DPU ชวนคนทำงาน! 'Grad Master Plan'ต่อยอด ป.โท-เอก รับมือ AI
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดงาน DPU Grad Master Plan เปิดบ้าน ป.โท-ป.เอก วางแผนทางลัดสู่ความสำเร็จ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจศึกษาต่อได้เข้ามาวางแผนเส้นทางอาชีพอย่างเป็นระบบ พร้อมยกระดับศักยภาพตนเองให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล โดยภายในงานมีคณาจารย์ นักศึกษา และกลุ่มคนทำงานจากหลากหลายสาขาอาชีพเข้าร่วม เพื่อค้นหาแนวทางการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์อนาคต ณ ห้องประชุม ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ อาคาร 6 ชั้น 7 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
กิจกรรมภายในงานเน้นสร้างแรงบันดาลใจและแนวคิดพัฒนาตนเองผ่านการบรรยายในหัวข้อ “อนาคตแรงงานไทยในโลกที่ AI จ้องแย่งงาน” และเวิร์กชอป “ตั้งเป้าหมายอนาคต” ที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ออกแบบชีวิตอย่างเป็นระบบ พร้อมฟังประสบการณ์ตรงจากศิษย์เก่า DPU ที่เล่าถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตหลังเรียนต่อ เพื่อจุดประกายแนวคิดและวางแผนอนาคตได้อย่างมีทิศทาง โดยช่วงท้ายของงาน ผู้เข้าร่วมได้เขียนโปสการ์ดถึงตัวเอง บันทึก “เป้าหมายในอีก 3 เดือนข้างหน้า” เสมือนจดหมายจากอดีตที่เตือนใจ เติมแรงฮึด และปลุกวินัยทางความคิดให้เดินตามฝัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อยากเป็นนักบิน? CADT DPU เปิดหลักสูตร ป.ตรี ควบใบอนุญาตใน 3.5 ปี!
บัญชี 4.0! DPU ปั้นนักบัญชีดิจิทัล ผนึก TAFA-42 บ. สู่โลก AI เต็มตัว
"ปรับตัว-เรียนรู้ร่วมกัน" ทางอยู่รอดในโลกAI
ช่วงแรกได้รับเกียรติจาก รศ.ดร. ดนุวัศ สาคริก ผู้อำนวยการหลักสูตรนักบริหารการพัฒนาในยุคดิจิทัล (DAD-NIDA) รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ บรรยายพิเศษในหัวข้อ “อนาคตแรงงานไทยในโลกที่ AI จ้องแย่งงาน” โดยชี้ให้เห็นว่าโลกการทำงานกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากอิทธิพลของเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ที่ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ในอนาคต แต่แทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคนแล้ว ทั้งในระบบบริการ แอปพลิเคชัน การวิเคราะห์ข้อมูล และการตัดสินใจอัตโนมัติ ซึ่งทั้งหมดล้วนขับเคลื่อนด้วย AI
รศ.ดร. ดนุวัศ ชี้ให้เห็นว่า การอยู่รอดในโลกยุค AI ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการหลีกเลี่ยงเทคโนโลยี แต่คือการปรับตัวและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงานที่ต้องการยกระดับทักษะเดิม ทักษะสำคัญที่จำเป็นในยุคนี้ ได้แก่ สมรรถนะในการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Complex Problem Solving) และการสื่อสารทำงานร่วมกับผู้อื่น (Collaboration & Communication) ซึ่งล้วนต้องพัฒนาผ่านการลงมือปฏิบัติและประสบการณ์จริง ไม่ใช่เพียงจากตำรา
“วุฒิการศึกษา” ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด
ดังนั้นการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา โดยเฉพาะระดับปริญญาโท เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการยกระดับศักยภาพของบุคคล เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้จากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ยังได้เรียนรู้จากเพื่อนร่วมรุ่นที่ล้วนมีประสบการณ์การทำงานที่หลากหลาย ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่พัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์ การนำเสนอ การตัดสินใจ และการทำงานร่วมกันที่เป็นระบบ
รศ.ดร. ดนุวัศ ยังเน้นว่า “วุฒิการศึกษา” ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทักษะต่อเนื่องในระยะยาว การเรียนในระดับปริญญาโทจึงเป็นเสมือนการติดตั้งเครื่องมือที่สำคัญให้บุคคลสามารถปรับตัวได้เร็ว ทันโลก และสามารถสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพที่นำไปสู่โอกาสใหม่ ๆ ในชีวิตและการทำงาน พร้อมเสนอว่า ประเทศไทยควรเร่งยกระดับทุนมนุษย์จากแรงงานทั่วไปให้เป็นบุคลากรที่มีทักษะสูง ผ่านนโยบายการศึกษา ทักษะดิจิทัล และการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างเป็นระบบ เพราะ “การศึกษาไม่ใช่เพียงใบปริญญา แต่คือเครื่องมือที่ช่วยรองรับชีวิตในยามวิกฤต”
อีกหนึ่งช่วงที่สำคัญภายในงาน คือกิจกรรมเวิร์กชอป “ตั้งเป้าหมาย ออกแบบอนาคต” โดย รศ.ดร. บุญธิดา เอื้อพิพัฒนากูล ผู้เชี่ยวชาญด้าน Design Thinking จบการศึกษาจาก University of Oxford ประเทศอังกฤษ เป็นผู้นำกระบวนการเรียนรู้ เพื่อจุดประกายให้ผู้เข้าร่วมได้สำรวจตนเองหรือรู้จักตัวเองมากขึ้น ผ่านเครื่องมือ “วงล้อชีวิต” (Wheel of Life) เพื่อประเมินระดับความพึงพอใจในแต่ละมิติของชีวิต อาทิ การงาน การเงิน ความสัมพันธ์ สุขภาพ และการพัฒนาตนเอง จากนั้นผู้เข้าร่วมจะได้เขียน “Life Plan” โดยตั้งเป้าหมายชีวิตระยะสั้น 2 ปี และระยะยาว 5 ปี พร้อมสร้างภาพเป้าหมายชีวิตเวอร์ชันเต็ม 10 ที่อยากไปให้ถึง วิเคราะห์จุดที่ตนเองยืนอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงทักษะที่ยังขาด เพื่อวางแผนพัฒนาตนเองอย่างเป็นขั้นตอน
กิจกรรมเวิร์กชอปนี้ผสานแนวคิด “Design Your Life” เข้ากับจิตวิทยาเชิงประสาท (Neuro-linguistic Programming) เพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถจินตนาการอนาคตได้อย่างชัดเจน เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตนเองในระดับจิตใต้สำนึก และสามารถแปลงความฝันให้กลายเป็นเป้าหมายที่จับต้องได้ โดยเน้นย้ำว่า “การรู้เป้าหมายเร็ว คือการเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จเร็ว” ทั้งนี้ยังได้ยกตัวอย่างคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย เพราะมีความชัดเจนในเป้าหมายและลงมือทำทันทีโดยไม่รอเวลา
รศ.ดร.บุญธิดา แนะนำด้วยว่า ก่อนเลือกเรียนต่อควรถามตนเองให้ชัดเจนว่าอยากมีชีวิตแบบใดและอยากทำงานในตำแหน่งใด จากนั้นค่อยออกแบบเส้นทางให้เหมาะสม โดย DPU มีหลักสูตรที่ตอบโจทย์ทักษะแห่งอนาคตทั้งด้านธุรกิจ เทคโนโลยี และการสื่อสาร ซึ่งพร้อมเติมเต็มศักยภาพผู้เรียนในทุกช่วงวัยอย่างมีคุณภาพ
ปิดท้ายด้วยการแชร์ประสบการณ์จากศิษย์เก่า DPU ในหัวข้อ “เรียนต่อ DPU เปลี่ยนอนาคตงานและชีวิตได้อย่างไร”จาก สรทรรศน์ ศิริรัตนจักริน อาชีพ AI Engineer ศิษย์เก่าสาขาวิชาวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์และข้อมูล เล่าว่า แม้จะจบปริญญาตรีด้านอุตสาหกรรมเกษตร แต่เมื่อเข้าสู่โลกการทำงานกลับค้นพบความสนใจในเทคโนโลยีและข้อมูล จึงตัดสินใจเรียนต่อที่วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี (CITE) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เนื่องจากหลักสูตรเรียนวันเสาร์–อาทิตย์ เหมาะกับคนทำงาน มีระบบสนับสนุนที่ดี ทั้งด้านคำปรึกษาและการจัดการค่าใช้จ่าย และเปิดโอกาสให้เรียนรู้จากเพื่อนร่วมรุ่นที่มีประสบการณ์หลากหลาย
การเรียนปริญญาโทไม่เพียงให้ความรู้ แต่ยังได้รู้จักเพื่อนและอาจารย์จากหลากหลายสายอาชีพ ซึ่งกลายเป็นการสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพที่มีค่าในระยะยาว ดังนั้นไม่ต้องรอให้พร้อมจึงค่อยเรียน แต่ควรเริ่มเมื่อมีเป้าหมาย การเรียนปริญญาโทไม่ใช่แค่เพิ่มวุฒิการศึกษา แต่เป็นการพัฒนาศักยภาพ และอาจเป็นทางลัดที่ทำให้เติบโตเร็วขึ้นในยุคที่โลกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
สำหรับบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคักและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ร่วมงานอย่างมาก โดยมีการนำเสนอหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาครอบคลุม 32 หลักสูตร จาก 6 วิทยาลัยและ 4 คณะของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ผู้สนใจยังได้พูดคุยปรึกษาแบบเจาะลึกกับคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา เพื่อวางแผนการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกอย่างมีเป้าหมาย
หนึ่งในไฮไลต์ของงานคือบูทจาก JobThai แพลตฟอร์มหางานอันดับ 1 ของไทย ที่มาแนะนำวิธีใช้งานแพลตฟอร์มอย่างมีประสิทธิภาพ มีฟีเจอร์ช่วยให้คนหางานค้นหางานที่ตรงใจได้ง่ายยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานที่หลากหลาย สำหรับผู้สมัครงานตั้งแต่จบใหม่ ไปถึงผู้บริหารระดับสูง ทุกสายอาชีพ พร้อมเชื่อมต่อโอกาสดี ๆ ให้เกิดขึ้นจริง รวมถึงมีกิจกรรมพิเศษหมุนวงล้อลุ้นรับของรางวัลสุดน่ารัก อาทิ ปากกา สมุด กระบอกน้ำ และเสื้อยืด
นอกจากนี้ทาง CareerVisa Thailand เองก็ยังได้ส่งต่อแนวคิดการจับคู่ “งานที่ใช่” กับ “คนที่ใช่” ผ่านการพัฒนาเส้นทางอาชีพให้เติบโต พร้อมแนะนำการสร้างโปรไฟล์ให้โดดเด่นและสอดคล้องกับตลาดแรงงานในยุคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว