ศิลปินเจนซีที่ผลิบานด้วยตัวเอง “วิว นันท์นภัส” นักวาดภาพวันวิวาห์
เธออยู่ในชุดราตรีบ่อยครั้ง ผมยาวสลวยพ้นบ่า ใบหน้าเรียวยาวลุคโฉบเฉี่ยว ยืนกลางแสงดวงเล็กดวงน้อย ปรากฏตัววับไปวับมาหลายงานวิวาห์เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่อาจนับได้ เปล่าเป็นพิธีกรหรือแขกรับเชิญ หากแต่เป็นนักปาดฝีแปรงบนเฟรมผ้าใบ “วิว-นันท์นภัส มากภักดี”
“23 ปีค่ะ” เธอตอบคำถามแรกเมื่อเราถามถึงอายุวัย แน่นอนว่าผู้ถามเก็บสีหน้าประหลาดใจไว้ไม่อยู่ เพราะก่อนจะมานั่งอยู่ในห้องสตูดิโอของเธอ เราได้เห็นคลิปวาดภาพนับร้อยหรือมากกว่านั้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ท่าทางทะมัดทะแมง ดูไม่ลังเลที่จะลงสีเลยสักนิด ราวมีพู่กันเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่กำเนิด ทำให้เผลอคิดว่านี่ต้องเป็นศิลปินที่มากประสบการณ์ ผันผ่านชั่วโมงบินมาเยอะแล้วเป็นแน่
โป้งแรกไม่เท่าไหร่ โป้งที่สองเธอบอกว่าเพิ่งเริ่มวาดรูปสดงานแต่งงานได้ไม่ถึงปี แต่กลับเป็นที่รู้จัก มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ทำเอาชักอยากรู้แล้วสิว่าสาวน้อยตรงหน้าจะมีอะไรทำให้เราประหลาดใจได้อีกบ้าง
จับดินสอวาดรูปครั้งแรกเพราะอะไร
แม่เป็นคนชอบวาดภาพ อ่านนิยายภาพ พี่สาวเองก็เหมือนกัน เราเห็นพี่ไปลงแข่งประกวดวาด ทำให้อยากวาดภาพไปด้วย ก็ฝึกมองธรรมชาติ เรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะที่บ้านไม่ได้มีทุนสักเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็วาดรูปเป็น ช่วงที่จะเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหนนะ เรียนสายวิทย์คณิตมาด้วยซ้ำ อีกอย่างพ่อกับแม่ก็กลัวว่าถ้าไปทางศิลปะเลยจะไม่มีงานมีการทำ
พอพ่อแม่ไม่อยากให้ทำอาชีพวาดรูป เราทำอย่างไรต่อ
ก็ยังวาดของเราไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่วาดมือในโทรศัพท์รุ่น Vivo แล้วก็มีคนมาติดต่อให้วาดรูป เขาบอกว่าจะเอาไปทำเข็มกลัด
เลยเหรอ (เราหลุดอุทานขึ้นมาเพราะรู้สึกทึ่ง)
ใช่ ใช้แอพ Picsart เคยเห็นเกมสตอรี่ไอจีไหม เราเป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรกๆ เลยนะ พวกเกม Ask Me ที่มีคนเล่นกันเป็นหมื่นเป็นแสน (หัวเราะ) หลังจากนั้นก็ไปซื้อไอแพดมา ด้วยเงินหนึ่งหมื่นที่ปู่ทิ้งไว้ให้เป็นมรดก ได้วาดดิจิทัลเป็นรูปคนแบบจริงจัง สไตล์ก็โผล่ชัดขึ้น มีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ จนส่งตัวเองเรียนได้ พ่อแม่ถึงให้มาทางสายนี้ เพราะเราทำให้เขาเห็นว่าการวาดภาพมันหาเงินได้นะ เห็นไหมเนี่ย! หนูทำได้นะ
หลังจากนั้นรู้ทางของตัวเองเลยหรือเปล่า
ไม่ ไม่เคยมีภาพชีวิตปัจจุบันนี้ในหัวเลย เราใช้ชีวิตตามความสุขของตัวเอง ชอบแบบนี้ก็ทำแบบนี้ ไม่ได้คิดถึงอนาคตขนาดนั้น
ท้ายที่สุดแล้วเลือกเรียนคณะอะไร
ถ้าบอกว่าสอบเข้าเอกออกแบบเพื่อการแสดง คณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒจะงงไหม งงใช่ไหม (หัวเราะ) ความคิดอีกฝั่งของเราคือชอบชีวิตการเป็นดารา อินฟลูเอนเซอร์ อยากลองเข้าเอกการแสดงแบบพี่ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ตอนนั้นก็งงว่าทำไมข้อสอบมันมีให้วาดรูปด้วย สรุปคือลงสอบผิดเอก แต่ก็สอบติดเฉยเลย ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องไปหาที่อื่นเรียนอีก (หัวเราะ) ในคลาสอาจารย์ก็จะสอนเพนต์พื้น วาดอนาโตมีคน จนถึงเบื้องหลังกองถ่าย สนุกมากเลย
จากวาดดิจิทัลในไอแพดสู่วาดสดในงานแต่งงานบนเฟรมผ้าใบได้อย่างไร
เราได้แรงบันดาลใจจากพี่เอ๋ Chubbybrush จากตอนประมูลงานในกลุ่มอาร์ตบ้าง ทวิตเตอร์บ้าง เห็นเขาวาดเอาต์ดอร์แล้วบรรยากาศมันดูดีจัง อีกอย่างงานดิจิทัลของเรา รูปหนึ่งไม่ถึงสิบนาทีก็ส่งได้แล้ว เราเป็นคนทำงานไวแล้วออกมาดีด้วย เลยคิดว่าต้องทำงานนี้ได้แน่ๆ
แต่หลังจากเรียนจบก็ยังไม่เริ่มทันทีนะ ไม่รู้รออะไรเหมือนกัน จนแฟนบอกว่ามีพี่ที่รู้จักกำลังจะแต่งงาน แต่อยากเห็นผลงานเราก่อน ถึงได้ลองวาดเป็นภาพตัวอย่าง แล้วก็เอาไปลงในกลุ่มอาร์ตโพรโมตตัวเอง ลูกค้าคนแรกจำได้ไม่ลืมเลย เขาไว้ใจเรามากทั้งที่เราไม่เคยวาดสดมาก่อน
กังวลไหมว่าแรงบันดาลใจที่ได้มาจะส่งผลให้งานวาดเราไปคล้ายเขา
ไม่เลย เพราะพี่เอ๋สไตล์ชัดมาก เป็นศิลปะอิมเพรสชันนิสม์ เขามีแปรงถี่ แต่สไตล์เราไม่ใช่อยู่แล้ว เราเป็นศิลปะกึ่งเรียลิสติกที่ชวนฝันหน่อย ตอนนั้นนักวาดสดในงานแต่งงานก็น้อยเลยคิดว่าควรเอาตัวเองไปลงสนามนั้นดู
วัดจากอะไรว่าภาพวาดของเราสวย
ต้องมั่นใจในตัวเองก่อน เพราะถ้าเราไม่มั่นใจ ลูกค้าที่มาจ้างเราเขาจะมั่นใจในเราได้อย่างไร การที่ลูกค้าเห็นผลงานเรา แล้วลูกค้าตัดสินใจจ้างแสดงว่าเขาชอบความเป็นเรา ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย
เพิ่งเริ่มวาดแต่คลิปหน้าฟีดร้อยกว่าคลิปเหมือนวาดมานานแล้วเลย
อาจเพราะเป็นคนชอบตัดคลิป หน้าฟีดเลยเห็นคลิปเยอะมาก (หัวเราะ) จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็ลงขายเสื้อผ้า รับรีวิวเป็นอินฟลูเอนเซอร์ทำให้มีฐานผู้ติดตามอยู่บ้าง ก็เลือกใช้ช่องทางนี้ทำคอนเทนต์ต่อเลยแมสไวขึ้นไปอีก นี่ก็อาจจะเป็นจุดเด่นที่ทำให้เราโตเร็วนะ เพราะทำคอนเทนต์เป็น ใช้โซเชียลได้ รู้ว่าคนในโซเชียลอยากฟังอะไร อยากรู้อะไร
เคยมีช่วงที่ลูกค้าหายหรือเปล่า
ก็มี แต่ถึงจะเพิ่งเริ่ม แค่มีสองสามงานเข้ามาก็ดีใจแย่แล้ว เราพยายามทำผลงานออกมาเรื่อยๆ บางผลงานก็แอบเมกขึ้นมาเพื่อโชว์ลูกค้าว่าดูผลงานฉันสิ เป็นภาพงานแต่งงานในจินตนาการตัวเอง
จำความรู้สึกตอนรับวาดภาพงานแต่งงานสดครั้งแรกได้ไหม
จำได้ ตอนนั้นกังวลเรื่องเวลามาก มันต้องเสร็จภายในเวลา 3 - 4 ชั่วโมง ถ้าเลือกได้อยากกลับไปวาดให้เขาใหม่มาก (หัวเราะ) เพราะรู้แล้วว่าฝีมือกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก็ทำให้เห็นว่าจุดไหนควรปรับ แต่งานแรกก็ออกมาโอเคนะ เป็นสไตล์ของเราเอง แค่ว่าอนาโตมีคนอาจจะยังไม่เป๊ะขนาดนั้นด้วยความที่ต้องแข่งกับเวลาสุดๆ
ก่อนวาดต้องเตรียมตัวอย่างไร
ขออินสตาแกรมของบ่าวสาวมาดู บางคู่จะไทยจ๋า บางคู่ก็จะสไตล์อังกฤษที่เราจะต้องไม่ใส่ประกายอะไรลงไปเยอะ ถ้าได้คุยกับตัวบ่าวสาวโดยตรงที่ไม่ผ่านญาติเขาก็จะง่ายขึ้น เราถามได้เลยว่าต้องการสีหรือแสงแบบไหน พอไปถึงงานแล้วก็คุยกับออร์แกไนซ์ว่าบ่าวสาวออกมากี่โมง ส่งภาพเวลาไหนได้บ้าง
สังเกตอะไรเป็นอย่างแรกเมื่อต้องเริ่มลงแปรง
ดูมุมก่อน สมมติญาติมาจ้างแล้วบรีฟว่าอยากได้ซีนหน้าแบ็กดร็อป แต่พอเราไปถึงหน้างานแล้ว เรารู้สึกว่าบนเวทีวาดออกมาแล้วน่าจะสวยกว่านะ ก็จะแกล้งๆ ถามเขาว่าเป็นบรรยากาศบนเวทีดีไหมคะ มีมิติกว่า ส่วนใหญ่จะต้องไปดูหน้างานเอา บางทีก็ถ่ายรูปโมเมนต์บ่าวสาวไว้ แล้วเริ่มวาดรูปคนก่อนเพื่อดูขนาด ค่อยวาดพื้นหลังอีกที แต่ถ้าไปถึงแล้วบ่าวสาวยังไม่มาก็ต้องวาดพื้นหลังเอาไว้ก่อน เป็นการช่วยประหยัดเวลา
นอกจากแข่งกับเวลา มีอะไรที่ยากสำหรับวิวอีกบ้าง
เราพยายามทำให้รูปวาดทุกรูปออกมาไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นซีนแบ็กดร็อปแสงก็ต้องไม่เหมือนกับผลงานที่ผ่านมา ถ้าต้องไปวาดที่ที่ซ้ำกันก็จะหาความแตกต่างของสถานที่ให้ได้ เปลี่ยนมุมไปเรื่อยๆ ให้ลูกค้ารู้สึกถึงความแปลกใหม่ แต่อย่างหนึ่งที่เป็นข้อดีคือเราเป็นคนสมาธิสูงมาก ถึงต้องโฟกัสการวาดในที่ที่คนเยอะ แต่เปิด Awareness รอบๆ ตลอดเวลานะว่าใครเดินมา หรือถ้ามีคนเข้ามาคุยด้วยแล้วต้องหันไปหาเขา พอหันหน้ากลับมาที่รูปก็จะยังจำได้ว่าวาดถึงตรงไหนแล้ว จริงๆ วาดคนเดียวมันดีกว่าอยู่แล้วแหละ แต่เทียบกับในตอนนี้ ถ้าไม่มีใครเดินมาดูงานเลย เราจะเฟลมาก
รู้ได้อย่างไรว่าภาพนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ต่อเมื่อไม่มีอะไรให้เติมแล้ว เราจะถอยออกมาดูรูปตลอดเวลาเพื่อมองจุดอิ่มตัวของภาพ ให้ผู้ช่วยเป็นอีกตาในการมองข้อผิดพลาด
สิ่งสำคัญที่สุดในการวาดภาพสดคืออะไร
สไตล์ของตัวเอง ทำอย่างไรก็ได้ให้ยังมีความเป็นตัวเองอยู่ในภาพ ต่อให้งานนั้นจะแสงดร็อปหรือมืดอย่างไร ก็ต้องทำให้มันสดใสให้ได้
เคยมีงานที่ทำให้รู้สึกเฟลบ้างหรือเปล่า
งานวาดบนเรือยอร์ชที่มีแต่ชาวต่างชาติล้วน พวกเขาจะชินกับการเห็นภาพที่ไม่ใช่แค่เสมือนจริง แต่ต้องจริงทุกอย่าง! เขาไม่เก็ตสไตล์เราว่าทำไมหน้าตาคนในภาพออกมาไม่เหมือนทั้งหมด เราเฟลแต่ไม่เก็บเอามาคิดนะ เพราะฉันวาดแบบนี้มาตลอด ไม่เห็นต้องเปลี่ยนเลย นี่มันสไตล์ของฉัน ต่อจากงานนี้ก็ได้ไปวาดภาพที่ภูเก็ตให้ชาวอินเดียเป็นครั้งแรก สนุกมาก เพราะรีแอกของพวกเขาจะแบบโอ้! ว้าว! ใจเราชื้นขึ้นนะ (หัวเราะ)
การวาดภาพงานแต่งงานสอนอะไรวิวบ้าง
วัฒนธรรมของคนแต่ละชาติ อย่างงานแต่งของอินเดียจะไม่เหมือนกันเลยสักวัน บางวันก็มีแค่ญาติฝั่งเจ้าบ่าว ไม่ก็ฝั่งเจ้าสาว ที่ได้เรียนรู้มาอีกอย่างเป็นกฎของอินเดียเลยคือต้องวาดให้ตัวคนหันข้าง เพราะพราหมณ์หันหน้าออกไม่ได้ ต้องเคลียร์ให้ชัดก่อนจะวาด
โกลต่อไปของวิวในสายการวาดภาพคืออะไร
แค่อยากวาดภาพต่อไปเรื่อยๆ ถึงวันหนึ่งจะไม่มีคนจ้างก็ไม่เป็นไร เคยมีคอมเมนต์โผล่มาว่าทำไมแพงจัง แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร เราพยายามทำให้เขาเห็นว่าความสามารถของเรากับราคาที่ตีไปมันคุ้มค่าแล้วนะ การที่คุณได้เราไป เราจะเอนเทอร์เทนแขกในงานได้ดีแน่ๆ เพราะระหว่างวาดก็จะมีเด็กๆ มีญาติของพวกเขามาใส่ความทรงจำไว้ในนี้ด้วยนะ เป็นของขวัญที่มีชิ้นเดียวบนโลก (ยิ้ม)
วาดภาพงานแต่งมาเยอะแล้ว ได้คิดภาพงานแต่งงานของตัวเองไว้บ้างไหม
ไม่ได้คิดเลย ยังไม่คิดอะ (หัวเราะ)
บนหนทางความไม่รู้ทั้งหลายจากสาวน้อยคนนี้ กลับซ่อนความทะเยอทะยานไว้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยประโยคว่าชอบแบบนี้ก็ทำแบบนี้! เธอมีวิธีค้นแสงในตัวเองออกมาให้สุกสว่าง โดยไม่ต้องรอใครมาค้นพบเสียด้วยซ้ำ แม้อายุยังน้อยแต่ (ใกล้) ร้อยล้านวิวนั้นมีอยู่จริง