกแบบบ้าน บริหารก่อสร้าง ไปจนถึงบริการหลังการขาย
“จุดแข็งของแคนวาส คือต้นทุนที่ดินต่ำกว่าตลาดเฉลี่ย 30% เพราะเป็นที่ดินมรดก เป็น Rare Location ใจกลางเมืองที่หาซื้อเพิ่มไม่ได้อีกแล้ว ในราคาตารางวาละ 150,000-500,000 บาท เป็นบ้านที่อยู่จริงได้ด้วยพื้นที่ ฟังก์ชัน และความเป็นส่วนตัว”
ท่ามกลางความกลัวคือโอกาสของคนกล้า
แม้ภาวะตลาดจะไม่สดใส แต่ลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่ครองกำลังซื้อสูง ยังมองหาบ้านที่มีความแตกต่าง โดยเฉพาะ “บ้านเดี่ยวพูลวิลล่า” ในเมือง ที่หายากขึ้นทุกวัน แคนวาส จึงไม่ใช่แค่การพัฒนาโครงการอีกหนึ่งแห่งในกรุงเทพฯ แต่คือการนำโมเดลธุรกิจใหม่ที่จับคู่ “แลนด์ลอร์ด” กับ “มืออาชีพ” มาเปิดตลาด และนี่อาจเป็น “ทางรอด” สำหรับเจ้าของที่ดินอีกนับร้อยแปลงในเมืองใหญ่
อสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่ธุรกิจของคนใจร้อน และยิ่งไม่ใช่ของคนตามกระแส หากแต่เป็นธุรกิจของคนที่ “เข้าใจเกม เข้าใจทุน เข้าใจจังหวะ” และ เลิศมงคล เลือกที่จะ “ลงมือทำ” ในเวลาที่คนอื่น “ลังเล” ทั้งกล้าที่จะสร้างแพลตฟอร์มใหม่ตอบโจทย์ทั้งเจ้าของที่ดิน และผู้ซื้อคุณภาพ
อสังหาริมทรัพย์ไม่เคยตาย! ถ้าเรามีที่ดินดี ต้นทุนดี และทำให้ “ใช่” สำหรับคนที่พร้อมซื้อจริง