เจาะลึก “ยาอิมครานิบ 100” รักษามะเร็งแบบมุ่งเป้าชนิดเม็ด เบิกได้ตามสิทธิสุขภาพ
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ระบุว่า “อิมครานิบ 100 / IMCRANIB 100” ยาเม็ดรักษามะเร็งชนิดมุ่งเป้าตำรับแรกที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยจากโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ผลจากการทรงงานด้านเภสัชกรรมด้วยพระวิริยะอุตสาหะและพระปณิธานอันแน่วแน่ตลอดหลายปีขององค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งเกิดเป็นคุณูปการสำคัญต่อวงการสาธารณสุข
ตำรับแรกของไทย! “ยาอิมครานิบ 100” รักษามะเร็งแบบมุ่งเป้าชนิดเม็ด
เจาะลึกกลไก “อิมครานิบ 100” รักษามะเร็งมุ่งเป้าตัวแรกที่ผลิตในไทย
“อิมครานิบ 100 / IMCRANIB 100" ประกอบด้วยตัวยาสำคัญอิมาทินิบ (IMATINIB) 100 มิลลิกรัม โดยได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
อิมครานิบ 100 รักษามะเร็งอะไรได้บ้าง?
- มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดซีเอ็มแอล
- มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดฟิลาเดลเฟียบวก
- มะเร็งเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหารหรือมะเร็งจิสต์ (GIST)
- มะเร็งผิวหนังชนิดหายาก (DFSP)
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยศูนย์มะเร็งวิทยา ได้พิจารณานำยา "อิมครานิบ 100" จากโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ มาใช้ในฐานะโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็งเป็นแห่งแรก และได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่สำคัญในการเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และศักยภาพของการผลิตยาคุณภาพสูงในประเทศไปสู่การนำไปใช้จริงกับผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ ผู้ที่จะรับยาอิมครานิบ 100 ในระยะแรกจึงต้องเป็นผู้ป่วยมะเร็งของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งทั้ง 4 ชนิดดังกล่าว และได้รับการสั่งจ่ายยาโดยแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งวิทยาเท่านั้น (ผู้ป่วยไม่สามารถขอรับยาเองได้)
ถ้าได้รับการสั่งจ่ายยาอิมครานิบ 100 เบิกกองทุนสุขภาพได้หรือไม่ ?
เบิกได้ เนื่องจากยาเม็ดรักษาโรคมะเร็งชนิดมุ่งเป้าตำรับแรกที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยภายใต้ชื่อ “อิมครานิบ 100 / IMCRANIB 100" ประกอบด้วยตัวยาสำคัญอิมาทินิบ (IMATINIB) 100 มิลลิกรัม ซึ่งยาอิมมาทินิบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน สามารถเบิกได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดของแต่ละกองทุน ทั้งสิทธิข้าราชการเบิกจ่ายตรงกรมบัญชีกลาง สิทธิบัตรทอง สิทธิประกันสังคม อย่างไรก็ตาม แต่ละกองทุนสุขภาพซึ่งมีข้อจำกัดในบางโรคและบางระยะของโรคที่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายจากกองทุนสุขภาพในปัจจุบัน ดังนั้น การผลิตยาได้เองในประเทศจะช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดนี้ได้ในอนาคต โดยจะช่วยขยายขอบเขตการใช้ยาให้ครอบคลุมทุกข้อบ่งชี้ของการรักษา ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการควบคุมโรค ลดความทุกข์ทรมาน และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ไขข้อสงสัยเพิ่มเติมระหว่างความแตกต่างของมะเร็งจิสต์ (GIST) หรือมะเร็งเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหาร กับ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ⁉ โดยหลายคนสงสัยว่า “ถ้า GIST อยู่ในลำไส้ ก็คือมะเร็งลำไส้ใหญ่ใช่ไหม?”
คำตอบคือไม่ใช่ เพราะเป็นคนละชนิดกัน ทั้งด้านเซลล์ต้นกำเนิดและวิธีการรักษา ดังนั้น มะเร็ง GIST ที่ลำไส้ ≠ มะเร็งลำไส้ใหญ่
GIST (Gastrointestinal Stromal Tumor)
- เป็นมะเร็งของเซลล์เนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่อยู่ในผนังของทางเดินอาหาร
- อาจเกิดได้ตั้งแต่หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก จนถึงลำไส้ใหญ่
- ถึงแม้จะเจอในลำไส้ แต่ไม่ได้เรียกว่า “มะเร็งลำไส้ใหญ่”
- รักษาด้วย “ยามุ่งเป้า” เช่น IMATINIB ซึ่งยา“อิมครานิบ 100” ประกอบด้วยตัวยาสำคัญอิมาทินิบ (IMATINIB) จึงใช้รักษามะเร็งชนิดดังกล่าว (เคมีบำบัดทั่วไปใช้ไม่ได้ผล)
มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal Cancer)
- เป็นมะเร็งของเซลล์เยื่อบุผิวด้านในของลำไส้
- เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงสะสม เช่น รับประทานอาหารแปรรูป พันธุกรรม
- เกิดได้ในหลายตำแหน่งของลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง
- การรักษาหลัก คือ การผ่าตัด เคมีบำบัด และในบางกรณีอาจใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด
โดยสรุป แม้ว่ามะเร็ง GIST จะเกิดใน “ลำไส้” ได้ แต่เป็นมะเร็งคนละชนิดกับมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยสิ้นเชิง รู้ให้ชัด เพื่อการวินิจฉัยและวางแผนรักษาที่ถูกต้องที่สุด
สำหรับผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ที่ต้องการเข้ารับการปรึกษาเพื่อวางแผนการรักษาโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สามารถส่งประวัติปรึกษาและนัดหมายล่วงหน้าผ่านเมนู “ปรึกษาโรคมะเร็ง” ทาง LINE Official Account โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ @chulabhornhospital เลือกหัวข้อและชนิดมะเร็งที่ต้องการปรึกษา พร้อมเอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อส่งปรึกษา อาทิ ประวัติการรักษา รายงานการผ่าตัด ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ รายงานผลทางรังสีวินิจฉัยพร้อมซีดี รายงานผลทางพยาธิวิทยา ผลชิ้นเนื้อพร้อมสไลด์บล็อก (ถ้ามี) ผลชิ้นเนื้อไขกระดูก (ถ้ามี) เพื่อคัดกรองประวัติและอาการกับแพทย์ก่อนนัดหมายเข้ารับบริการต่อไปเพื่อประหยัดเวลาและลดการเดินทางมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น