โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

'อัยย์ไทย' SME สมุนไพรร่วมสมัย Soft Power ไทยศูนย์กลางสมุนไพรโลก

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ความผันผวนทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และความขัดแย้งระหว่างประเทศ ล้วนส่งผลกระทบต่อธุรกิจทุกประเภท รวมถึง “ธุรกิจสมุนไพร” ที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แต่อาจจะไม่มากเท่ากับธุรกิจอื่นๆ เพราะด้วยความเครียดของผู้คน ปัญหาสุขภาพ ทำให้ผู้คนหันมาใช้สมุนไพรในการดูแลรักษา ป้องกันโรคมากขึ้น

ปัจจุบันตลาดสมุนไพรไทยขึ้นเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน และ อันดับ 4 ในภูมิภาคเอเชีย มูลค่าปี 2567 สูงถึง 63,045 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปี 2570 ตลาดจะมีมูลค่าสูงถึง 100,000 ล้านบาท โดยพืชสมุนไพรมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 8.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวอยู่ที่ 51.02% YoY (Year-over-Year :การเปรียบเทียบข้อมูลในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว)

ขณะที่สารสกัดจากสมุนไพรอยู่ที่ 5.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวที่ 14.85% YoY และน้ำมันหอมระเหยมีมูลค่าอยู่ที่ 8.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวเล็กน้อยที่ 3.19%YoY โดยประเทศจีนยังคงเป็นคู่ค้าหลัก

“สมุนไพร” ถือเป็นหนึ่งใน Soft Power ของรัฐบาลที่วางแผนผลักดัน เพื่อเพิ่มมูลค่าส่งออกและมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยโครงการพัฒนาเมืองสมุนไพร (Herbal City) ใน 15 จังหวัดได้สร้างรายได้กว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ผ่านการขายผลิตภัณฑ์-บริการเกี่ยวกับสมุนไพร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

สุดปัง! GPO โชว์ Plant-Based ใน WORLD EXPO ดันสมุนไพรไทยสู่เทรนด์โลก

รับประทาน 'วิตามิน สมุนไพร ยาบำรุง' อย่างไร? ให้ตับไม่พัง

ตลาดสมุนไพรเติบโตเฉลี่ย 5-7%

ภญ. อภิรดี สันติอัศวราภรณ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์อัยย์ไทย และ ภก. สันติ สันติอัศวราภรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ถึงภาพรวมของตลาดสมุนไพรไทยว่าปัจจุบันสุขภาพแบบองค์รวม (Wellness) ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก และสมุนไพร ตลาดสมุนไพรไทยมีอยู่ประมาณ 50,000 ร้านค้า มีการเติบโตเฉลี่ย 5-7 % และมีแนวโน้มการเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งด้านการบริโภคและการบำบัดรักษา สมุนไพรถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเพื่อสุขภาพ ช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยา อีกทั้ง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เวชสำอาง และการนวดไทย การประคบ ล้วนทำให้ตลาดสมุนไพรเติบโตมากขึ้น

“ตลาดสมุนไพรไทยมีอัตราการเติบโตที่ดี แต่การจะเข้าสู่ตลาดโลกนั้น ต้องอยู่ที่การจัดทำแบรนด์ดิ้งมาตรฐาน การวางตำแหน่ง และการสนับสนุนจากภาครัฐ เพราะในตลาดมีการแข่งขันค่อนข้างสูง หากมีการผลักดันเข้าสู่ตลาดโลกอย่างมีคุณภาพ มีความต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงกระแส จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านสมุนไพรของโลกได้อย่างแท้จริง”

ทุกภาคส่วนร่วมผลักดันสมุนไพรสู่สากล

อาหารไทย นวดไทย ล้วนเป็น Soft Power ที่ได้รับความนิยมและติดอันดับโลกที่มีการนำสมุนไพรไปใช้ แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องของการโฆษณา การสร้างความเข้าใจ และการยอมรับว่า “สมุนไพรไทย” เป็นจุดแข็งของไทยที่หากมีการผลักดันสนับสนุนจะทำให้เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และการเติบโตจีดีพีของประเทศไทย

ภก.สันติ กล่าวต่อว่า คนทั่วโลกต่างรู้จักสมุนไพรไทย แต่จะเป็นการรู้จักตามกระแส เช่น ลิซ่าใช้ยาดม คนก็จะมาใช้ยาดมตามลิซ่า หรือต่างชาติชอบการนวดไทยก็จะซื้อยาหม่อง หรือน้ำมันหอมระเหยของไทยไปใช้ แต่พอหมดกระแส ทุกอย่างก็กลับไปจุดเดิม ซึ่งการส่งออกเรื่องของธุรกิจสมุนไพร ปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถเติบโตได้เท่าที่ควร คือเรื่องของคุณภาพ และมาตรฐาน รวมถึงการตรวจสอบย้อนกลับ เพราะผลิตภัณฑ์สมุนไพร ต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าวัตถุดิบที่นำมาใช้ได้มาตรฐานหรือไม่ ส่วนผสม สูตรที่ใช้

“การผลักดันสมุนไพรไทย ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องบูรณาการร่วมกัน เช่น กระทรวงพาณิชย์ต้องดูแลเรื่องการส่งออก กระทรวงมหาดไทยต้องผลักดันสินค้าโอท็อป วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบสมุนไพร กระทรวงอุตสาหกรรมต้องควบคุมเรื่องมาตรฐานของสินค้าและผลิตภัณฑ์ กระทรวงสาธารณสุข ต้องดูเรื่องสรรพคุณทางยา หรือการส่งเสริมผู้ประกอบการ แพทย์แผนไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ต้องดูเรื่องของผลงานวิจัยในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งแต่ละกรม กองต่างๆ ในหน่วยงานต้องประสานความร่วมมือ มองไปในทิศทางเดียวกัน”

ล่าสุด กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการผลักดันผู้ประกอบการสมุนไพร หรือสธ.ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปี ครั้งที่ 22 หรือ Thailand Herbal Expo 2025 ภายใต้แนวคิด“ภูมิปัญญาไทย ซอฟต์พาวเวอร์ไทย สร้างเศรษฐกิจไทย” ในวันที่ 2-6ก.ค.2568 ที่อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งจะช่วยยกระดับแพทย์แผนไทยและสมุนไพรให้กลายเป็นกลไกสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจสุขภาพ

ยกระดับวิสาหกิจชุมชน SME ช่วยสมุนไพร

ภก. สันติ กล่าวต่อไปว่า สมุนไพรไทยมีมูลค่าและสามารถส่งออกได้ เพียงแต่ต้องสร้างมาตรฐาน เพิ่มความสามารถในการผลิต การจัดส่งออก และกำหนดตลาดให้สมุนไพรไปพร้อมๆ กัน เพราะตอนนี้มีการสนับสนุนเรื่องการท่องเที่ยว อาหาร วัฒนธรรม ควรเพิ่มสมุนไพรเข้าไปด้วย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ชาวต่างชาติรู้จักและต้องการ อย่าง ยาดม ยาหม่อง หรือขมิ้นชัน ไพล ตะไคร้ และใบบัวบก ซึ่งอัยย์ไทย มีผลิตภัณฑ์สำหรับลูกประคบไทย น้ำมันหอมระเหย เป็นตัวพ่วงของการนวดไทย และศาสตร์ชะลอวัย

“อัยย์ไทยเป็น SME ที่มองหาแหล่งวัตถุดิบจากผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน เพื่อนำมาสกัดเป็นผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ทั้งที่สมุนไพรที่เกษตรกร วิสาหกิจชุมชนปลูกนั้นมีคุณภาพ ดังนั้น การนำมาใช้สกัด พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร ภาครัฐต้องสนับสนุนให้วิสาหกิจชุมชนได้มาตรฐาน มีใบรับประกันสินค้า วัตถุดิบสามารถทำการตรวจสอบได้ ซึ่งนอกจากเป็นการยกระดับผู้ประกอบการ SME แล้ว ยังเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่สมุนไพรของเกษตรกรร่วมด้วย”

แบรนด์ไทยแก้ไขความเครียด

การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร ต้องมีการควบคุมคุณภาพมาตรฐาน ได้รับการรับรอง และมีงานวิจัยรองรับ ซึ่งแบรนด์สินค้าไทยเป็นการใช้องค์ความรู้ และภูมิปัญญาไทยเข้ามาผสมผสาน “อัยย์ไทย” เป็นแบรนด์เพื่อใช้แก้ไข และสรรสร้างผลิตภัณฑ์เรื่องสุขภาพผิว และความเครียด ที่ได้มาตรฐาน และมีความสม่ำเสมอ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ใช้ง่าย ใช้ได้สะดวก และมีอัตลักษณ์จัดการดูแลความเครียด

ส่วน กลุ่มสุขภาพผิว อาทิ เจลสมุนไพรนวัตกรรม ITHAI Natural Oriental Aroma Gel นวัตกรรมจากลูกประคบ ช่วยบรรเทาความเครียดและปวดคอไหล่ได้อย่างรวดเร็ว เอาไพลขมิ้นมาทำรูปแบบเจล เนื้อครีมไม่เหนียวเหนอะหนะ หรือสีสมุนไพรไม่เปื้อนผิว และเปื้อนเสื้อผ้า และอโรม่าสเปรย์เพื่อสุขภาพ แก้ปัญหาการหายใจ การนอนหลับยาก และคลายเครียด รวมทั้งครีมบรรเทาอาการคัน ผิวแพ้ง่าย ฟื้นฟูผิวแห้งแตกเป็นขุย

ภายใต้การนำ 2 เภสัชกร “ITHAI Natural อัยย์ไทย เนเชอรัล” มีอัตราการเติบโต 100% 2 ปีติดกัน และปีนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มอีก 20% จากภาวะเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของทั่วโลก ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่ได้มาตรฐาน ตอบโจทย์ตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และไต้หวัน รวมถึงจะรุกตลาดจีน ตะวันออกกลาง และยุโรปให้มากขึ้น ซึ่งจะให้ความสำคัญเรื่องของแบรนด์ดิง การจดจำ การรับรู้ และการเล่าเรื่องของแบรนด์พยายามผลักดันให้สมุนไพรไทย มีการพัฒนาบนฐานงานวิจัย การสร้างความร่วมมือ และการออกบูธ ให้ทุกคนรู้จักสมุนไพรทั้งในประเทศ และระดับโลกมากขึ้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

'ภูมิธรรม' ลั่น รักษาการนายกฯ มีอำนาจเต็ม ยังไม่ถาม 'กฤษฎีกา' ยุบสภาได้หรือไม่

18 นาทีที่แล้ว

โชว์ 7 นวัตกรรมสิทธิบัตรทอง @ World Expo 2025 ญี่ปุ่นเลิฟรากฟันเทียม

19 นาทีที่แล้ว

'ภูมิธรรม' ลุยสางปม เขากระโดง โว เด็ดขาดพอเคลียร์ ที่ดินอัลไพน์ ชินวัตร

22 นาทีที่แล้ว

ตลท. ให้ ECF แจงแก้วันใช้สิทธิ ECF-W5 ปรับกระชั้นเป็น 1ก.ค. และขอ SP 4 ก.ค.

29 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

โชว์ 7 นวัตกรรมสิทธิบัตรทอง @ World Expo 2025 ญี่ปุ่นเลิฟรากฟันเทียม

กรุงเทพธุรกิจ

ยิ่งเครียดนาน ภูมิแพ้ยิ่งรุนแรง แก้อย่างไร

TNN ช่อง16

LDCT การคัดกรองโรคปอด ด้วยปริมาณรังสีน้อยกว่าการทำ CT Scan

TNN ช่อง16

รักพังเพราะพฤติกรรม Phubbing เมินคนรักเพราะติดมือถือ

TNN ช่อง16

เบาหวานรักษาไม่หายแต่ควบคุมได้ เช็ก 7 วิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อนอันตราย!

PPTV HD 36

คนไทยกินเยอะมาก!! 5 ผักยอดฮิต ที่จริงเเล้วแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย

News In Thailand

ภาวะแทรกซ้อนอันตรายเบาหวาน เสี่ยงสูญเสียอวัยวะ เสียชีวิตเฉียบพลัน

PPTV HD 36

น้ำจิ้มๆ อร่อย แต่โซเดียมพุ่ง! สูตรจำง่าย ลดเค็ม ลดโรคได้ทุกมื้อ

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...