'นกแอร์' รุกตลาดต่างประเทศ ดันรายได้ปีนี้สูงกว่า 7 พันล้าน
นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของนกแอร์ ในขณะนี้ เริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ หลังจากที่ผ่านมาขาดทุนต่อเนื่องมา 9 ปี และกลับมาทำกำไรในช่วง 2 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2566 มีกำไรราว 49 ล้านบาท และในปี 2567 มีกำไรราว 60 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานปัจจุบันนกแอร์มีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน ที่มีประมาณ 7,000 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้นกแอร์ได้วางแผนกลับไปเปิดให้บริการในหลายจุดบินระหว่างประเทศที่มีศักยภาพสูง อาทิ อินเดีย จีน และเวียดนาม โดยจะเริ่มทำการบินในช่วงตารางบินฤดูหนาว ซึ่งเริ่มต้นในเดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป
ทำให้นกแอร์มั่นใจว่าตารางบินฤดูหนาวในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งเป็นไฮซีซันทางการท่องเที่ยว จากการกลับมาเปิดบินในเส้นทางระหว่างประเทศ อาทิ หนานหนิง เจิ้งโจว มุมไบ นิวเดลี ดานัง และฮานอย รวมทั้งนกแอร์ยังเตรียมเปิดให้บริการ 2 จุดบินใหม่ในช่วงเดียวกัน เพื่อรองรับการการเดินทางท่องเที่ยว ประกอบด้วย บาหลี (อินโดนีเซีย) และมะนิลา (ฟิลิปปินส์) จะทำให้รายได้ของปีนี้เติบโตมากกว่าปีก่อน อีกทั้งยังประเมินว่าอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (โหลดแฟกเตอร์) จะสูงอยู่ในระดับ 85% จากปัจจุบันอยู่ในระดับ 80%
นายวุฒิภูมิ กล่าวด้วยว่าปัจจุบันนกแอร์มีสัดส่วนผู้โดยสารส่วนใหญ่ 80 – 90% เป็นผู้โดยสารภายในประเทศ แต่ภายหลังที่นกแอร์จะกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศ และเปิดจุดบินใหม่ที่เป็นตลาดศักยภาพเหล่านี้ คาดว่าจะทำให้สัดส่วนผู้โดยสารปรับเป็น ผู้โดยสารภายในประเทศ 60% และผู้โดยสารระหว่างประเทศ 40%
ขณะที่แผนขยายฝูงบินเพื่อรองรับการเติบโต ปัจจุบันนกแอร์มีจำนวนเครื่องบินที่ทำการบินประจำฝูงบิน 14 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินที่นำมาให้บริการจำนวน 10 ลำ โดยจากการเติบโตของการเดินทาง นกแอร์จึงมีแผนจะรับมอบเครื่องบินเพื่อมาทำการบินในสิ้นปีนี้อีก 2 ลำ และตั้งเป้าหมายว่าจะทยอยรับมอบเครื่องบินใน 5 ปีนี้ให้มีจำนวน 20 -30 ลำ โดยจะมีการทยอยรับมอบเพิ่มอย่างน้อยปีละ 4 ลำ ซึ่งการเพิ่มจำนวนเครื่องบินนั้น จะทำให้นกแอร์สามารถเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10-15%
ส่วนความคืบหน้าของการฟื้นฟูกิจการนั้น ปัจจุบันนกแอร์มีหนี้เหลืออยู่ราว 400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยครบกำหนดชำระแล้วเสร็จภายใน 2 ปีนับจากนี้ โดยนกแอร์มั่นใจว่าจะสามารถชำระหนี้ได้ตามแผน ส่วนเป้าหมายการยื่นออกจากแผนฟื้นฟูกิจการนั้น กำหนดไว้ที่กลางปี 2571 ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้ออกจากแผนฟื้นฟูก่อนกำหนดนั้น จะต้องดำเนินการชำระหนี้ได้ก่อนกำหนด เบื้องต้นก็เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้
ทั้งนี้ ล่าสุดในโอกาสครบรอบ 21 ปี ของการดำเนินธุรกิจสายการบินนกแอร์ ได้เปิดตัว 2 บริการใหม่ ได้แก่ Nok Air Inflight Entertainment (IFE) ซึ่งร่วมกับพาร์ทเนอร์แพลตฟอร์มดูซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Viu (วิว) เป็นรายแรกในไทย ให้บริการด้านความบันเทิงบนเครื่องบินที่ผู้โดยสารสามารถใช้บริการระหว่างการเดินทางได้ผ่านอุปกรณ์สื่อสารส่วนตัวของตนเอง รวบรวมเนื้อหาสาระความบันเทิง ดูหนัง และซีรีย์ต่างๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมให้บริการในเดือน ส.ค.นี้
นอกจากนี้ยังเปิดตัวบริการNok Deal แพลตฟอร์มสิทธิพิเศษใหม่สำหรับสมาชิก Nok Fan Club มอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการพิเศษ, ส่วนลดบัตรโดยสารจากนกแอร์, สิทธิประโยชน์จากพันธมิตรทั่วประเทศ, บัตรคอนเสิร์ต และอีกมากมาย ที่ผู้โดยสารสามารถแลกผ่าน Nok Deal ได้โดยตรง ซึ่งนกแอร์มั่นใจว่าการพัฒนาบริการผู้โดยสารเหล่านี้จะช่วยสร้างประสบการณ์เดินทางได้มากขึ้น