นักวิชาการชี้ม็อบแฝงเป้าหมาย รอจังหวะ 1 ก.ค. บ่มเงื่อนไข เชื่อทหารไม่คิดรัฐประหาร
นักวิชาการชี้ม็อบแฝงเป้าหมาย รอจังหวะ 1 ก.ค. บ่มเงื่อนไข เชื่อทหารไม่คิดรัฐประหาร กลัวประเทศบอบช้ำหนัก แนะ “เพื่อไทย” เลิกหลอกตัวเอง หลังโพลคะแนนนิยมทั้งคนทั้งพรรคตกฮวบ
วันที่ 29 มิ.ย. 2568 ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์ไทยรัฐทีวี วิเคราะห์การชุมนุมของกลุ่มคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย. 2568) เป็นจุดเริ่มต้นของการชุมนุมขับไล่รัฐบาลแพทองธารหรือไม่ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวานถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ยังรอจังหวะสัญญาณทางการเมือง ขึ้นอยู่ว่ารัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตรจะไปต่อได้นานขนาดไหน ซึ่งสัปดาห์นี้มีท่าทีของศาลรัฐธรรมนูญคอยชี้อยู่ ถ้าศาลรับคำร้องและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อาจจะทำให้ม็อบมารวมตัวกันได้ไม่น่าจะเร็ว รวมถึงสัญญาณของการแต่งตั้งตนเองให้ควบตำแหน่งรัฐมนตรีอีกกระทรวง เพื่อเตรียมช่องทางไว้ต่อสู้ ตนเองจึงคิดว่าม็อบที่เคลื่อนไหวอยู่ตอนนี้อาจจะต้องรอสัญญาณและการบ่มเงื่อนไข จะไปต่อได้หรือไม่ต้องรอวันที่ 1 กรกฎาคม แล้วมีรักษาการนายกรัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็นใครขึ้นมาทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีก็จะทำให้ม็อบใช้เป็นเหตุผลในการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนี้ได้
แกนนำสัญญาณชัด ทำสังคมผวา
ส่วนการประกาศจุดยืนชัดเจนของแกนนำรุ่นใหญ่ของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ โดยเฉพาะข้อความบนเวทีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัยและถูกนำไปตีความเป็นการกวักมือเรียกให้ทหารลุกขึ้นมาทำรัฐประหาร ถือเป็นการแบะท่าทีและความต้องการชัดเจน ซึ่งนี้อาจทำให้คนเกิดความกังวลใจ หากรอบนี้มีการทำรัฐประหารจริงจะสร้างความกระทบกระเทือนรุนแรง ทุกครั้งที่รัฐประหารเกิดขึ้นในสังคมเกิดความแตกแยกทางความคิดและทางการเมืองมากขึ้นไปอีก หลายคนจึงอยากให้แก้ไขด้วยกลไกทางการเมือง นั่นคือระบอบรัฐสภา หากนางสาวแพทองธารไม่ได้ไปต่อ และนายทักษิณ ชินวัตรจำเป็นต้องกลับไปรับคำพิพากษา เท่ากับว่าหัวขบวนของพรรคเพื่อไทยหัวขาดแล้ว ความคิดและความรู้สึกของ สส. ในพรรคเพื่อไทยอาจจะไม่เหมือนกัน จึงจะต้องมีการสรรหาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามกลไกของรัฐสภา ขณะเดียวกันตนเองก็คิดว่าประเทศไทยไม่น่าจะมีการทำรัฐประหารแล้ว เพราะคนไทยได้บทเรียนจากรัฐประหารมาหลายครั้งและผลกระทบแต่ละครั้งก็ไม่เหมือนกัน หากเกิดรัฐประหารจริงก็จะเข้าทางความต้องการของสมเด็จฮุนเซน ที่กล้าออกมาทำนายทายทักว่าภายในสามเดือนประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี หากทหารลุกขึ้นมาทำรัฐประหารจะยิ่งทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบโลกโดยเฉพาะกับสหรัฐอเมริกา
มีคนหวังใช้ประโยชน์จากรัฐประหาร
ผศ.ดร.วันวิชิต มองด้วยว่ามีหลายกลุ่มที่จ้องจะใช้ประโยชน์จากการรัฐประหาร จึงจ้องที่จะยุให้เกิดรัฐประหาร คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่หวังดีกับประเทศชาติ “ผมมั่นใจว่าที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารบกมีบทบาทสำคัญต่อการทำรัฐประหาร ต้องสะสมทุนและบารมีในสังคมให้มาก แต่จะสังเกตได้ว่าระยะหลังผู้บัญชาการทหารบก คนปัจจุบันคนไทยยังจำชื่อไม่ได้ด้วยซ้ำ นี่ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่ากองทัพไม่อยากไปยุ่งกับการเมือง กองทัพพยายามสร้างระยะห่างให้กับการเมือง”
แนะหาคนรุ่นใหม่เรียกศรัทธาม็อบ
อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.วันวิชิต ประเมินว่า อีกหนึ่งสัญญาณที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการชุมนุมก็คือการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ที่ทำให้คนไทยเกิดความรู้สึกเรื่องของการขาดจริยธรรม แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีโดยไม่แคร์ เพียงเพื่อแบ่งเค้ก แบ่งโควตาเท่านั้น ส่วนการชุมนุมจะสามารถเรียกคนมารวมตัวกันได้ล้นหลามเหมือนเมื่อวานอีกครั้งหรือไม่ ปัจจัยที่สำคัญคือต้องมีบุคคลหน้าใหม่ที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของคนไทยมากกว่าที่จะใช้แกนนำคนเดิม หน้าเดิม เพราะอาจจะถูกย้อนรอยและกระทบต่อความน่าเชื่อถือได้
สะกิดเพื่อไทยเลิกสะกดจิตตัวเอง
ส่วนกรณีที่นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความเห็นประชาชนที่คะแนนนิยม น.ส.แพทองธาร หล่นไปอยู่อันดับ 5 และคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยตกไปอยู่ที่ 3 แต่พรรคเพื่อไทยยังมั่นใจว่าคะแนนยังไม่ตกนั้น ผศ.ดร.วันวิชิต ระบุว่า พรรคเพื่อไทยอาจจะหลงและสะกดจิตตัวเอง อยากให้ยอมรับความจริงกันได้แล้ว เพราะผลสำรวจที่ออกมาเป็นสิ่งที่จะต้องตกใจและต้องแก้ไขสถานการณ์ให้ได้
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : นักวิชาการชี้ม็อบแฝงเป้าหมาย รอจังหวะ 1 ก.ค. บ่มเงื่อนไข เชื่อทหารไม่คิดรัฐประหาร
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ไม่ตกใจผลโพล “อิ๊งค์” แต้มร่วง “วิสุทธิ์” มั่นใจ ครม.ใหม่ กู้คะแนนนิยมดีขึ้น
- เพื่อไทยประสานเสียง “ไม่เอารัฐประหาร” รับไม่ได้แกนนำม็อบปลุกปั่น
- "ภูมิธรรม" ปัด รทสช. ให้เปลี่ยนตัวนายกฯ ชี้ภัยคุกคามอยู่นอกประเทศ
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath