เสื้อผ้าเหม็นอับเพราะเครื่องซักผ้า! เปิด 5 จุดที่ต้องรีบทำความสะอาดด่วน
เคยไหมที่เสื้อผ้าซักออกมาแล้วไม่ได้กลิ่นหอมสดชื่นอย่างที่คิด กลับมีกลิ่นอับติดมาด้วย ทั้งๆ ที่ก็ใช้ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่มอย่างดี? สาเหตุหลักของปัญหากลิ่นอับในเครื่องซักผ้า ไม่ได้มาจากเสื้อผ้าที่หมักหมมอย่างเดียว แต่มาจากภายในเครื่องซักผ้าของคุณเองที่กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกต่างๆ หากไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี สิ่งสกปรกเหล่านี้ก็จะหมักหมมและส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจจุดอับชื้นในเครื่องซักผ้าเหล่านั้น พร้อมวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ ที่ทำได้เองที่บ้าน
5 จุดที่ทำให้เครื่องซักผ้ามีกลิ่นอับ
ยางขอบประตูเครื่องซักผ้า (สำหรับเครื่องฝาหน้า)
นี่คือตัวการอันดับหนึ่ง! ยางขอบประตูเครื่องซักผ้าฝาหน้ามีร่องและซอกหลืบที่น้ำสามารถขังอยู่ได้ง่าย และมักเป็นจุดที่เศษผ้า ขนสัตว์ ผงซักฟอกที่ตกค้าง และความชื้นสะสมอยู่ กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดีของเชื้อราและแบคทีเรียที่มองไม่เห็น ส่งผลให้เกิดกลิ่นอับรุนแรง
ช่องใส่ผงซักฟอก/น้ำยาปรับผ้านุ่ม
แม้จะดูสะอาด แต่ช่องนี้ก็เป็นอีกจุดที่มักมีคราบผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มตกค้าง เมื่อผสมกับความชื้น จะกลายเป็นเมือกและเชื้อรา ส่งกลิ่นเหม็นอับตามมาได้
ถังซักด้านใน
หลายคนคิดว่าถังซักถูกชะล้างด้วยน้ำและผงซักฟอกตลอดเวลาจึงสะอาด แต่ในความเป็นจริงแล้ว คราบสกปรกจากเสื้อผ้า สิ่งตกค้างจากผงซักฟอก และเชื้อราที่ปะปนมากับน้ำ ก็สามารถเกาะติดอยู่ตามซอกมุมเล็กๆ ด้านใน หรือแม้กระทั่งด้านหลังถังซักที่คุณมองไม่เห็นได้
ไส้กรองน้ำทิ้ง (Lint Filter / Pump Filter)
จุดนี้มักถูกละเลย! ไส้กรองน้ำทิ้งมีหน้าที่ดักจับเศษผ้า เส้นผม หรือสิ่งสกปรกต่างๆ ที่หลุดออกมาจากเสื้อผ้าก่อนที่น้ำจะถูกระบายทิ้ง หากไม่ทำความสะอาดบ่อยๆ เศษสิ่งสกปรกเหล่านี้จะหมักหมม ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเน่า และยังอาจส่งผลให้ปั๊มน้ำทิ้งทำงานหนักขึ้นด้วย
ท่อน้ำทิ้ง
หากท่อน้ำทิ้งไม่ได้ติดตั้งอย่างถูกต้อง มีเศษสิ่งสกปรกอุดตัน หรือมีน้ำขังอยู่เป็นเวลานาน ก็สามารถเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียและส่งกลิ่นย้อนกลับเข้ามาในเครื่องซักผ้าได้
วิธีจัดการกับกลิ่นอับในเครื่องซักผ้าอย่างได้ผล
ทำความสะอาดยางขอบประตู (เครื่องฝาหน้า) เป็นประจำ
หลังซักทุกครั้ง: ใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบน้ำและความชื้นที่ค้างอยู่ตามยางขอบประตูให้แห้งสนิท
- สัปดาห์ละครั้ง: ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 หรือใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำให้เป็นเนื้อข้นๆ แล้วใช้แปรงสีฟันเก่าขัดตามร่องและซอกของยาง จากนั้นเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้งสนิท
- เปิดฝาเครื่องทิ้งไว้: หลังซักเสร็จทุกครั้ง ควรเปิดฝาเครื่องทิ้งไว้ให้ภายในถังซักและยางขอบประตูระบายอากาศและแห้งสนิท เพื่อป้องกันการก่อตัวของเชื้อรา
ทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอก/น้ำยาปรับผ้านุ่ม ถอดลิ้นชักช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มออกมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานหรือน้ำส้มสายชู แล้วใช้แปรงขัดคราบสกปรกออก ล้างน้ำให้สะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนใส่กลับเข้าไป ทำเป็นประจำทุก 1-2 สัปดาห์
ล้างถังซัก (Drum Cleaning):
ใช้น้ำส้มสายชู: เทน้ำส้มสายชูประมาณ 2 ถ้วยตวงลงในช่องใส่ผงซักฟอก (หรือเทลงในถังซักโดยตรง) แล้วเดินเครื่องซักผ้าเปล่าในโปรแกรมน้ำร้อนที่สุด หรือโปรแกรมทำความสะอาดถังซัก (ถ้ามี)
- ใช้เบกกิ้งโซดา: โรยเบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวง ลงในถังซักเปล่า แล้วเดินเครื่องในโปรแกรมน้ำร้อน
- ใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ: มีผลิตภัณฑ์สำหรับล้างถังซักโดยเฉพาะ วางจำหน่ายตามท้องตลาด ให้ทำตามคำแนะนำบนฉลาก
- ควรทำความสะอาดถังซักอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
ทำความสะอาดไส้กรองน้ำทิ้ง ตำแหน่งของไส้กรองมักจะอยู่ที่ด้านล่างของเครื่องซักผ้า (บางรุ่นอาจอยู่ด้านหลัง) ให้ถอดออกมาทำความสะอาดเศษสิ่งสกปรก เส้นผม หรือเหรียญที่อาจติดอยู่ ล้างด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำยาล้างจาน แล้วใส่กลับเข้าไป ควรทำทุก 1-3 เดือน หรือเมื่อสังเกตว่ามีการระบายน้ำช้า
ตรวจสอบท่อน้ำทิ้ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่อน้ำทิ้งไม่มีการหักงอ ไม่มีสิ่งอุดตัน และมีการติดตั้งที่เหมาะสม ไม่ปล่อยให้น้ำขังในท่อ
กลิ่นอับในเครื่องซักผ้าเป็นปัญหาที่แก้ได้ไม่ยาก เพียงแค่คุณใส่ใจและหมั่นทำความสะอาดตำแหน่งในเครื่องซักผ้าที่มักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย ไม่ว่าจะเป็นยางขอบประตู ช่องใส่ผงซักฟอก ถังซัก หรือไส้กรองน้ำทิ้ง การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำข้างต้น จะช่วยให้เครื่องซักผ้าของคุณสะอาดปราศจากกลิ่นอับ และส่งผลให้เสื้อผ้าของคุณหอมสดชื่น พร้อมใช้งานในทุกๆ วัน
อ่านเพิ่ม