เมียนมา ปิดด่านทำสินค้าไทยตกค้างอื้อ "จตุพร"สั่งเร่งแก้ปัญหาด่วน
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ทางการเมียนมาปิดด่านเมียวดี-แม่สอด สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ฝั่งเมียนมาตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.68 ว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ กรุงย่างกุ้ง เมียนมาว่า ได้ปิดด่านดังกล่าวชั่วคราว เพราะเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางของเมียนมา มาตรวจสอบการนำเข้าสินค้าที่ด่านนี้ และเพิ่มความเข้มข้นปราบปราม และสกัดสินค้าลักลอบนำเข้า ส่งผลให้มีรถและเรือบรรทุกสินค้าติดค้างจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม จากการที่ สคต.ย่างกุ้ง ได้สอบถามจากภาคเอกชนและธุรกิจโลจิสติกส์ในพื้นที่ คาดว่า จะกลับมาเปิดด่านประมาณวันที่ 21 ส.ค.นี้ อีกทั้งจะมีการปรับมาตรการตรวจสกัด และปราบปรามสินค้าลักลอบนำเข้า โดยจะตรวจใบอนุญาตนำเข้า (Import License) เข้าเมียนมาเข้มข้นขึ้น
“เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสำหรับสินค้าไทยที่ตกค้างอยู่หน้าด่าน ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศเชิญทูตพาณิชย์เมียนมาประจำประเทศไทย มาหารือแล้ว นอกจากนี้ สินค้าไทยที่จะเข้าสู่เมียนมา ต้องขอใบอนุญาตการนำเข้าตามแนวทางที่เมียนมากำหนดด้วย”นายจตุพร กล่าว
ขณะที่ด่านอื่นๆ ระหว่างไทย-เมียนมา ยังไม่มีการปิดแต่อย่างใด โดยปัจจุบัน ทั้ง 2 ประเทศ มีจุดผ่านแดนทั้งหมด 21 แห่ง ใน 7 จังหวัด แบ่งเป็น จุดผ่านแดนถาวร 6 แห่ง ที่เชียงราย ตาก กาญจนบุรี ระนอง, จุดผ่อนปรนการค้า 13 แห่ง ที่เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ระนอง, จุดผ่อนปรนพิเศษ 1 แห่ง คือ ด่านสิงขร ประจวบคีรีขันธ์ และจุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว 1 แห่งที่ด่านเจดีย์สามองค์ กาญจนบุรี
สำหรับมูลค่าการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ช่วง 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) ปีนี้ อยู่ที่ 105,149 ล้านบาท ลดลง 24.91% เทียบช่วงเดียวกันปี 67 โดยไทยส่งออก 63,572 ล้านบาท ลดลง 16.36% นำเข้า 41,578 ล้านบาท ลดลง 35.07% และไทยได้ดุลการค้า 21,994 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อแยกเป็นรายด่านศุลกากร พบว่า ด่านศุลกากรแม่สอด จ.ตาก มีมูลค่าสูงสุด 45,378 ล้านบาท ลดลง 9.71% ตามด้วยด่านสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี 32,406 ล้านบาท ลดลง 33.27%, ด่านศุลกากรระนอง จ.ระนอง 18,199 ล้านบาท ลดลง 12.23%, ด่านศุลกากรแม่สาย จ.เชียงราย 8,066 ล้านบาท ลดลง 47.13%, ด่านศุลกากรประจวบคีรีขันธ์ 300 ล้านบาท ลดลง 93.94%, ด่านศุลกากรแม่ฮ่องสอน 698 ล้านบาท เพิ่ม 266.35%, ด่านศุลกากรแม่สะเรียง จ.เชียงใหม่ 104 ล้านบาท เพิ่ม 35%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ถูกกดดันจากมาตรการการตรวจใบอนุญาตนำเข้าสินค้า ที่เข้มงวดมากขึ้นของฝ่ายเมียนมาโตยลอด และได้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นไปอีกตั้งแต่ช่วงกลางปี 67 เป็นต้นมา ส่งผลกระทบอย่างมากในด่านศุลกากรแม่สอด ซึ่งมีสัดส่วนเกือบ 40% ของมูลค่าการค้าชายแดนไทย-เมียนมา และด่านศุลกากรระนอง ที่มีสัดส่วนเกือบ 20% มาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม แม้การปิดด่านเมียวดี-แม่สอดขณะนี้ ยังไม่กระทบต่อด่านอื่นๆ มีเพียงด่านศุลกากรแม่สอด จ.ตาก และด่านศุลกากรระนอง จ.ระนอง ที่ได้รับผลกระทบ เพราะแม่สอดมีเส้นทางขนส่งตรงสู่เมืองเมียวดีและเชื่อมต่อเข้าสู่ย่างกุ้ง ส่วนระนองก๋เชื่อมเส้นทางเรือไปยังท่าเรือเกาะสองของเมียนมา ก่อนส่งต่อไปยังย่างกุ้งและเมืองท่าสำคัญอื่นๆ แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อ ผู้ส่งออกไทยคงต้องเปลี่ยนเส้นทางขนส่ง และใช้ด่านอื่นแทน
นอกจากนี้ ธุรกิจไทยควรมองหาคู่ค้าเมียนมาที่มีศักยภาพ ในการจับคู่ทำ Export Earning สำหรับการขอ Import License ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงและเสถียรภาพทางการค้า และลดความเสี่ยงในการขออนุมัติเอกสารได้