‘อดิศร’ ชวน สส. ทำบุญทางการเมือง ร่ายกลอนขอนิรโทษกรรม
วันนี้ (9 ก.ค.68) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วาระ พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. … และร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. …. ซึ่งมี สส. และภาคประชาชนเสนอรวม 5 ฉบับ
นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า วันนี้เป็นวันนิรโทษกรรมให้อภัยซึ่งกันและกัน ทุกคนต้องใจถึง เพราะเป็นวันที่ต้องลืม ลืม และลืม มนุษย์เป็นสัตว์การเมือง ความเห็นทางการเมืองที่ต่างกันทำให้เกิดการต่อสู้แย่งชิง ตนเองมีประสบการณ์ได้รับอานิสงส์จากการนิรโทษกรรมในยุคหนึ่ง คือหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 และหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519
ด้วยความที่สังคมไม่เป็นธรรม มีการใช้ความรุนแรงกับลูกหลานเยาวชนคนหนุ่มสาว ต้องเข้าป่าจับปืน การนิรโทษกรรมในคราวนั้นไม่ต้องผ่านสภา ไม่ต้องโต้เถียงกันอย่างทุกวันนี้ โดยออกเป็นคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 66/2523 ให้คนที่อยู่ในป่าได้กลับมาอยู่ในเมือง
วันนี้ตนเองลุกขึ้นอภิปรายโดยไม่ต้องอ่านร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 5 ฉบับ เพราะการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องง่าย ๆ การให้อภัยเป็นเรื่องง่าย แต่ทำไมต้องทำเป็นเรื่องยาก คิดไม่เหมือนกันก็อภัยทานกัน และวันพรุ่งนี้ (10 ก.ค.68) เป็นวันเข้าพรรษา วันนี้ไม่อยากจะนำร่าง พ.ร.บ.ฉบับใดเป็นหลัก อยากให้วันนี้เป็นวันทอดกฐิน ทอดเทียนทางการเมือง บุญกุศลเกิดขึ้นทุกคน ไม่ว่าความผิดใด ๆ ที่เป็นมูลเหตุทางการเมือง ยกให้เขาไป
“ผมจะถูกตราหน้าด่าว่า สมัยพวกคุณเป็นเยาวชน เขานิรโทษให้คุณ พอคุณอายุขนาดนี้ มาต่อสู้ในสภาฯ ลูกหลานทำแบบที่คุณต่อสู้มา อยู่ในคุกในตะราง พอถึงเวลาแล้ว คุณเอาผิดลูกหลานที่เป็นผ้าขาว ถ้าผมไม่ได้รับนิรโทษกรรม เวลานี้ผมจะอยู่ที่ไหนไม่ทราบ ลูกหลานที่อยู่ในคุก รู้ได้อย่างไรว่าเขาจะไม่เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เขาอาจจะเป็น สส. เหมือนพวกเรา” นายอดิศร กล่าว
นายอดิศร ระบุว่า ขอขอบคุณทุกพรรคการเมือง อาจจะเห็นต่างกันบ้าง แต่ก็เป็นนิมิตหมายที่อยากให้ทุกคนลืม ถ้าไม่ลืม เดินต่อไม่ได้ พรรคเพื่อไทยเองก็เห็นว่าคุณประโยชน์จากการนิรโทษกรรมครั้งนี้จะมหาศาล จึงขอเรียกร้อง อยากให้บ้านเมืองนี้ไปได้จริง ๆ อย่าคิดเล็กคิดน้อย บ้านเมืองไม่สามัคคี จะไปพัฒนาภายนอกได้อย่างไร บุคลากรสำคัญที่สุด ลูกหลานคิดต่างแล้วติดคุก ถ้าเป็นลูกของคุณบ้าง จะอยู่อย่างไร นายกรัฐมนตรีหรือผู้มีอำนาจ จะมีความสุขได้อย่างไร หากลูกหลานคิดต่างแล้วติดคุกโดยไม่ได้รับการอภัยโทษ
วันนี้เรามาทำบุญแบบยิ่งใหญ่กันดีไหมครับ ทำบุญทางการเมือง ให้ลูกหลานหรือคนที่เห็นต่างกัน ได้มีอิสรภาพ เพื่อมาพัฒนาชาติบ้านเมือง พร้อมกับทิ้งท้ายด้วยบทกลอน
“นิรโทษ ไม่ถือโทษ ยกโทษให้
สร้างปรองดอง คล้องใจ ให้สุขศานต์
ที่ผ่านมา หลายหลาก จินตนาการ
ประสานงาน ประสานใจ ไทยก้าวเดิน”