ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ทรงตัว ตลาดห่วงภาษีทรัมป์กระทบเศรษฐกิจ
ซีเอ็นบีซี รายงานตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นวอลล์สตรีทแทบไม่เปลี่ยนแปลงในคืนวันอาทิตย์ (3 ส.ค.)ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ทรงตัว ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจและภาษีศุลกากร
โดยนักลงทุนยังคงกังวลอีกครั้ง เนื่องจากมาตรการภาษีศุลกากรรอบใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
S&P 500 ฟิวเจอร์ และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ เคลื่อนไหวเล็กน้อย สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เชื่อมโยงกับดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 15 จุด หรือน้อยกว่า 0.1%
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดหุ้นผันผวน ซึ่งดัชนีหลักทั้งสามของสหรัฐฯ ปิดตลาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังปรับตัวขึ้นมาหลายสัปดาห์
ดัชนี S&P 500 ปิดสัปดาห์ร่วงลง 2.4% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ 30 หุ้น ปิดสัปดาห์ร่วง 2.9% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน ดัชนี Nasdaq Composite ปิดสัปดาห์ลดลง 2.2%
การเทขายในวันศุกร์เป็นผลมาจากรายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่แย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ และความกังวลเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากรใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์ขึ้นภาษีศุลกากร 10-41%
ผู้นำสหรัฐได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งปรับปรุงอัตราภาษีศุลกากรแบบ “ตอบโต้” ต่อคู่ค้าของสหรัฐฯ หลายสิบประเทศ ตั้งแต่ซีเรียไปจนถึงไต้หวัน โดยมีอัตราภาษีศุลกากรที่ปรับขึ้นรอบใหม่ตั้งแต่ 10- 41%
ขณะนี้นักลงทุนกำลังพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นักลงทุนคาดการณ์ว่าโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนลดลง หลังจากที่ผู้กำหนดนโยบายได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนไว้ในประชุมครั้งที่ห้าติดต่อกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ตลาดยังเตรียมรับมือกับเดือนที่อ่อนแอเป็นประวัติการณ์ เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่แย่ที่สุดสำหรับดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ นับตั้งแต่ปี 1988 และเป็นเดือนที่แย่ที่สุดเป็นอันดับสองสำหรับดัชนี S&P 500 และ Nasdaq Composite ตามข้อมูลของ Stock Trader’s Almanac