เคาะไป คุยไป : เคาะ ERW
#ERW #ทันหุ้น– ผลการดำเนินงานใน 2Q/25 มีกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท -51%YoY ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีน–เอเชียลดลง จากเรื่องแผ่นดินไหว ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน การปิดรีโนเวตบางโรงแรม เช่น นาคา ภูเก็ต และเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ ทำให้รายได้กลุ่ม Luxury–Economy อ่อนตัว ขณะที่ Budget Segment ยังแข็งแรงเพราะพึ่งพาตลาดในประเทศเป็นหลัก เช่น แบรนด์ Hop Inn โดยภาพรวม Occupancy เฉลี่ยราว 76% (-8% YoY), Average Rate (ARR) -4% YoY และ RevPAR ทั้งกลุ่ม -13% YoY ซึ่งปัจจุบันมีพอร์ตทั้งสิ้น 99 โรงแรม 12,000 ห้อง ในไทย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น
บริษัทได้ปรับลดประมาณการทางการเงินปี 2568 โดยรายได้รวมทั้งกลุ่มถูกปรับลงจากเดิมคาดการณ์เติบโต 6–8% เหลือ 3–5% สะท้อนถึงการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่ล่าช้ากว่าคาด ส่งผลให้กลุ่ม Luxury–Economy ถูกปรับจากเดิมคาดบวกเล็กน้อยเป็นทรงตัว ขณะที่ Budget Segment ยังคงขยายตัวแต่ลดลงจาก 23% เหลือ 20% เนื่องจากผลกระทบระยะสั้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในระยะสั้น บริษัทยังคงเผชิญแรงกดดันจากอัตราการเข้าพัก (Occupancy) และราคาห้องพักเฉลี่ย (ARR) ที่ชะลอตัว โดยคาดว่า 3Q RevPAR จะลดลงราว 8% และ 4Q แม้เป็น High season ก็ยังลดลง 5% เมื่อเทียบปีก่อน
อย่างไรก็ดี บริษัทได้ดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกในการทดแทนดีมานด์จีน (13-14% ของรายได้) ด้วยการเจาะตลาดอินเดีย ยุโรป และตะวันออกกลาง ควบคู่กับการเพิ่มช่องทาง Direct Booking และการใช้ Dynamic Pricing ขณะเดียวกัน บริษัทได้ลงทุนในโครงการใหม่ Combo Hotel (2 แบรนด์ในตึกเดียว) ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ ซึ่งมีศักยภาพสูงทั้งด้านทำเลและผลตอบแทน โดยใช้งบประมาณราว 2,000 ล้านบาท และตั้งเป้าเปิดในปี 2029 รวมถึงแผนเปิดโรงแรมใหม่ 10 แห่งในปีนี้โดยเน้นกลุ่ม Budget/Non-luxury และการขยายเครือข่ายในเอเชีย ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างการเติบโตระยะยาว
ในเชิง Sentiment มีประเด็นการต่อสัญญาเช่าที่ดินโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ที่มีบันทึกข้อตกลงระหว่าง ERW กับรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้โรงแรมดำเนินกิจการต่อได้ตามปกติภายใต้สัญญาเดิมจนกว่าจะได้สัญญาใหม่ โดยคาดว่าจะได้ต่อสัญญาแต่แลกมากับค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น 5-10% ขณะที่ P/E ปัจจุบันอยู่บน 12.88x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มโรงแรมที่ 16x มองว่า Valuation ปัจจุบันน่าสนใจ ราคาหุ้นปรับตัวลงมากว่า 37%YTD สะท้อนปัจจัยลบด้านผลประกอบการไปพอสมควรแล้ว IAA Consensus ประเมินกำไรสุทธิปีนี้เฉลี่ยที่ 820.7 ล้านบาท -35%YoY ราคาเป้าหมายเฉลี่ยเท่ากับ 3.12 บาท
แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค สร้างแนวต้านจุดสูงแท่งเทียนคู่และปรับตัวลงแรงทดสอบยืนแนวรับจุดต่ำแท่งเทียนและแนวรับจิตวิทยาได้มั่นคง แนวโน้มเกิด Key Reversal แนวต้านจุดทดสอบ SMA 2.52 ผ่านยืนและมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้านจุดสูงแท่งเทียนเดิม
คำแนะนำASL
กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 2.52/2.68
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 2.40/2.34ไม่ควรต่ำกว่า