"พิชัย" ปิดดีลภาษีสหรัฐฯ ร้อยละ 19 เก็บจริง 7 ส.ค.นี้
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตอนนี้เรื่องภาษีที่ไทยได้อัตราร้อยละ 19 ยังต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ ว่าจะเปิดตลาดสินค้าอะไรบ้าง
โดยหลักการคือ ไทยจะเปิดตลาดสินค้า 0% หากรายละเอียดของข้อตกลงเมีความชัดเจนก็จะประกาศอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับเขตการค้าเสรีหรือ FTA ที่ได้มีการประกาศไปแล้ว รวมถึงในเรื่องนี้จะต้องเข้าสู่ที่ประชุมของคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เนื่องจากเป็นประเด็นที่สำคัญ
ส่วนในเรื่องการเปิดตลาดสินค้าเกษตรนั้นในส่วนเนื้อหมูมีการเปิดตลาดเพียงเล็กน้อยไม่ถึงร้อยละ 1 เท่านั้น ของการบริโภคในประเทศ เพื่อเปิดตลาดต่างประเทศ
แต่จะต้องได้รับการตรวจสอบจากโรงงานอย่างเข้มข้น ส่วนถั่วเหลืองจะมีสัดส่วนการนำเข้าใกล้เคียงกับข้าวโพด จำนวน 1-2 ล้านตัน
นอกจาก สินค้าเกษตรที่จะเปิดตลาดแล้วยังมีตลาดอื่นๆที่นำเข้าสินค้าทางลัดเพิ่มเติมเช่น เครื่องบิน ที่มีแผนอยู่แล้ว โดยในอนาคตมีแผนจะซื้ออีก 80-90 ลำที่จะเอาเข้ามาภายใน 10 ปี
ส่วนพลังงานปัจจุบันไทยใช้น้ำมันดิบอยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยไทยซื้อร้อยละ 10 เริ่มปี 2569
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการจัดเก็บภาษีนำเข้าจะมีผลตั้งแต่ 7 ส.ค. 68 เป็นต้นไป โดยผู้ที่ส่งออกสินค้าไปถึงสหรัฐก่อนวันที่ 7 ส.ค.68 ยังคงจ่ายภาษีในอัตราเดิมที่ร้อยละ 10
และหากส่งออกสินค้าไปถึงสหรัฐฯวันที่ 7 ส.ค. 68 จะต้องจ่ายภาษีนำเข้าในอัตราใหม่ร้อยละ 19 และ และหากสวมสิทธิ์จะถูกเก็บในอัตรา ร้อยละ 40
สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น จะต้องเน้นให้เกิดการจ้างงาน และเกิดการใช้ local content ในประเทศ โดยได้ให้ภาคเอก ไปประเมินว่าแต่ละภาคธุรกิจได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด และเสนอกลับมาที่กระทรวงการคลังเพื่อขอรับการเยียว
ทั้งนี้ รัฐบาลเตรียมวงเงินจากกองทุนกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการจ้างงาน การปรับปรุงสายการผลิต และรองรับต้นทุนที่สูงขึ้นในช่วงระหว่างรอการสรุปข้อตกลง
อย่างไรก็ตาม ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ผู้ส่งออกจำนวนมาก ชะลอการส่งออก และนักลงทุนต่างชาติบางรายก็ชะลอการตัดสินใจลงทุนใหม่ โดยรอความชัดเจนเรื่องภาษีนำเข้าในตลาดสหรัฐ
ซึ่งเมื่อมีประกาศอัตราร้อยละ 19 ออกมาแล้ว เชื่อว่าการตัดสินใจของภาคเอกชนจะเดินหน้าต่อได้
ขณะที่การสกัดการไหลทะลักสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศนั้น หากไม่มีการขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐ
รัฐบาลก็ได้มีมาตรการดำเนินการป้องกันสินค้าราคาถูกที่ไม่มีคุณภาพ ไม่เกิดการจ้างงาน และไม่ใช้ Local content อยู่แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ 1 ปี จะต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่าสัดส่วนสินค้าเหล่านี้ลดลงหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง