ด๋าลี่ ฟู้ดส์ยักษ์อาหารจีนปักหมุดไทยรุกอุตสาหกรรมในเอส อ่างทอง
ในโลกของการลงทุน คำว่า "ศักยภาพ" ไม่ใช่เพียงเรื่องของตัวเลขบนกระดาษ หรือความสวยงามของพรีเซนเทชัน แต่มันสะท้อนจาก "การตัดสินใจ" ของผู้เล่นระดับโลกและนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อบริษัทระดับโลกอย่าง ด๋าลี่ ฟู้ดส์ จากประเทศจีน ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารมากว่า 3 ทศวรรษ เลือกปักหมุดในนิคมอุตสาหกรรม “เอส อ่างทอง” ที่พัฒนาโดย สิงห์ เอสเตท
ดีลซื้อขายที่ดินขนาด 75 ไร่ครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การขายที่ดิน แต่คือการ ส่งสัญญาณว่า "อนาคตของอุตสาหกรรมไทย" กำลังเปลี่ยนไป
จาก “พื้นที่” สู่ “ระบบนิเวศ”
ชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ซีอีโอของสิงห์ เอสเตท อธิบายชัดเจนว่า โครงการ เอส อ่างทอง ไม่ใช่แค่นิคมอุตสาหกรรมทั่วไป แต่คือการสร้างต้นแบบของ “นิคมเชิงนิเวศ” ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน
พื้นที่ 75 ไร่นี้จึงมีความหมายมากกว่าแค่ "ที่ดินเปล่า" เพราะมันถูกออกแบบมาพร้อมกับ
- ระบบไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) ขนาด 403 เมกะวัตต์
- ระบบน้ำสำหรับอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี Ultra Filtration
- โครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ
- และเหนือสิ่งอื่นใดคือ "แนวคิด" ที่เน้นการเติบโตแบบ Green Industry
“เราไม่ได้พัฒนาแค่นิคม แต่เราสร้างระบบนิเวศแห่งการลงทุน ที่ผู้ประกอบการสามารถเติบโตไปพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม” กำจร ลีประพันธ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส อินดัสเทรียล เอสเตท จำกัด
ด๋าลี่ ฟู้ดส์ เลือกไทยเพราะมองเห็นอนาคต
การตัดสินใจของ ด๋าลี่ ฟู้ดส์ ที่เลือกอ่างทองเป็นฐานการผลิตในประเทศไทยนั้น ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของโลจิสติกส์หรือต้นทุน
แต่คือการมองเห็น “ความสอดคล้องของวิสัยทัศน์”
“เรามองหาพื้นที่ที่ไม่ใช่แค่เหมาะกับการผลิต แต่ต้องมีแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน และยึดหลักจริยธรรมทางธุรกิจ ซึ่งเราเห็นสิ่งเหล่านี้ในโครงการ เอส อ่างทอง” อดัม หม่า กรรมการผู้จัดการ ด๋าลี่ ฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด
ด๋าลี่ ฟู้ดส์ ยังวางแผนใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนแรงงานในท้องถิ่น ซึ่งล้วนสอดรับกับเป้าหมายของรัฐบาลไทยในด้านเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy)
การจับมือกันระหว่าง สิงห์ เอสเตท และ ด๋าลี่ ฟู้ดส์ คือจุดตัดของ 3 ปัจจัยสำคัญในโลกอุตสาหกรรมยุคใหม่
- เทคโนโลยีขั้นสูง ที่มาพร้อมโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก
- วิสัยทัศน์เรื่องความยั่งยืน ที่ไม่ใช่แค่การตลาด แต่เป็น DNA ของโครงการ
- กลยุทธ์โลเคชัน ที่เลือกอ่างทองให้เป็นจุดยุทธศาสตร์ใหม่ เชื่อมต่อกรุงเทพฯ กับภาคกลางตอนบน
เมื่อปัจจัยทั้งสามนี้รวมกัน จะเห็นได้ชัดว่า เอส อ่างทอง กำลังก้าวสู่การเป็น Magnet ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ และเป็นตัวอย่างของนิคมอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 21