เคล็ดลับ "กินแซ่บ" ยังไงให้ปลอดภัย รู้ทันอันตรายจากอาหารรสจัด
การกินแซ่บเป็นเรื่องที่คนไทยชอบมาก แต่ถ้ากินบ่อย ๆ หรือรสจัดเกินไปอาจทำให้สุขภาพเสียหายได้ มาฟังเคล็ดลับการกินแซ่บแบบปลอดภัยที่ทั้งอร่อยและไม่ทำร้ายร่างกายกันดีกว่า
เชฟหนุ่ม วีระวัตน์ ตตริยเสนวรรธน์ เชฟและเจ้าของร้านซาหมวซัย&นส์ กล่าวว่า พฤติกรรมการกินที่ส่งผลต่อสุขภาพ โดยเริ่มต้นด้วยการอธิบายเกี่ยวกับคำว่า "แซ่บ" ที่ในอดีตหมายถึง "อร่อย" แต่ในปัจจุบันคำนี้กลับมีความหมายที่หลากหลายมากขึ้น ทั้ง "แซ่บอร่อย" และ "แซ่บรสจัด" ซึ่งคำว่า "แซ่บ" ที่หมายถึงรสจัด เช่น รสเค็มหรือเผ็ดจัดนั้น ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพมากขึ้นในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะการกินอาหารที่มีรสจัดเกินไป
การปรุงอาหารเพื่อให้รสชาติมีความกลมกล่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบางครั้งเพื่อให้รสชาติอาหารไม่เค็มเกินไป การเติมน้ำ น้ำตาล หรือแม้แต่การเติมพริกอาจเป็นทางเลือกในการปรับรสชาติให้ได้ความแซ่บที่ตรงตามความต้องการ
การเติมสิ่งเหล่านี้เข้าไปอาจทำให้อาหารมีรสชาติที่เข้มข้นและแซ่บขึ้น แต่ก็อาจสร้างภาระให้กับร่างกายในระยะยาว เพราะการกินอาหารที่มีรสจัดเป็นประจำอาจส่งผลต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะในเรื่องของความดันโลหิตสูงหรือปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร
การรับประทานหมาล่าที่ผ่านการปรับแต่งในสไตล์ไทยนั้นมีผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะน้ำมันที่อยู่ในน้ำซุปหมาล่าอาจทำให้ร่างกายรับสารที่มีความมันสูง ซึ่งหากบริโภคบ่อยๆ ก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ เช่น ความดันโลหิตสูง หรือปัญหาการย่อยอาหาร
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกระแสการบริโภคอาหารตามแฟชั่นว่าในปัจจุบันหลายคนทานอาหารเพียงเพื่อให้ทันกระแสสังคมโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพ พฤติกรรมเช่นนี้อาจทำให้คนบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตัวเอง
ในส่วนของอาหารที่มีความนิยมในตอนนี้อย่าง "หมาล่า" เป็นเครื่องเทศที่มีสรรพคุณดีในการช่วยขับลมและช่วยให้ร่างกายอบอุ่น แต่ในประเทศไทยกระแสการปรุงหมาล่าได้มีการปรับแต่งให้มีรสชาติเผ็ดร้อนและมันมากขึ้น ซึ่งเป็นการปรับให้เหมาะสมกับความชอบของคนไทยที่มักจะชื่นชอบรสเผ็ดจัด โดยเฉพาะการเติมพริกและเครื่องปรุงรสเพิ่มเข้าไปเพื่อให้รสชาติแซ่บขึ้น การปรุงอาหารที่มีหมาล่าในลักษณะนี้อาจส่งผลต่อสุขภาพหากบริโภคบ่อยเกินไป เพราะมีการเติมน้ำมันหรือเครื่องปรุงที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากเกินไป
หมอต้า วิพุธ สันติวาณิช ผู้ก่อตั้ง ณ สมดุล ศูนย์สร้างเสริมสุขภาวะ และพัฒนาสมดุลชีวิตองค์รวม กล่าวว่า หลายคนโดยเฉพาะผู้ป่วยมักจะชอบอาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หรือหวานจัด ซึ่งรสชาติแบบนี้มักจะได้รับการเสริมด้วยเครื่องปรุงหรือสารเคมีต่างๆ เช่น ซอสปรุงรส หรือเครื่องปรุงที่มีสารเคมีเพื่อเพิ่มความเด่นชัดของรสชาติในอาหาร
ซึ่งทำให้รสชาติของอาหารเด่นขึ้นและน่ารับประทานมากขึ้น แต่การบริโภคอาหารที่ผ่านกระบวนการเคมีมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนั้นหมอต้าแนะนำให้เลือกทานอาหารที่เป็นธรรมชาติและปรุงด้วยเครื่องปรุงที่มีคุณภาพ เพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคสารเคมีที่ไม่จำเป็น
อาหารจากต่างประเทศ เช่น อาหารตะวันตกหรืออาหารจีนที่มีน้ำมันสูง อาจไม่เหมาะกับคนไทยที่บริโภคอาหารในแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะอาหารที่มีความมันสูง ซึ่งไม่เหมาะกับสภาพอากาศในประเทศไทย และอาจทำให้ร่างกายรับสารอาหารที่มีไขมันมากเกินไป ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคเบาหวานหรือโรคหัวใจ