โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

"สมศักดิ์" กางแผน 3 ระยะพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ทางการแพทย์

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

22 กรกฎาคม 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมและปาฐกถาพิเศษในการประชุมเชิงปฏิบัติการหุ่นยนต์ทางการแพทย์และระบบสาธารณสุข ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมงาน ณ อิมแพค เมืองทองธานี

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายที่จะยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพทำให้ประชาชนได้รับบริการที่ดี สะดวก และปลอดภัย ผ่านการยกระดับบริการ ด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ทางการแพทย์และเทคโนโลยีสุขภาพ เช่น หุ่นยนต์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่แม่นยำและปลอดภัยจะช่วยลดความผิดพลาดและภาวะเเทรกซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจสุขภาพสู่ Medical & Wellness Hub

ปัจจุบันมีหลายประเทศที่ใช้หุ่นยนต์ทางการแพทย์จำนวนมาก เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น จีนและเกาหลีใต้ สำหรับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ซึ่งการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

สำหรับประเทศไทยมีการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด 16 ยูนิต แบ่งเป็น โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข คือ โรงพยาบาลราชวิถี 1 ยูนิต โรงพยาบาลนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 12 ยูนิต ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลเอกชน 3 ยูนิต โดยมีบริการหลัก คือ ศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ ทรวงอก ศีรษะและลำคอ นารีเวช และศัลยกรรมทั่วไป

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมการรองรับเทคโนโลยีหุ่นยนต์ทางการแพทย์ ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น บริการด้านการแพทย์ กำลังคน ข้อมูล การเงิน เทคโนโลยี และธรรมาภิบาล โดยแบ่งแผนการพัฒนาออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 : ปี 2568 - 2570 พัฒนาบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มนำร่อง กำหนดมาตรฐานและแนวทางการปฏิบัติโดยจะดำเนินการในโรงพยาบาลนำร่อง 5 ภาค

ระยะที่ 2 : ปี 2571 - 2572 ขยายผลการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อม

ระยะที่ 3 : ปี 2573 เป็นต้นไป ประเมินผลลัพธ์ ปรับปรุงระบบ และสร้างความยั่งยืนในการใช้เทคโนโลยี

"เชื่อมั่นว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการในวันนี้จะเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่จะนำรูปแบบบริการปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ทางการแพทย์ ใปใช้ในหน่วยบริการทำให้พี่น้องประชาชนได้รับบริการที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นและขอให้ช่วยกันยกระดับบริการสุขภาพ ทำให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยสามารถตอบสนองกับปัญหาสุขภาพของประชาชน เพื่อความมั่นคงด้านสุขภาพของคนไทยต่อไป" นายสมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่จะนำปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ทางการแพทย์ไปให้บริการนั้นเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มากเชื่อว่าไม่อันตราย มีเครื่องมือป้องกันทำให้การใช้งานสะดวกและเครื่องผ่าตัดที่ใช้ AI เครื่องเดียวสามารถผ่าตัดได้หลายจุดในร่างกายด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

TOA ครองแชมป์ No.1 Brand Thailand 13 ปีซ้อนเดินหน้า ขอบคุณคนไทยที่ไว้วางใจ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตั้ง ‘อ๋อม-สกาวใจ’ นั่งที่ปรึกษา รมว.วัฒนธรรม ลุยงานเคียงคู่แพทองธาร

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

โปรดเกล้าฯ "สำนักงานพระคลังข้างที่" ดูแลรักษาและจัดการผลประโยชน์ทรัพย์สินในพระองค์

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ทักษิณ”มั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคร่วมฯ จับมือเดินหน้าต่อ

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่นๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...