แสนสิริเปลี่ยนบ้านตัวอย่างเป็นทรัพย์สินร้อนแรงแห่งปี
บ้านไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัยอีกต่อไป แต่คือแพลตฟอร์มชีวิตที่ต้อง “พร้อม” ตั้งแต่วันแรก กลยุทธ์ “เห็นแบบไหน ได้แบบนั้น” จากแสนสิริ อาจเป็นคำตอบใหม่ของตลาดแนวราบในยุคที่ลูกค้าต้องการความสมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องเหนื่อย
“ลูกค้าสมัยนี้ไม่อยากเสียเวลาตกแต่งบ้านอีกแล้ว
พวกเขาต้องการเข้าอยู่ และเริ่มใช้ชีวิตทันที”ภัคพริ้ง การุญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโครงการแนวราบ แสนสิริ
จากบ้านตัวอย่าง…สู่ยูนิตขายดี
กลยุทธ์ที่ไม่ได้ขายแค่ “บ้าน” แต่ขาย “เวลา + ความสุข”
ในอดีต “บ้านตัวอย่าง” เป็นเพียงเครื่องมือการตลาดชิ้นหนึ่ง ใช้เพื่อแสดงภาพรวมของโครงการ และกระตุ้นจินตนาการของผู้ซื้อ
แต่ในปี 2568 แสนสิริได้เปลี่ยนมันให้กลายเป็น “สินค้าจริง”
สินค้าที่ขายได้…และขายดีอย่างเหลือเชื่อภายใต้แนวคิด “เห็นแบบไหน ได้แบบนั้น” บ้านตัวอย่างที่เคยเป็นแค่โมเดล กลายเป็นสินทรัพย์ที่ลูกค้าจับต้องได้ทันที พร้อมทุกอย่างตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ แสงไฟ ผ้าม่าน ไปจนถึงกลิ่นหอมที่อบอวล
ผลลัพธ์คือ…ยอดขายกว่า 1,000 ล้านบาทและยังมียอดจองตามมาอย่างต่อเนื่อง “ความพร้อม” คือสิ่งที่ผู้ซื้อยุคใหม่จ่ายเพื่อมันได้เพราะเวลา = เงิน และการแต่งบ้าน = ความปวดหัว
จากข้อมูลของแสนสิริ ลูกค้าหลักที่ตอบรับแคมเปญนี้ได้ดีที่สุดคือกลุ่มอายุ 35-50 ปีประกอบด้วย
- เจ้าของธุรกิจขนาดกลาง-เล็ก
- พนักงานระดับผู้จัดการขึ้นไป
- กลุ่มผู้มีรายได้มั่นคงสูง
และพวกเขายินดี “จ่ายเพื่อจบ” มากกว่า “จ่ายเพื่อเริ่ม”แสนสิริไม่ได้ขายบ้าน แต่กำลังขาย “Lifestyle Revolution”
แคมเปญนี้ครอบคลุมทุกระดับราคา ตั้งแต่โครงการ Affordable จนถึง SLC – Sansiri Luxury Collection ซึ่งถือเป็นหมากกลยุทธ์ที่วางมาครอบคลุมครบทุก Segment
แต่กลุ่มที่ตอบรับดีสุดคือ “เศรษฐสิริ” ซึ่งเป็น Segment ระดับกลางบน
และโครงการที่มียอดขายแรง คือจาก 3 ทำเลเด่น
- รามอินทรา
- ราชพฤกษ์
- บางนา
3ทำเลนี้มีจุดร่วมคือ “อยู่ในเมืองพอสมควร แต่ยังให้พื้นที่กว้างขวาง” และเป็นย่านที่คนทำงานรุ่นใหม่เลือกเป็นบ้านหลังแรกหรือบ้านหลังเปลี่ยน
“คนไม่ได้มองหาบ้านแค่เพื่ออยู่อาศัยอีกต่อไปแต่กำลังมองหาพื้นที่ที่ช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในทันทีที่เปิดประตูเข้าไป”